• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0d1a76aca2722414a6f2dd6996b88cbb' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\"><img src=\"/files/u31836/k.jpg\" width=\"141\" height=\"67\" /> </p>\n<p align=\"center\"><a href=\"/node/74582\"><img src=\"/files/u31836/fro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74594\"><img src=\"/files/u31836/rro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74607\"><img src=\"/files/u31836/sro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74610\"><img src=\"/files/u31836/ero.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74613\"><img src=\"/files/u31836/waro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74950\"><img src=\"/files/u31836/yro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74953\"><img src=\"/files/u31836/kingro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/74974\"><img src=\"/files/u31836/nro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/75729\"><img src=\"/files/u31836/tro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> <a href=\"/node/76103\"><img src=\"/files/u31836/aro.jpg\" border=\"0\" width=\"125\" height=\"60\" /></a> </p>\n<hr id=\"null\" />\n<blockquote>\n<p align=\"center\"> <b>การขยายตัวของโรมันในคาบสมุทรอิตาลี</b> </p>\n</blockquote>\n<p align=\"center\"><img src=\"/files/u31836/1189070954.jpg\" width=\"422\" height=\"319\" /> </p>\n<p align=\"center\">ที่มารูปภาพ : <a href=\"http://www.bloggang.com/data/hummel/picture/1189070954.jpg\" title=\"http://www.bloggang.com/data/hummel/picture/1189070954.jpg\">http://www.bloggang.com/data/hummel/picture/1189070954.jpg</a> </p>\n<p>เมื่อยุบสันนิบาตละติน โรมก็กลายเป็นศูนย์อำนาจและได้สร้างกองทัพที่มีประสิทธิภาพ โดยกฎหมายกำหนดให้ชาวโรมันเป็นทหาร ชาวนาต้องเป็นทหารราบและต้องสามารถเดินทางได้ 30 ไมล์ต่อวัน แบกของหนักได้ 60 ปอนด์ ตั้งค่ายทหารให้นอนกลางแจ้ง แต่ละหน่วยเรียกว่า กองร้อย (Century) หลายกองร้อยเรียกว่า กองพัน (Legion)โรมมีลักษณะพิเศษในการปกครองอิตาลี ใช้ความใจกว้างต่อมิตร ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เป็นที่ประทับใจต่อมิตร กล่าวว่า เมื่อได้เป็นพันธมิตรกับโรมัน จะเป็นพันธมิตรตลอดไป (Once a Roman Ally Always a Roman Ally) โรมันจะไม่โจมตีดินแดนที่ไม่มีความพร้อมและมียุทธศาสตร์ ทำให้ผู้แพ้กลายเป็นชาวโรมัน หรือ Romanizationทางด้านกรีกนั้นมีความหวังที่จะรวมชาวกรีกที่อยู่บนคาบสมุทรอิตาลีไว้ให้เป็นปึกแผ่นขณะเดียวกันก็ต้องสกัดกั้นอำนาจของโรมด้วย จึงต้องทำสงครามกันในสมัยพระเจ้าไพริช (Phyrich) แห่งกรีก แม้ว่าจะทำการรบชนะเหนือโรมันหลายครั้ง เนื่องจากระะยะการเดินทางที่ยาวไกลต้องสูญเสียกำลังค่าใช้จ่ายสูงเป็นอย่างมาก จนต้องกล่าวในที่สุด ปี 265 ก่อนคริสกาล โรมก็ครองความเป็นใหญ่เหนือคาบสมุทรอิตาลี เริ่มขยายอำนาจ โดยเป้าหมายแรกก็คือ คาร์เธจในเมืองปูนิค แอฟริกา ซึ่งประกอบด้วยทหารรับจ้าง เรียกว่า สงครามคารเธจ หรือ สงครามปูนิค(Punic War) ซึ่งมีการรบทั้งหมด 3 ครั้ง ระหว่าง ปี 264 146 ปีก่อนคริสตกาล คือครั้งที่ 1 ระหว่างปี 264 241 ก่อนคริสตกาล เป็นการรบทางทะเล แรกทีเดียวโรมประสบความปราชัย ต่อมากลับเป็นฝ่ายมีชัย คาร์เธจขอสงบศึกเมื่อ 241 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้โรมมีอำนาจเหนือดินแดนซิซิลีและเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกทั้งหมด ครั้งที่ 2 ระหว่างปี 248 201 ก่อนคริสตกาล เป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่นำโดย ฮันนิบาล ผู้นำคาร์เธจนำคาร์เธจผู้ยิ่งใหญ่ ยกพลจำนวน 40,000 คน อ้อมไปทางสเปน ข้ามเทือกเขาแอลป์ที่หนาวเหน็บลงมาประชิดล้อมโรม และอยู่นานกว่า 15 ปี ชัยชนะใกล้แค่เอื้อม โรมขณะนั้นอยู่ภายใต้การนำของ สกิป โอ (Scipio) ใช้แผนส่งกำลังไปบุกที่คาร์เธจในอัฟริกา ฮันนิบาลจำเป็นต้องถอนทัพกลับไปทางเดิม โรมจึงส่งทหารโรมันตามตีจนทัพแตก ฮันนิบาลแพ้อย่างย่อยยับและถูกปลดอาวุธในปี 201 ก่อนคริสตกาล และต้องชดใช้ปฏิกรรมสงรามแก่โรมัน ภายใต้การนำของ สกิป โอ ซึ่งต่อมาได้เดินทัพเข้าตีสเปนได้อีกครั้งที่ 3 ระหว่าง ปี 149 146 ก่อนคริสตกาล โดยในปี 149 ก่อนคริสตกาลโรมได้ก่อสงครามกับปูนิคด้วยเจตนาร้าย ด้วยการนำทัพไปล้อมคาร์เธจและโจมตีจนแตกชาวเมืองถูกขายมาเป็นทาส เมืองถูกเผา และที่ดินถูกไถหว่านด้วยเกลือ เพื่อมิให้เพาะปลูกได้อีกต่อไป </p>\n<p style=\"text-align: center\"><a href=\"/node/69749\"><img src=\"/files/u31836/joij.jpg\" height=\"67\" width=\"140\" /></a> </p>\n', created = 1719868515, expire = 1719954915, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0d1a76aca2722414a6f2dd6996b88cbb' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

