สถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์
สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
เสด็จขึ้นครองราชย์และสถาปนากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวงกรุงรัตนโกสินทร์
และทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเหมือนกรงศรีอยุธยาแห่งที่สอง
กล่าวคือได้มีการสร้างสถาปัตยกรรมที่สำคัญ
โดยเลียนแบบอย่างมาจากกรุงศรีอยุธยารวมไปถึงสถาปัตยกรรมประเภท
บ้านพักอาศัย
เรือนไทยบางเรือนที่ยังคงเหลือจากการทำศึกสงครามกับพม่าก็ถูกถอดจากกรุงศรีอยุธยามาประกอบที่กรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครกลายเป็นมหานครศูนย์กลางแห่งหนึ่งที่รวบรวมเอาผู้คนหลายหลายชาติวัฒนธรรมเข้ามารวมอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น
แขก
(อินเดีย)
ฝรั่ง
(ชาติตะวันตก)
และ จีน
ที่มีการซึมซับวัฒนธรรมอื่นมาทีละน้อย
หลักฐานในยุคนั้นไม่ปรากฏเท่าไร
เนื่องจากผุพังไปตามสภาพกาลเวลา
แต่จะเห็นได้จากภาพตามจิตรกรรมฝาผนังของวัดต่างๆ
ที่สร้างขึ้นในสมัยนั้น
รวมถึงรูปแบบบ้านพักอาศัยซึ่งมีตึกปูนแบบจีนอยู่ค่อนข้างมาก
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
นับเป็นยุคทองแห่งศิลปะจีน
มีการใช้การก่ออิฐถือปูนและใช้ลวดลายดินเผาเคลือบประดับหน้าบันแทนแบบเดิม
สมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มมีการติดต่อกับชาติตะวันตกมากขึ้นดังเช่น
วัดนิเวศธรรมประวัติ
ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งเป็นศิลปะแบบกอธิค
ต่อมาในยุคที่มีการล่าอาณานิคม พระมหากษัตริย์ของเราก็ทรงพระปรีชาสามารถเลือกหนทาง
การประนีประนอม
ไม่ให้เสียเอกราชไปโดยที่เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความเป็นอยู่ของตัวเอง
สถาปัตยกรรมไทยในสมัยนั้นจึงมีหน้าตาเป็นแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก
บ้านเรือนเปลี่ยนรูปแบบเป็นตึกก่ออิฐถือปูน
มีการวางผังแบบสากลและตายตัว
ไม่ใช้ Open
Plan แบบเก่า
มีการกั้นห้องเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ
เช่น รับแขก
รับประทานอาหาร
นั่งเล่น
เป็นต้น
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้แบ่งประเภท ของบ้านเรือนในกรุงเทพตามแบบวัฒนธรรมออกเป็น
3 แบบ คือ
-
แบบเดิม
คือ
แบบเรือนของผู้มีฐานะ
(ระดับ)เดียวกัน
เคยทำมาอย่างไรก็ทำมาอย่างนั้น
มิได้คิดเปลี่ยนแปลงยกตัวอย่างเช่น
วังเจ้าบ้านนายขุน
-
แบบผสม
คือ
เอาตึกฝรั่งหรือเก๋งจีนมาสร้างแทรกเข้าบ้าง
เข้าใจว่าเกิดขึ้นในรัชการที่
4
และต่อมาจนต้นรัชกาลที่
5
ดังตัวอย่างที่มีเก๋ง
และ
การแก้ไขตำหนักที่วังท่าพระ
เป็นต้น
-
เปลี่ยนเป็นอย่างใหม่
คือ
เลิกสร้างเรือนแบบไทยเดิม
และตึกฝรั่ง
เก๋งจีน
คิดทำเป็นตึกฝรั่งทีเดียว
เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่
5
อย่างไรก็ตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมในสมัยนั้นก็คงเอกลักษณ์ไทยเอาไว้บ้าง
เช่นการนำหน้า
ตาสถาปัตยกรรมไทยเข้ามาใส่ด้านหน้าของตึก
ไม่ว่าจะเป็น
ลายฉลุไม้
หลังคา
ทรงจั่ว |