• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:cc00db4dfada926d151968cc6c709e48' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><strong><span style=\"color: #cc99ff\"></span></strong><strong><span style=\"color: #cc99ff\"><strong><span style=\"color: #cc99ff\"></span></strong></span></strong></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"64\" width=\"324\" src=\"/files/u31262/Law2.jpg\" alt=\"กฎหมายรัฐธรรมนูญ\" border=\"0\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"/node/87426\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/Mean_Mean.jpg\" alt=\"ความหมาย\" border=\"0\" /></a><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220; font-size: 9pt\"> <a href=\"/node/87561\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/pavat_0.jpg\" alt=\"ประวัติความเป็นมา\" border=\"0\" /></a><span style=\"color: #00ccff\"><a href=\"/node/75035\"></a></span> <a href=\"/node/87569\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/important_0.jpg\" alt=\"ความสำคัญ\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/87572\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/KaNang_0.jpg\" alt=\"แขนงของกฎหมาย\" border=\"0\" /></a><span style=\"color: #00ccff\"> <a href=\"/node/87578\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/differentMaHa_0.jpg\" alt=\"ความแตกต่างกฎหมายมหาชน&amp;เอกชน\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76825\"></a>  <img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/MaHacHon_0.jpg\" alt=\"กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชน\" border=\"0\" /> <a href=\"/node/89439\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/1-6_3.jpg\" alt=\"รัฐธรรมนูญฉบับที่1-6\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75734\"></a> <a href=\"/node/89668\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/7-12_0.jpg\" alt=\"ฉบับที่7-12\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75764\"></a></span></span> <a href=\"/node/90163\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/13-18.jpg\" alt=\"รัฐธรรมนูญฉบับที่13-18\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75778\"></a> <a href=\"/node/86208\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/_copy_0.jpg\" alt=\"แบบทดสอบ\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/90285\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/anging.jpg\" alt=\"แหล่งอ้างอิง\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/80693\"></a> <a href=\"/node/90286\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/i_and_me.jpg\" alt=\"ผู้จัดทำ\" border=\"0\" /></a> \n</div>\n<p align=\"center\">\n   <img height=\"30\" width=\"600\" src=\"/files/u31262/f74.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p><a href=\"/node/75778/\"></a></p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"><a href=\"/node/90163\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/13.jpg\" alt=\"ฉบับที่13\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/90164\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/14.jpg\" alt=\"ฉบับที่14\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75780\"></a></span></strong> <a href=\"/node/90165\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/15.jpg\" alt=\"ฉบับที่15\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75782/\"></a><a href=\"/node/90166\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/16.jpg\" alt=\"ฉบับที่16\" border=\"0\" /></a><span style=\"color: #cc99ff\"><a href=\"/node/76121\"></a></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"><a href=\"/node/76349\"></a><a href=\"/node/90167\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/17.jpg\" alt=\"ฉบับที่17\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/90168\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/18.jpg\" alt=\"ฉบับที่18\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76352\"></a></span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img height=\"14\" width=\"364\" src=\"/files/u44341/f86.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"><img height=\"83\" width=\"309\" src=\"/files/u44341/13-1.jpg\" alt=\"ฉบับที่13\" border=\"0\" /> </span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">ฉบับที่ 13 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521<br />\n</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>     <span style=\"color: #ff99cc\">รัฐธรรมนูญฉบับที่ 13 นี้ เป็นผลจากการร่างของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามข้อกำหนดในธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2520 ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นเพื่อใช้แทนรัฐธรรมนูญเก่า และสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบ แล้วประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2521</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #99cc00\">     รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว มีบทบัญญัติทั้งหมดรวมบทเฉพาะกาล 206 มาตรา โดยสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นับว่าเป็นประชาธิปไตยพอสมควร หากไม่นับบทบัญญัติเฉพาะกาลที่มีผลใช้บังคับอยู่ในช่วง 4 ปีแรกของการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>     <span style=\"color: #00ccff\">อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ เมื่อปี พ.