ในการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนของคนอีสานมักเลือกทำเลที่เอื้อต่อการยังชีพ
ซึ่งมีองค์ประกอบทั่วไปดังนี้
1. แหล่งน้ำ
นับเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก อาจเป็นหนองน้ำใหญ่หรือห้วย หรือ
ลำน้ำที่แยกสาขามาจากแม่น้ำใหญ่
ที่มีน้ำเฉพาะฤดูฝนส่วนมากเป็นที่ราบลุ่มสามารถทำนาเลี้ยงสัตว์
ได้ในบางฤดูเท่านั้น
ชื่อหมู่บ้านมักขึ้นต้นด้วยคำว่า "เลิง วัง ห้วย กุด หนอง
และท่า" เช่น เลิงนกทา วังสามหม้อ ห้วยยาง กุดนาคำ
หนองบัวแดง ฯลฯ
2. บริเวณที่ดอนเป็นโคกหรือที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง
สามารถทำไร่และมีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์
มีทั้งที่ดอนริมแม่น้ำและที่ดอนตามป่าริมเขา
แต่มีน้ำซับไหลมาบรรจบเป็นหนองน้ำ
ชื่อหมู่บ้านมักขึ้นต้นด้วนคำว่า "โคก ดอน โพน และโนน"
เช่น โคกสมบูรณ์ ดอนสวรรค์ โพนยางคำ ฯลฯ
3. บริเวณป่าดง
เป็นทำเลที่ใช้ปลูกพืชไร่และสามารถหาของป่าได้สะดวก
มีลำธารไหลผ่าน
เมื่ออพยพมาอยู่กันมากเข้าก็กลายเป็นหมู่บ้านและมักเรียกชื่อหมู่บ้านขึ้นต้นด้วยคำว่า
"ดง ป่า และเหล่า" เช่น โคกศาลา ป่าต้นเปือย เหล่าอุดม ฯลฯ
4. บริเวณที่ราบลุ่ม
เป็นพื้นที่เหมาะในการทำนาข้าว
และทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ในหน้าแล้ง
ตัวหมู่บ้านจะตั้งอยู่บริเวณขอบหรือแนวของที่ราบติดกับชายป่า
แต่น้ำท่วมไม่ถึงในหน้าฝน
บางพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มมีน้ำขังตลอดปี เรียกว่า "ป่าบุ่งป่าทาม"
เป็นต้น
5. บริเวณป่าละเมาะ
มักเป็นที่สาธารณะสามารถใช้เลี้ยงสัตว์และหาของป่าเป็นอาหารได้
ตลอดจนมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่นำมาเป็นอาหารยังชีพ
รวมทั้งสมุนไพรใช้รักษาโรค
และเป็นสถานที่ยกเว้นไว้เป็นดอนปู่ตาตามคติความเชื่อของวัฒนธรรมกลุ่มไต-ลาว
|