แนวปะการังเกิดอยู่ที่ท้องทะเลตื้น ๆ ลึกไม่เกิน ๔๐ เมตร น้ำอุ่นและสะอาดมีแสงแดดส่องถึง การก่อกำเนิดของแนวปะการังเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแนวหินปูนแข็งและงดงามนี้เกิดจากสัตว์ทะเลตัวเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ตัวปะการังตัวปะการังชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ นับร้อยนับพัน หรือมากกว่านั้น แต่ละตัวสร้างหินปูนแข็ง (แคลเซียมคาร์บอเนต) จากน้ำทะเลรอบ ๆ ตัวขึ้นมาห่อหุ้มตัวไว้ ตัวมันติดแน่นอยู่กับหินปูนนี้ หินปูนที่สร้างขึ้นจะเกาะติดกันเป็นก้อนใหญ่รูปร่างต่างๆ กัน แล้วแต่ชนิดของปะการัง บางชนิดเป็นก้อนคล้ายก้อนหิน บางชนิดเป็นกิ่งก้านคล้ายต้นไม้ บางชนิดเป็นร่มคล้ายดอกเห็ด บางชนิดเป็นกลีบคล้ายดอกไม้ ปะการังมีหลายสี เมื่อตัวปะการังตายลง หินปูนที่มันสร้างขึ้นคงเชื่อมติดกันอยู่ กลายเป็นแท่นหินปูนฐานของแนวปะการัง ส่วนตัวปะการังที่ยังคงมีชีวิตจะอยู่ที่ตอนบนของแนวหินและสร้างหินปูนต่อไปเรื่อย ๆ เป็นเช่นนี้นานนับพันปี แนวหินก็แผ่ขยายกว้างออกไปในท้องทะเลกลายเป็นแนวปะการังแนวปะการังเป็นเสมือนป่าไม้ดอกที่มีสีสันงดงามอยู่ใต้ทะเล ตลอดแนวเป็นซอก เป็นหลืบ เป็นช่อง และเป็นกิ่งก้านหินคดเคี้ยว จึงเป็นแหล่งอาศัยและที่หลบภัยของสัตว์ทะเลหลายพันชนิด และเต็มไปด้วยอาหารอันอุดมของเหล่าสัตว์ทะเลอีกด้วย ที่แนวปะการังเราจะพบปลา ปู กุ้ง หอย สารพัดชนิด รวมทั้งดอกไม้ทะเล ฟองน้ำ ม้าน้ำ กัลปังหา ปลิงทะเล ปลาดาว เม่นทะเล และหนอนทะเล อาศัยอยู่ทั่วไป
แนวปะการัง
ปะการัง เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับดอกไม้ทะเลมาก แตกต่างกันตรงที่ปะการังตัวเล็กกว่า และเมื่อโตเต็มที่ลำตัวจะติดแน่นอยู่กับที่ เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ตัวปะการังอ่อนนุ่ม มีขนาดเล็ก ตัวยาวไม่เกินหนึ่งเซนติเมตร และมีปากซึ่งมีหนวดจำนวนมากล้อมรอบอยู่เช่นเดียวกับดอกไม้ทะเล ปะการังกินแพลงตอนเป็นอาหาร และสามารถสร้างหินปูนขึ้นได้จากน้ำทะเลรอบ ๆ ตัวมัน หินปูนที่มันสร้างขึ้นเป็นโขด ตัวปะการังติดแน่นอยู่กับโขดหินปูนนี้ ปะการังชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก สร้างโขดหินปูนติดต่อกันจนกลายเป็นหินที่มีรูปร่างแปลก ๆ งดงาม ปะการังมีรูปร่างต่างๆ กัน อาจแบ่งตามรูปร่างได้เป็นปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังจาน ปะการังผักกาด และปะการังเห็ด ปะการังเขากวาง มีรูปลักษณะเหมือนเขากวางหรือกิ่งไม้ที่แตกแขนงออกไปเป็นช่อเจริญได้รวดเร็ว