ฟ้าร้อง

  คือเสียงที่เกิดจากเหตุการณ์ฟ้าแลบ ซึ่งขึ้นกับลักษณะของฟ้าแลบและระยะห่างของผู้สังเกตด้วย โดยอาจ เป็นเพียงเสียงแหลมบางเหมือนของแตก ไปจนถึงเสียงคำรามต่ำๆ ยาวๆ ทั้งนี้เนื่องจากฟ้าแลบ ทำให้ความดัน และอุณหภูมิของอากาศเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้อากาศรอบๆ บริเวณนั้นเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และทำ ให้เกิดคลื่นโซนิคซึ่งสร้างเสียงฟ้าร้องขึ้น  แล้วเสียงที่เกิดขึ้น เนื่องจากอากาศขยายตัวเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เพราะความร้อนที่เกิดจากฟ้าแลบ และเกิดจากการที่ก้อนเมฆลอยตัวไปแล้วเสียดสีกับบรรยากาศ หรือเสียดสี ระว่างก้อนเมฆด้วยกันทำให้เกิดการ สะสมไฟฟ้าสถิตในตัวก้อนเมฆมากทำให้ก้อนเมฆมีศักดิ์ไฟฟ้าสูงตั้งแต่   10-100 MV เมื่อสะสมไว้มากก็เกิดความเครียดของสนามไฟฟ้า เมื่อความเครียดของสนามไฟฟ้าถึงขั้นวิกฤตก็ต้อง ปลดปล่อยโดยการดิสชาร์จระหว่าง ก้อนเมฆกับพื้นโลกเลยเกิดเป็นฟ้าผ่า(Ground Flash)แต่ถ้าดิสชาร์จ ระหว่างก้อนเมฆกับก้อนเมฆ เรียกว่า ฟ้า แลบ (air Discharge) ลำแสงฟ้าผ่ามี อุณหภูมิสูงถึง 30000 องศาเคลวิน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฟ้าผ่าลงที่ใดก็ เกิดไฟไหม้สิ่งนั้นทันที


ฟ้าผ่า

  คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าปริมาณมหาศาล พร้อมกับแสงจ้าตามด้วยเสียงกัมปนาทของฟ้าร้องฟ้าผ่า อาจมีความยาวได้ถึง 8 กิโลเมตร ทำให้อุณหภูมิอากาศสูงขึ้นถึง 27,200เซลเซียส (50,000 ฟาเรนไฮต์) และ มีความต่างศักย์ถึง 100,000,000 โวลท์ ฟ้าผ่าโดยทั่วไปเกิดขึ้นใช้เวลา 1/4 วินาที และประกอบไปด้วยการ ปล่อยไฟฟ้าจำนวน 3-4 สาย (stroke) แต่ละสายมีอายุประมาณไม่กี่ 1/1000 วินาที การประมาณว่าเกิดฟ้าผ่า ลงสู่โลกของเรา โดยเฉลี่ย 100 ครั้ง/วินาที ฟ้าผ่าสามารถฆ่าคนได้ และเป็นสาเหตุของหัวใจวาย ฟ้าผ่าไม่ได้ เกิดจากพายุฝน คะนองเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ, ไฟป่าที่รุนแรง, การระเบิดของระเบิดนิว เคลียร์บนพื้นดิน, พายุหิมะที่รุนแรง, และในพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ    มหาวิทยาลัยศรีปทุม          ศูนย์อบรมคอมพิวเตอร์กราฟฟิก อันดับ 1 ในประเทศไทยในใจของคุณ     NIIT