หน้าที่ 7
![](/files/u31525/1.gif)
credit : http://www.thaigoodview.com/files/u31525/1.gif
แมสเซอร์ชมิท บี เอฟ 109 (Messerschmitt Bf 109) เครื่องบินขับไล่ที่เป็นแกนหลักของเยอรมันในการโจมตีเกาะอังกฤษ มันถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่เล็ก คล่องตัว มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง มีอัตราความเร็วในการบินดำดิ่ง เร็วกว่าเครื่องบินขับไล่ของอังกฤษทุกชนิด
นอกจากนี้ยังติดปืนกลขนาด 7.9 มม. แบบ MG 17 ที่เหนือเครื่องยนต์สองกระบอก โดยทำการยิงลอดใบพัด ส่วนปืนใหญ่อากาศขนาด 20 มม.แบบ MG FF อีกสองกระบอก ติดที่ปีกทั้งสองข้าง ข้างละหนึ่งกระบอก ในช่วงต้นของการรบที่เกาะอังกฤษ เยอรมันมีเครื่องบินขับไล่แบบนี้และแบบ บี เอฟ 110 อยู่ 1,290 ลำ
credit : http://www.thaigoodview.com/files/u31525/2.gif
เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมัน แบบ ไฮน์เกล 111 (Heinkel He III) ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดหลักที่เข้าโจมตีเกาะอังกฤษ มันประสบความสำเร็จอย่างมากในการรบที่สเปน และโปแลนด์ในช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง
แต่เมื่อต้องมาพบกับเครื่องบิน สปิตไฟร์ และ เฮอร์ริเคนของอังกฤษ ไฮน์เกล 111 ก็พบว่า ตัวมันมีอาวุธน้อยเกินไป ที่จะต่อต้านเครื่องบินขับไล่ของอังกฤษ เครื่องบินรุ่นนี้ติดตั้งปืนกลขนาด 7.92 มม. จำนวน สามกระบอก บรรทุกระเบิดได้ 1,800 กก. มีความเร็ว 398 กม. ต่อ ชม. เครื่องยนต์สองเครื่องยนต์ของไฮน์เกล 111 เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ไว้ใจได้
อย่างไรก็ตาม นักบินอังกฤษพบว่า บริเวณส่วนหัวของเครื่องบิน เป็นกระจก และไม่มีเกราะป้องกันใดๆให้กับนักบิน ทั้งนี้มุ่งหมายเพื่อทัศนวิศัยที่ดีของนักบิน นักบินอังกฤษจะบินพุ่งสวนเข้าหาไฮน์เกล 111 จากด้านหน้า แล้วยิงเข้าใส่ฝูงบินทิ้งระเบิดของเยอรมันจากด้านหน้า ก่อนที่บินฉีกออกไปด้านข้าง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับฝูงบิน และนักบินของไฮน์เกล 111 เป็นอย่างมาก
credit : http://www.thaigoodview.com/files/u31525/3.jpg
แม้ว่าเครื่องบินฮอว์คเกอร์ เฮอริเคนจะมีการผลิตเป็นจำนวนมาก แต่สุดยอดของเครื่องบินขับไล่เหนือน่านฟ้าอังกฤษ ในปี 1940-1941 ก็คือ เครื่องบินซุปเปอร์มารีน สปิตไฟร์ (Supermarine Spitfire) มันมีความเร็ว 580 กม. ต่อ ชม. ติดปืนกลขนาด .303 นิ้ว ถึงแปดกระบอกที่ปีกทั้งสองข้าง
นักบินอังกฤษที่ใช้เครื่องสปิตไฟร์ จะทำการปรับปืนทั้งแปดกระบอกให้มีระยะรวมศูนย์อยู่ที่ 594 เมตร คือกระสุนทั้งแปดกระบอกจะมารวมกันที่ระยะ 594 เมตรจากลำกล้อง แต่ก็มีนักบินบางคนพยายามปรับระยะรวมศูนย์ให้ลดมาอยู่ที่ 200 หลา หรือ 183 - 274 เมตร ระยะที่แตกต่างนี้มีผลในเรื่องของการต้องการเพียงสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินเยอรมัน หรือทำลายเครื่องบินเยอรมัน
การสร้างความเสียหายนั้น อังกฤษเชื่อว่า จะทำให้เยอรมันต้องเสียเวลาในการซ่อมแซม และต้องใช้บุคคลากรจำนวนมาก เป็นการทำให้เยอรมันต้องพะว้าพะวัง ทำการรบได้ไม่เต็มที่ ในช่วงแรกของการรบ อังกฤษมีเครื่องบินสปิตไฟร์ และเฮอร์ริเคนอยู่ 591 ลำ