ศ. 2528 ว่าด้วยเรื่อง ระบบการเลือกตั้ง โดยแก้ไขจากแบบรวมเขตรวมเบอร์ หรือ คณะเบอร์เดียว มาเป็นการเลือกตั้งแบบผสม เขตละไม่เกิน 3 คน การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ขณะที่การแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง คือ ครั้งที่ 2 นั้นเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2532 เกี่ยวกับเรื่องประธานรัฐสภา โดยแก้ไขให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งเป็นประธานรัฐสภา</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>     <span style=\"color: #ffcc00\">รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ใช้บังคับเป็นเวลาค่อนข้างยาวนานถึง 12 ปีเศษ แต่ก็ถูก &quot;ยกเลิก&quot; โดยการรัฐประหารอีกจนได้ เมื่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ร.ส.ช.) ภายใต้การนำของ พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ ได้เข้าทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534</span></strong><strong> </strong>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n<span style=\"color: #cc99ff\"><strong>หลักการสำคัญ </strong></span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">     รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าพิจารณาในแง่หลักการแล้ว อาจแยกได้เป็น 2 ฉบับ หรือ 2 ระยะ คือ ฉบับถาวร หรือ ระยะที่บทเฉพาะกาลเป็นอันยกเลิก และฉบับบทเฉพาะกาล หรือ ระยะที่บทเฉพาะกาลยังมีผลใช้บังคับ กล่าวโดยสรุป ได้แก่</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">   ก. ฉบับถาวร<br />\n            สำหรับรัฐธรรมนูญในส่วนที่เป็นฉบับถาวรเฉพาะที่เกี่ยวกับระบบรัฐสภา ได้กำหนดหลักการที่สำคัญไว้ ดังต่อไปนี้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 1) กำหนดกลไกการสร้างพรรคการเมืองขึ้นด้วยมาตรการ ดังนี้<br />\n      ก) บังคับให้ผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.ส. ต้องสังกัดพรรค<br />\n      ข) เพื่อลดจำนวนพรรคการเมืองให้มีน้อยลงเหลือเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ จึงกำหนดไว้ว่าพรรคการเมืองที่จะมีสิทธิส่งสมาชิกเข้ารับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ต้องเป็นพรรคที่ส่งสมาชิกเข้ารับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดที่จะพึงมีได้ในการเลือกตั้งครั้งนั้น<br />\n      ค) พรรคการเมืองจะมีบทบาทในสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะในเรื่องเสนอกฎหมายได้ต่อเมื่อสมาชิกได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป<br />\n      ง) บังคับให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ส.ส. เป็นพรรค ให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง (ยกเว้น กรุงเทพฯ แบ่งออกเป็น 3 เขต) เพื่อให้ประชาชนให้ความสำคัญต่อพรรคการเมือง </span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 2) กำหนดมาตรการเพื่อทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยกำหนดให้คณะรัฐมนตรีมาแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้าบริหารประเทศ แต่ไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ และจำกัดการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ทำได้ยากขึ้น โดยห้ามมิให้เจ้าของญัตติเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ถ้าหากการเสนอญัตติครั้งแรกได้คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 3) มีสภาที่ 1 คือ สภาผู้แทนราษฎร มาจากการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ (เมื่อแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว) เป็นการเลือกตั้งโดยตรงแบบผสม เป็นแบบรวมเขต (เบอร์เดียว) ทั้งจังหวัด เขตละไม่เกิน 3 คน ส.ส. อยู่ในวาระ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง เวลาลงคะแนนออกเสียงเลือกตั้งเป็นคณะตามบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองส่งเข้าสมัครรับเลือกตั้งในเขตนั้น</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 4) ให้มีสภาที่ 2 คือ วุฒิสภา ซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยการเสนอชื่อของนายกรัฐมนตรี จำนวนไม่เกิน 3 ใน 4 ของจำนวน ส.ส. มีวาระ 6 ปี แต่มีอำนาจน้อยกว่าสภาผู้แทนราษฎร โดยกำหนดให้ทำหน้าที่เป็นเพียงสภากลั่นกรองกฎหมาย ไม่มีสิทธิเสนอกฎหมาย และลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี แต่มีสิทธิตั้งกระทู้ถามและร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การตีความรัฐธรรมนูญ และให้ความเห็นชอบในรัฐกิจที่สำคัญๆ ตามมาตรา 143</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 5) แยกข้าราชการประจำออกจากการเมือง โดยห้ามมิให้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือ เป็นรัฐมนตรีในขณะเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้ห้ามในการเข้าดำรงตำแหน่งเป็นวุฒิสมาชิก ข้าราชการประจำ จึงยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองในบางส่วน</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">   ข. ฉบับเฉพาะกาล<br />\n     รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้สร้างบทเฉพาะกาลมีผลบังคับใช้ในระยะเวลา 4 ปีแรก นับแต่วันประกาศใช้บังคับ ซึ่งมีผลให้หลักการบางประการที่มีปรากฏอยู่ในฉบับถาวรนั้น จะไม่มีผลบังคับใช้ในทันที อันได้แก่เรื่องต่อไปนี้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 1) มาตรการสร้างพรรคการเมืองในบทถาวร ยังไม่มีผลบังคับ ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ต้องสังกัดพรรค การเลือกตั้งเป็นพรรคก็ดี การย้ายพรรคมีผลให้พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ก็ดี ก็ยังไม่มีผลเกิดขึ้น</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"> 2) ยังไม่ได้แยกข้าราชการประจำออกจากการเมือง ทำให้ในระหว่างที่ใช้บทเฉพาะกาลนั้น จะมีผลดังนี้<br />\n       ก) ข้าราชการประจำเป็นรัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองอื่นได้ ในขณะเดียวกัน<br />\n       ข) วุฒิสมาชิก ยังคงมีอำนาจมากทัดเทียมกับ ส.