และมีจำนวนมากชนิดที่สุดในบรรดาปะการังทั้งหกกลุ่ม ตามแนวชายฝั่งทะเลของไทย กิ่งก้านที่แตกแขนงออกไปของปะการังเขากวางนี้เองที่ทำให้แนวปะการังมีลักษณะดังเช่นป่าอันงดงามใต้ทะเล ปะการังสมอง มีรูปร่างเป็นก้อนกลม ผิวหยักเป็นร่องคดเคี้ยวไปมาจนมองดูคล้ายกับสมองของคนเรา ปะการังจาน เป็นแผ่นแข็ง เปราะและแตกหักง่ายมาก ปะการังผักกาด รูปร่างเหมือนต้นผักกาด ปะการังเห็ด รูปร่างเหมือนเห็ดที่บานเต็มที่ ผิวหยักเป็นร่องลึก
วีดีทัศน์ประกอบการเรียนรู้
ที่มาของวีดีทัศน์ : http://www.youtube.com/watch?v=0l9d9U3W490&feature=relmfu
ดอกไม้ทะเล
ดอกไม้ทะเลมีรูปร่างคล้ายดอกไม้สีสวยหลากสี เกิดอยู่ที่พื้นทะเล แท้ที่จริงดอกไม้ทะเลไม่ใช่พืชและไม่ใช่ดอกไม้ แต่เป็นสัตว์ทะเลพวกหนึ่ง มีลำตัวคล้ายถุงยืดหดได้ ส่วนที่มีลักษณะเหมือนกลีบดอกไม้ซึ่งอาจบานและหุบได้นั้น คือ หนวดของเจ้าสัตว์ทะเลชนิดนี้ หนวดมีจำนวนมากอยู่รอบปากซึ่งมีลักษณะเหมือนรอยผ่าอยู่ตรงใจกลาง หนวดนี้มีต่อมพิษอาจทำให้ปลาหรือสัตว์ทะเลเล็ก ๆ ที่ว่ายน้ำเข้ามาติดอยู่สลบหรือตายได้ จากนั้นก็จะถูกส่งเข้าปาก กลายเป็นอาหารของดอกไม้ทะเลไป ดอกไม้ทะเลส่วนใหญ่เกิดติดอยู่กับพื้นท้องทะเล โบกหนวดไปมาเพื่อจับปลาเล็ก ๆ เป็นอาหาร แปลกที่มันอาจอยู่กันได้อย่างสันติกับปูและกุ้ง ดอกไม้ทะเลบางชนิดเกิดเกาะติดกับหลังปู เมื่อปูคลานไปหาอาหารกินตามพื้นทะเลก็พาดอกไม้ทะเลเคลื่อนที่ไปด้วย ทำให้สามารถหาอาหารได้ทั้งปูและดอกไม้ทะเล
ฟองนํ้า
ฟองน้ำเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างลักษณะแปลกประหลาด อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากเกิดเกาะติดอยู่กับหิน สาหร่ายที่พื้นทะเล ฟองน้ำมีลำตัวเป็นรูพรุนทั่วไป กินแพลงตอนที่ลอยอยู่ในน้ำทะเลเป็นอาหาร โดยรับน้ำทะเลที่มีแพลงตอนลอยปนอยู่ให้ไหลเข้าไปตามรูพรุนของลำตัว เก็บแพลงตอนไว้ แล้วปล่อยน้ำที่เหลือออกมาทางช่องเปิดที่อยู่ทางด้านบนของลำตัว ฟองน้ำมีหลายชนิด บางชนิดอาศัยอยู่ในน้ำจืด ส่วนใหญ่อยู่ในน้ำเค็ม (อาศัยอยู่ในทะเลที่มีน้ำอุ่น) ฟองน้ำที่เกิดอยู่ในทะเลมีทั้งชนิดที่มีเนื้อแข็งเหมือนหินและชนิดที่เนื้ออ่อนนุ่มนิ่ม บางชนิดเป็นอาหารของปลาและสัตว์ทะเลอื่น ๆ บางชนิดเป็นที่อยู่ที่อาศัยของหนอน ปู และกุ้งตัวเล็ก ๆ ฟองน้ำที่สำคัญที่สุดคือฟองน้ำชนิดเนื้ออ่อน ซึ่งเรานำเอาซากของมันมาใช้ถูตัว
ม้านํ้า