การขยายตัวของโรมันในคาบสมุทรอิตาลี

รูปภาพของ sss27533


การขยายตัวของโรมันในคาบสมุทรอิตาลี

ที่มารูปภาพ : http://www.bloggang.com/data/hummel/picture/1189070954.jpg

เมื่อยุบสันนิบาตละติน โรมก็กลายเป็นศูนย์อำนาจและได้สร้างกองทัพที่มีประสิทธิภาพ โดยกฎหมายกำหนดให้ชาวโรมันเป็นทหาร ชาวนาต้องเป็นทหารราบและต้องสามารถเดินทางได้ 30 ไมล์ต่อวัน แบกของหนักได้ 60 ปอนด์ ตั้งค่ายทหารให้นอนกลางแจ้ง แต่ละหน่วยเรียกว่า กองร้อย (Century) หลายกองร้อยเรียกว่า กองพัน (Legion)โรมมีลักษณะพิเศษในการปกครองอิตาลี ใช้ความใจกว้างต่อมิตร ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เป็นที่ประทับใจต่อมิตร กล่าวว่า เมื่อได้เป็นพันธมิตรกับโรมัน จะเป็นพันธมิตรตลอดไป (Once a Roman Ally Always a Roman Ally) โรมันจะไม่โจมตีดินแดนที่ไม่มีความพร้อมและมียุทธศาสตร์ ทำให้ผู้แพ้กลายเป็นชาวโรมัน หรือ Romanizationทางด้านกรีกนั้นมีความหวังที่จะรวมชาวกรีกที่อยู่บนคาบสมุทรอิตาลีไว้ให้เป็นปึกแผ่นขณะเดียวกันก็ต้องสกัดกั้นอำนาจของโรมด้วย จึงต้องทำสงครามกันในสมัยพระเจ้าไพริช (Phyrich) แห่งกรีก แม้ว่าจะทำการรบชนะเหนือโรมันหลายครั้ง เนื่องจากระะยะการเดินทางที่ยาวไกลต้องสูญเสียกำลังค่าใช้จ่ายสูงเป็นอย่างมาก จนต้องกล่าวในที่สุด ปี 265 ก่อนคริสกาล โรมก็ครองความเป็นใหญ่เหนือคาบสมุทรอิตาลี เริ่มขยายอำนาจ โดยเป้าหมายแรกก็คือ คาร์เธจในเมืองปูนิค แอฟริกา ซึ่งประกอบด้วยทหารรับจ้าง เรียกว่า สงครามคารเธจ หรือ สงครามปูนิค(Punic War) ซึ่งมีการรบทั้งหมด 3 ครั้ง ระหว่าง ปี 264 146 ปีก่อนคริสตกาล คือครั้งที่ 1 ระหว่างปี 264 241 ก่อนคริสตกาล เป็นการรบทางทะเล แรกทีเดียวโรมประสบความปราชัย ต่อมากลับเป็นฝ่ายมีชัย คาร์เธจขอสงบศึกเมื่อ 241 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้โรมมีอำนาจเหนือดินแดนซิซิลีและเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกทั้งหมด ครั้งที่ 2 ระหว่างปี 248 201 ก่อนคริสตกาล เป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่นำโดย ฮันนิบาล ผู้นำคาร์เธจนำคาร์เธจผู้ยิ่งใหญ่ ยกพลจำนวน 40,000 คน อ้อมไปทางสเปน ข้ามเทือกเขาแอลป์ที่หนาวเหน็บลงมาประชิดล้อมโรม และอยู่นานกว่า 15 ปี ชัยชนะใกล้แค่เอื้อม โรมขณะนั้นอยู่ภายใต้การนำของ สกิป โอ (Scipio) ใช้แผนส่งกำลังไปบุกที่คาร์เธจในอัฟริกา ฮันนิบาลจำเป็นต้องถอนทัพกลับไปทางเดิม โรมจึงส่งทหารโรมันตามตีจนทัพแตก ฮันนิบาลแพ้อย่างย่อยยับและถูกปลดอาวุธในปี 201 ก่อนคริสตกาล และต้องชดใช้ปฏิกรรมสงรามแก่โรมัน ภายใต้การนำของ สกิป โอ ซึ่งต่อมาได้เดินทัพเข้าตีสเปนได้อีกครั้งที่ 3 ระหว่าง ปี 149 146 ก่อนคริสตกาล โดยในปี 149 ก่อนคริสตกาลโรมได้ก่อสงครามกับปูนิคด้วยเจตนาร้าย ด้วยการนำทัพไปล้อมคาร์เธจและโจมตีจนแตกชาวเมืองถูกขายมาเป็นทาส เมืองถูกเผา และที่ดินถูกไถหว่านด้วยเกลือ เพื่อมิให้เพาะปลูกได้อีกต่อไป

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 366 คน กำลังออนไลน์