ส. กล่าวคือ มีอำนาจร่วมกับ ส.ส. ในการจัดตั้งรัฐบาล ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รวมทั้งการตั้งกระทู้ถาม และลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ลักษณะดังกล่าวทำให้สภาพการปกครองในช่วงที่ใช้บทเฉพาะกาลนั้น เป็น อำมาตยาธิปไตย (Bureaucratic Polity) หรือคือ การปกครองของข้าราชการประจำ นั่นเอง ดังมีลักษณะต่อไปนี้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">          (1) เมื่ออำนาจจัดตั้งและไว้วางในรัฐบาล คือ อำนาจของรัฐสภา ซึ่งมีวุฒิสมาชิกร่วมอยู่ด้วยเป็นจำนวนถึง 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดเช่นนี้ เมื่อรวมกับเสียงของสมาชิกที่เหลืออีกเพียงเล็กน้อย อำนาจสำคัญนี้ ก็จะตกอยู่แก่กลุ่มข้าราชการประจำโดยสิ้นเชิง นายกรัฐมนตรีจึงมาจากความไว้วางใจของกลุ่มข้าราชการประจำก่อน จากนั้นนายกรัฐมนตรี จึงเลือกพรรคการเมืองบางส่วน และบุคคลอื่นเข้าร่วมรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็จำต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีอยู่เป็นระยะๆ กลายเป็นคณะรัฐมนตรียุคที่ 1 ยุคที่ 2 ไปเรื่อยๆ และจะสิ้นสุดยุคเหล่านี้ลงก็ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีสิ้นความไว้วางใจจากกลุ่มข้าราชการประจำจนต้องลาออกไป</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">          (2) เมื่อมีอำนาจจากระบบข้าราชการประจำมาแทรกแซงเช่นนี้ การทำงานในลักษณะระบบรัฐสภาจึงไม่เกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเอง ก็ต้องรับผิดชอบต่อข้าราชการประจำ ไม่ใช่ต่อสภาผู้แทน รัฐบาลที่ได้รับมาจากการคัดเลือกของนายกรัฐมนตรี ก็มิใช่เพราะพรรคต่างๆ ได้ตกลงร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด สมาชิกสภาที่ไปเป็นรัฐมนตรี จึงรับผิดชอบต่อนายกรัฐมนตรี มากกว่าต่อสภาหรือพรรคการเมืองของตน เมื่อต้องรับผิดชอบต่อนายกรัฐมนตรี มิใช่ต่อสภาเช่นนี้ ความเป็นคณะรัฐมนตรีที่มีฐานะเท่าเทียมกันและร่วมกันรับผิดชอบในการตัดสินใจจึงไม่เกิดขึ้น พรรคฝ่ายค้านก็ไม่มี มีแต่พรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล และพยายามขอนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้าร่วมรัฐบาลเท่านั้น ระบบรัฐสภาที่เน้นถึงความตื่นตัวต่อความรับผิดชอบตามระบบผู้แทนจึงไม่เกิดขึ้น เพราะได้ถูกแทรกแซงโดยอำนาจของข้าราชการประจำจนขาดลอยจากระบบผู้แทนไปในที่สุด</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">          (3) การที่ข้าราชการประจำได้เข้ามามีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายในระบบรัฐบาลนี้ เป็นเพราะรัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาลนี่เองที่ถูกสร้างขึ้นโดยอิทธิพลของหลักฐานซึ่งสะท้อนถึงความเป็นจริงอันเด่นชัดว่า โครงสร้างอำนาจการเมืองไทยยังไม่อาจจะหลุดพ้นจากอำนาจของข้าราชการประจำไปได้ รัฐธรรมนูญเฉพาะกาลเป็นแต่เพียงการรับรองอิทธิพลของข้าราชการประจำ โดยทำให้กลายเป็นอำนาจที่ชอบด้วยกฎหมาย มิต้องใช้กำลังแทรกแซงกัน โดยอ้อม หรือ ทำการปฏิวัติ รัฐประหารกัน โดยตรง เป็นสำคัญ คำว่า “ประชาธิปไตยครึ่งใบ” ที่ใช้เรียกขานกันนั้น จึงไม่น่าจะถูกนัก เพราะแท้ที่จริงแล้วก็คือ “เผด็จการแฝงเร้นและชอบด้วยกฎหมาย” เสียมากกว่า</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">          (4) สภาพสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะมองข้ามเสียมิได้ ก็คือ รัฐธรรมนูญเฉพาะกาลนี้ ยังมีบทบาทเป็นการสร้างรัฐ “ประชาธิปไตยในหมู่ข้าราชการประจำ” อีกด้วย เพราะช่วยให้การชิงอำนาจในหมู่ข้าราชการประจำด้วยกันเองเป็นไปโดยสงบ อาศัยการโต้แย้งและยกมือในสภาเป็นปัจจัยชี้ขาด ไม่ต้องใช้กำลังปฏิวัติซ้อนเหมือนเช่นแต่ก่อน ดังเช่นการลาออกของนายกรัฐมนตรี พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์นั้น ก็เป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยในหมู่ของข้าราชการประจำได้เป็นอย่างดี การปกครองในขณะที่ใช้บทเฉพาะกาลนี้ อาจกล่าวได้ว่า เป็นระยะที่ระบบผู้แทนได้ตกเป็นเครื่องมือของระบบข้าราชการประจำมาโดยตลอด การปกครองในขณะนั้นมีสภาก็จริงแต่ก็หาใช่ระบบรัฐสภาไม่</span></strong>\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/84777\"></a></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"82\" width=\"150\" src=\"/files/u31262/icon_home.jpg\" alt=\"หน้าแรก\" border=\"0\" />\n</div>\n<p>\n</p>\n', created = 1715323006, expire = 1715409406, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:cc00db4dfada926d151968cc6c709e48' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:ecf1c2cfb4ea58bb6e0d216ffb16ceb1' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><strong><span style=\"color: #cc99ff\"></span></strong><strong><span style=\"color: #cc99ff\"><strong><span style=\"color: #cc99ff\"></span></strong></span></strong></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"64\" width=\"324\" src=\"/files/u31262/Law2.jpg\" alt=\"กฎหมายรัฐธรรมนูญ\" border=\"0\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"/node/87426\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/Mean_Mean.jpg\" alt=\"ความหมาย\" border=\"0\" /></a><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220; font-size: 9pt\"> <a href=\"/node/87561\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/pavat_0.jpg\" alt=\"ประวัติความเป็นมา\" border=\"0\" /></a><span style=\"color: #00ccff\"><a href=\"/node/75035\"></a></span> <a href=\"/node/87569\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/important_0.jpg\" alt=\"ความสำคัญ\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/87572\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/KaNang_0.jpg\" alt=\"แขนงของกฎหมาย\" border=\"0\" /></a><span