ม้าน้ำเป็นปลาที่มีรูปร่างแปลก ผิดไป จากปลาชนิดอื่น ม้าน้ำมีหน้ายาว มีคอตั้ง ตรง หัวคล้ายหัวม้า มีลำตัวลอยตั้ง ในแนวดิ่ง แทนที่จะลอยตัวตามแนวนอน ดังเช่นปลาทั่วไป ม้าน้ำมีกระดูกเป็นสัน แข็งทั่วตัว และมีหางยาว ใช้สำหรับพัน เกี่ยวยึดกับกิ่งก้านของต้นสาหร่ายใต้ทะเล ม้าน้ำชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงแถวต้นหญ้า สาหร่ายใต้น้ำตื้นมื่อจะออกไข่ม้าน้ำตัวเมียจะไข่ทิ้งไว้ในช่องถุงหน้าท้องของม้าน้ำตัวผู้ แล้วปล่อยให้ม้าน้ำตัวผู้ดูแลไข่ไปตามลำพังจนไข่ฟักเป็นลูกม้าน้ำน้อย ๆ ที่มีรูปร่างเหมือนพ่อแม่ไม่ผิดเพี้ยน ลูกม้าน้ำคงอยู่ในกระเป๋าพ่อ จะว่ายน้ำออกไปหากินเฉพาะบางเวลา แต่เมื่อตกใจหรือมีภัยก็จะกรูกลับมาเข้าอยู่ในกระเป๋าพ่ออีก พ่อม้าน้ำเลี้ยงดูลูกจนโต รู้จักป้องกันตนเองได้แล้วจึงปล่อยให้ไปหากินตามลำพัง ม้าน้ำเป็นปลาที่มีชีวิตและรูปร่าง แปลก แต่มิใช่ปลาที่เป็นอาหาร บางคนใช้ม้าน้ำทำยา
ม้าสิงโต
ปลาสิงโตเป็นปลาที่งดงามที่สุดในแนวปะการัง ตัวสีแดงอ่อนมีลายสลับสีตามขวางของลำตัว ตั้งแต่หัวจรดหาง ปลาสิงโตชอบว่ายน้ำช้า ๆ อยู่ตามกอปะการัง กางครีบที่เป็นก้านยาวแข็งออกไปรอบตัว ดูกรีดกราย ราวกับท่านกยูงรำแพนหางปลาสิงโตเป็นปลามีพิษ พิษอยู่ที่ปลายก้านครีบที่ยื่นยาวออกไปโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นปลางดงาม จึงถูกจับขึ้นมาจากทะเลเสียจนเกือบไม่มีเหลือ ปลาสิงโตมีอยู่ในแนวปะการังด้านทะเลอันดามันเท่านั้น ไม่มีในอ่าวไทย
กุ้งและปู
กุ้งในแนวปะการังมีเป็นร้อยชนิด ส่วนมากมีสีสด มีลวดลายงดงาม เช่น มีลำตัวโปร่งใส หรือสีแดง ที่ตัวมีลายเป็นเส้นขาวกับมีจุดขาวประอยู่ที่หัว กุ้งเหล่านี้เกือบทุกชนิดเป็นสัตว์หากินกลางคืน ดวงตากลมเรืองแสงแวววาวอยู่ในที่มืด บางชนิดเก็บกินสัตว์และอินทรียสารตามหนวดของดอกไม้ทะเลเป็นอาหาร เป็นการทำความสะอาดให้ดอกไม้ทะเล บางชนิดอาศัยอยู่ในแนวปะการังคอยทำความสะอาดตามลำตัวปลาใหญ่ โดยเก็บกินเห็บเหาตามลำตัวปลากุ้งขนาดใหญ่ เช่น กุ้งมังกรสีเขียว มีรูปร่างงดงาม ส่วนหัวกลมยาวเป็นรูปทรงกระบอก แล้วค่อยเรียวลงไปทางหาง เปลือกแข็ง ผิวขรุขระและมีหนามแหลมทั้งตัว หนวดเส้นยาวใหญ่มีหนามแหลม อาศัยอยู่ตามพื้นทราย ข้างซอกปะการัง พอถึงกลางคืนพื้นทะเลมืด กุ้งมังกรจะออกหาอาหาร มันเคลื่อนที่ว่องไวในเวลากลางคืน กลางวันซ่อนตัวอยู่ข้างก้อนหิน
ส่วนปู นอกจากปูเสฉวนแล้วยังมีปูปะการังซึ่งเป็นปูขนาดเล็ก กระดองกว้างเท่าเล็บหัวแม่มือ มีก้ามใหญ่สีแดงเหมือนแขนของนักมวย หากินอยู่ตามกิ่งก้านปะการัง มีปูฟองน้ำซึ่งกระดองและขาสีเหลือง ชอบเก็บชิ้นฟองน้ำขึ้นมาแบกไว้บนหลังเพื่อเป็นการอำพรางตัว
หอยมือเสือ