style=\"color: #00ccff\"> <a href=\"/node/87578\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/differentMaHa_0.jpg\" alt=\"ความแตกต่างกฎหมายมหาชน&amp;เอกชน\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76825\"></a>  <img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/MaHacHon_0.jpg\" alt=\"กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชน\" border=\"0\" /> <a href=\"/node/89439\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/1-6_3.jpg\" alt=\"รัฐธรรมนูญฉบับที่1-6\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75734\"></a> <a href=\"/node/89668\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/7-12_0.jpg\" alt=\"ฉบับที่7-12\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75764\"></a></span></span> <a href=\"/node/90163\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/13-18.jpg\" alt=\"รัฐธรรมนูญฉบับที่13-18\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75778\"></a> <a href=\"/node/86208\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/_copy_0.jpg\" alt=\"แบบทดสอบ\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/90285\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/anging.jpg\" alt=\"แหล่งอ้างอิง\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/80693\"></a> <a href=\"/node/90286\"><img height=\"50\" width=\"120\" src=\"/files/u44341/i_and_me.jpg\" alt=\"ผู้จัดทำ\" border=\"0\" /></a> \n</div>\n<p align=\"center\">\n   <img height=\"30\" width=\"600\" src=\"/files/u31262/f74.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p><a href=\"/node/75778/\"></a></p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"><a href=\"/node/90163\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/13.jpg\" alt=\"ฉบับที่13\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/90164\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/14.jpg\" alt=\"ฉบับที่14\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75780\"></a></span></strong> <a href=\"/node/90165\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/15.jpg\" alt=\"ฉบับที่15\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/75782/\"></a><a href=\"/node/90166\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/16.jpg\" alt=\"ฉบับที่16\" border=\"0\" /></a><span style=\"color: #cc99ff\"><a href=\"/node/76121\"></a></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"><a href=\"/node/76349\"></a><a href=\"/node/90167\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/17.jpg\" alt=\"ฉบับที่17\" border=\"0\" /></a> <a href=\"/node/90168\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u44341/18.jpg\" alt=\"ฉบับที่18\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76352\"></a></span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img height=\"14\" width=\"364\" src=\"/files/u44341/f86.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\"><img height=\"83\" width=\"309\" src=\"/files/u44341/13-1.jpg\" alt=\"ฉบับที่13\" border=\"0\" /> </span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #cc99ff\">ฉบับที่ 13 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521<br />\n</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>     <span style=\"color: #ff99cc\">รัฐธรรมนูญฉบับที่ 13 นี้ เป็นผลจากการร่างของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามข้อกำหนดในธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2520 ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นเพื่อใช้แทนรัฐธรรมนูญเก่า และสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบ แล้วประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2521</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #99cc00\">     รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว มีบทบัญญัติทั้งหมดรวมบทเฉพาะกาล 206 มาตรา โดยสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นับว่าเป็นประชาธิปไตยพอสมควร หากไม่นับบทบัญญัติเฉพาะกาลที่มีผลใช้บังคับอยู่ในช่วง 4 ปีแรกของการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>     <span style=\"color: #00ccff\">อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ เมื่อปี พ.ศ. 2528 ว่าด้วยเรื่อง ระบบการเลือกตั้ง โดยแก้ไขจากแบบรวมเขตรวมเบอร์ หรือ คณะเบอร์เดียว มาเป็นการเลือกตั้งแบบผสม เขตละไม่เกิน 3 คน การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ขณะที่การแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง คือ ครั้งที่ 2 นั้นเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2532 เกี่ยวกับเรื่องประธานรัฐสภา โดยแก้ไขให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งเป็นประธานรัฐสภา</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>     <span style=\"color: #ffcc00\">รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ใช้บังคับเป็นเวลาค่อนข้างยาวนานถึง 12 ปีเศษ แต่ก็ถูก &quot;ยกเลิก&quot; โดยการรัฐประหารอีกจนได้ เมื่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ร.ส.ช.) ภายใต้การนำของ พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ ได้เข้าทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534</span></strong><strong> </strong>\n</p>\n', created = 1715323006, expire = 1715409406, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:ecf1c2cfb4ea58bb6e0d216ffb16ceb1' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ฉบับที่13

กฎหมายรัฐธรรมนูญ
ความหมาย ประวัติความเป็นมา ความสำคัญ แขนงของกฎหมาย ความแตกต่างกฎหมายมหาชน&เอกชน  กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชน รัฐธรรมนูญฉบับที่1-6 ฉบับที่7-12 รัฐธรรมนูญฉบับที่13-18 แบบทดสอบ แหล่งอ้างอิง ผู้จัดทำ 

   

ฉบับที่13 ฉบับที่14 ฉบับที่15ฉบับที่16

ฉบับที่17 ฉบับที่18

ฉบับที่13 

ฉบับที่ 13 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521

     รัฐธรรมนูญฉบับที่ 13 นี้ เป็นผลจากการร่างของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามข้อกำหนดในธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2520 ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นเพื่อใช้แทนรัฐธรรมนูญเก่า และสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบ แล้วประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2521

     รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว มีบทบัญญัติทั้งหมดรวมบทเฉพาะกาล 206 มาตรา โดยสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นับว่าเป็นประชาธิปไตยพอสมควร หากไม่นับบทบัญญัติเฉพาะกาลที่มีผลใช้บังคับอยู่ในช่วง 4 ปีแรกของการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

     อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ เมื่อปี พ.ศ. 2528 ว่าด้วยเรื่อง ระบบการเลือกตั้ง โดยแก้ไขจากแบบรวมเขตรวมเบอร์ หรือ คณะเบอร์เดียว มาเป็นการเลือกตั้งแบบผสม เขตละไม่เกิน 3 คน การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ขณะที่การแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง คือ ครั้งที่ 2 นั้นเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2532 เกี่ยวกับเรื่องประธานรัฐสภา โดยแก้ไขให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งเป็นประธานรัฐสภา

     รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ใช้บังคับเป็นเวลาค่อนข้างยาวนานถึง 12 ปีเศษ แต่ก็ถูก "ยกเลิก" โดยการรัฐประหารอีกจนได้ เมื่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ร.ส.ช.) ภายใต้การนำของ พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ ได้เข้าทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 

สร้างโดย: 
นายธานินทร์ พร้อมสุข และ นางสาวภาชินี ผลงามเนตรอรุณ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 257 คน กำลังออนไลน์