หอยมือเสือเป็นหอยสองฝาขนาดใหญ่ กล้ามเนื้อแข็งแรง เกาะติดแน่นอยู่กับก้อนหิน หรือก้อนปะการังใต้ทะเลโดยใช้เอ็นเหนียวเกาะติดไว้ ปกติจะอ้าปากเห็นเนื้อเยื่อสีสดหยักคล้ายกลีบดอกไม้ อยู่ที่ขอบเปลือกทั้งสอง ถ้าถูกรบกวนก็จะหุบเปลือกปิดสนิทแน่น เปิดไม่ได้ง่าย ๆ เพราะมีกล้ามเนื้อแข็งแรงหอยมือเสือจึงเป็นหอยที่อาจทำอันตรายให้แก่นักดำน้ำได้ ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งของนักดำน้ำถูกเปลือกหอยหนีบติดเอาไว
หอยนมสาว
หอยนมสาวเป็นหอยฝาเดียว ทรงแหลม คว่ำปากลงเป็นรูปกรวย หอยนมสาวมีเปลือกหนา ซึ่งนำมาขัดเป็นเงาวาววับ แล้วตัดแต่งใช้เป็นมุกประดับไม้ หรือทำกระดุม และเครื่องใช้อื่น ๆ ได้ งดงามมากหอยนมสาวอาศัยอยู่ที่พื้นทะเล เกาะอยู่กับหินปะการังใต้น้ำตื้น ๆ เมื่อถึงคราววางไข่ หอยนมสาวจะออกไข่ไว้บนหิน หรือตามกิ่งก้านของพืชทะเล ตัวอ่อนที่ฟักออกจากไข่ว่ายน้ำได้ เมื่อโตขึ้นจึงจะลงหากินที่ก้นทะเล มีรูปร่างอย่างหอยนมสาว
หอยเบี้ย
หอยเบี้ยได้ชื่อว่าเป็นหอยที่มีเปลือกงดงามมากในบรรดาหอยทะเล หอยเบี้ยเป็นหอยฝาเดียว รูปร่างเหมือนแมลงเต่าด้านหน้าที่คว่ำลงมีรอยเปิดเป็นช่องยาว ส่วนด้านบนหรือด้านหลังนูนเกลี้ยง ผิวลื่นเป็นมันเงาวับ หอยเบี้ยมีหลายชนิดขนาดใหญ่ซึ่งมีชื่อว่าหอยเบี้ยโป่งลายเสือมีเปลือกสีน้ำตาลกับมีจุดสีขาวประอยู่ทั่วไปขนาดโตเท่ากับไข่เป็ด หอยเบี้ย
โป่งลายเสือเป็นหอยที่สวยงามมากอย่างหนึ่ง หอยเบี้ยขนาดเล็ก ซึ่งมีเปลือกสีเหลืองนวล เป็นหอยที่ใช้แทนเงินสมัยกรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนต้นเปลือกของหอยชนิดนี้ใช้เป็นเงินตราสำหรับแลกเปลี่ยนซื้อขายสิ่งของได้ การใช้หอยเบี้ยแทนเงินได้เลิกไปตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
หมึกยักษ์ หมึกกระดอง
บางคนเรียกหมึกยักษ์และหมึกกระดองว่า ปลาหมึก ความจริงหมึกยักษ์และหมึกกระดองไม่ใช่ปลาเพราะเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ปลามีกระดูกสันหลังหมึกทุกชนิดเป็นสัตว์จำพวกเดียวกับหอย แต่ไม่มีเปลือกหุ้มลำตัว กลับมีแผ่นแข็งเช่นเดียวกับเปลือกหอยอยู่ภายในลำตัวแทน มีหนวดยาวหลายเส้นรอบปาก และมีนัยน์ตาใหญ่ใกล้หนวด หมึกที่รู้จักกันเป็นส่วนมากได้แก่ หมึกกล้วย กับหมึกกระดอง หมึกกล้วยมีลำตัวยาวเรียวท้ายแหลมเหมือนหัวลูกศร มีครีบแผ่เป็นแผ่นรูปสามเหลี่ยม ช่วยให้ว่ายน้ำไปได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนหมึกกระดองมีลำตัวอ้วนกว้าง มีครีบยื่นออกมาจากสองข้างลำตัว ทั้งสองชนิดนี้มีหนวดสิบเส้น ส่วนหมึกยักษ์ซึ่งมีลำตัวกลมสั้นมาก มีหนวดแปดเส้น หนวดของหมึกแตกต่างจากหนวดของสัตว์อื่น ที่ด้านใต้ของหนวดแต่ละเส้นมีปุ่มกลมเล็กจำนวนมากเรียงกันอยู่เป็นแถว ปุ่มกลมเหล่านี้มีรูปร่างเหมือนถ้วยคว่ำปากลง ได้ชื่อว่า ปุ่มดูด เมื่อมีปลาและกุ้งตัวเล็ก ๆ ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ หมึกจะยื่นหนวดที่มีปุ่มดูดออกไปแตะติดเอาตัวไว้ ทำให้ว่ายน้ำหนีไม่ได้ต้องกลายเป็นอาหารไปในที่สุดโดยปกติหมึกว่ายน้ำได้โดยการขยับครีบสองข้างลำตัวให้เป็นคลื่นทำให้ตัวเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่เมื่อตกใจหรือหนีศัตรูมันจะว่ายน้ำถอยหลัง โดยการพ่นน้ำที่อมไว้ออกทางรูเล็ก ๆ ที่หัว น้ำที่พ่นออกมาโดยแรงจะทำให้ตัวหมึกถอยไปทางเบื้องหลัง เหตุที่ได้ชื่อว่าหมึก เป็นเพราะมันมีถุงน้ำสีดำเหมือนหมึกอยู่ภายในลำตัว เมื่อพบศัตรูหรือตกใจจะพ่นน้ำสีดำเหมือนหมึกออกมา ทำให้น้ำทะเลรอบ ๆ ตัวกลายเป็นสีดำมืดมองไม่เห็นตัว ช่วยให้หมึกว่ายน้ำหนีไปได้โดยง่าย หมึกกล้วยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่จำนวนหลายร้อยตัว ว่ายน้ำไปด้วยกันเป็นฝูง มันสามารถว่ายน้ำได้รวดเร็วมากและไม่เคยอยู่นิ่ง หมึกบางตัวมีแสงเรืองสว่างออกมาจากลำตัวทำให้มองดูงดงาม และเห็นได้ชัดในคืนเดือนมืด ส่วนหมึกยักษ์ชอบอยู่ตัวเดียวตามลำพังในซอกหินใต้ทะเล
ปลาสวยงาม
ในแนวปะการังมีปลาขนาดเล็ก สีสันสดใสสวยงาม ลวดลายแปลกตา บ้างก็เป็นแถบสลับสี บ้างก็มีจุดใหญ่น้อยทั้งตัว บางตัวมีลวดลายพิสดารอย่างที่ไม่มีในปลาน้ำจืดชนิดใด ๆ ทั้งสิ้น ปลาสวยงามเหล่านี้ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ พากันว่ายน้ำมาวนเวียนอยู่ในดงปะการังทำให้บริเวณเช่นนั้นดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก ปลาสวยงามในแนวปะการังมีหลายชนิด เช่น ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน และอื่น ๆ อีกมากมาย แนวปะการังจึงเป็นทรัพยากรธรรมชาติมีค่า ซึ่งเราควรช่วยกันดูแล สงวนรักษาไว้ให้คงอยู่ สิ่งที่ควรทำก็คือไม่เก็บปะการังขึ้นมาเพียงเพื่อดูเล่น จับปลาหรือฆ่าสัตว์ที่อาศัยในแนวปะการังโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะการใช้ระเบิดจับปลาเป็นสิ่งเลวร้ายมาก เพราะเป็นการทำลายแนวปะการังและสัตว์ทะเลให้หมดสิ้นไปในพริบตาซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน นับพันปีกว่าธรรมชาติจะสร้างแนวปะการังขึ้นมาทดแทนใหม่ได้
วีดีทัศน์ประกอบการเรียนรู้
ที่มาของวีดีทัศน์ : http://www.youtube.com/watch?v=YG7pAtY_JOc&feature=relmfu
|