หน้า 4 สงคราม
อย่างไรก็ตามแม้อังกฤษจะพยายามคิดค้นยุทธวิธีในการสกัดกั้นและยับยั้งฝูงบินเยอรมันเหนือน่านฟ้าอังกฤษเพียงใดก็ตาม แต่ด้วยจำนวนเครื่องบินของเยอรมันที่มีมากกว่า ก็ทำให้อังกฤษก็ต้องประสบกับความสูญเสียอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เช่นในการรบของวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ.1940 ฝูงบินเยอรมันประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างความเสียหายให้กับอ่าวเค้นท์ (Kent) และท่าเรือเมืองโดเวอร์ (Dover) ของอังกฤษ เมื่อฝูงบิน เจยู 87 สตูก้าที่คุ้มกันโดยเครื่องบินขับไล่แบบ บีเอฟ 109 จำนวนประมาณ 90 ลำ ได้เข้าโจมตีเรือรบขนาดเบา “กู๊ดวิน” (Goodwin) ที่จอดเทียบท่าอยู่จนจมลง
เครื่องบินขับไล่ของเยอรมันที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ นำโดยเสืออากาศเยอรมัน อดอล์ฟ กัลป์ลันด์ (Adolf Gulland) ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากฝูงบินขับไล่สปิตไฟร์และเฮอร์ริเคนของอังกฤษจำนวน 42 ลำจากฝูงบินที่ 65, 610 และ 615 แม้อังกฤษจะสูญเสียเรือรบและสนามบินตลอดจนอาคารโรงเก็บเครื่องบินจำนวน 4 หลังของสนามบินแมนสตัน (Manston) และโรงเก็บเครื่องบินอีก 3 หลังที่สนามบินเบลนไฮมส์ (Blenheims) แต่เครื่องบินขับไล่ของอังกฤษก็ถูกยิงตกเพียง 3 ลำ และอีก 1 ลำได้รับความเสียหายขณะแล่นลงจอดที่สนามบินเท่านั้น
ในภายหลังเครื่องบินอังกฤษจากฝูงบิน 600 ได้บินขึ้นทำการแก้แค้นให้กับภาคพื้นดิน แต่ก็ไม่สามารถทำความเสียหายให้กับเยอรมันได้มากนัก เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันเพียง 1 ลำถูกยิงตก และอีก 1 ลำถูกยิงตกโดยปืนต่อสู้อากาศยานโบฟอร์ส (Bofors) ขนาด 40 มิลลิเมตรของสนามบิน ในขณะที่เยอรมันสร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่กว่า 160 ตารางกิโลเมตร สมรภูมิเหนือเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้น เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้ว่า จะมีจุดจบลงเช่นใด
การโจมตีเกาะอังกฤษของฝูงบินเยอรมันเป็นไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเพื่อหวังที่จะดึงฝูงบินอังกฤษออกจากที่ซ่อนและทำลายให้สิ้นซากตามแผนของจอมพลแฮร์มาน เกอริง (Hermann Goring) ผู้บัญชาการกองทัพอากาศเยอรมันที่เสนอต่ออดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ผู้นำนาซีเยอรมัน โดยกองทัพอากาศเยอรมันแบ่งกองบินที่รับผิดชอบในการโจมตีเกาะอังกฤษตามยุทธการ "สิงโตทะเล" ออกเป็นสามกองบินหรือ "ลุฟฟลอทท์" (Luftflotte) ประกอบด้วย
- กองบินที่ 2 (Luftflotte 2) ซึ่งรับผิดชอบการโจมตีพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษและบริเวณนครลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ กองบินนี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของจอมพลอัลเบิร์ต เคสส์เซลริง (Albert Kesselring)
- กองบินที่ 3 (Luftflotte 3) รับผิดชอบการโจมตีพื้นที่บริเวณภาคตะวันตก ภาคตะวันตกเฉียงเหนือและตอนกลางของเกาะอังกฤษ กองบินนี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของจอมพลฮิวโก สเปอร์เรล (Hugo Sperrle)
- กองบินที่ 5 (Luftflotte 5) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในประเทศนอรเวย์ รับผิดชอบการโจมตีพื้นที่ภาคเหนือของอังกฤษและพื้นที่สกอตแลนด์ โดยอยู่ในการบังคับบัญชาของพลอากาศเอกฮันส์ เจอร์เกน สตรั้มฟ์ (Hans Jurgen Stumpff)
อย่างไรก็ตามเมื่อการรบเหนือเกาะอังกฤษยืดเยื้อยาวนานออกไป กองบินที่ 3 ก็ต้องแบกรับภาระในการโจมตีในเวลากลางคืนเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ต้องแบ่งภารกิจในการโจมตีในเวลากลางวันให้กับกองบินที่ 2 โดยในช่วงแรกเยอรมันคาดการณ์ว่าก่อนเปิดยุทธการ "สิงโตทะเล" (Operation Sealion) ซึ่งจะเป็นการบุกเกาะอังกฤษอย่างเต็มรูปแบบด้วยกำลังทหารราบ กองทัพอากาศเยอรมันจะใช้เวลาเพียงสี่วันในการกำจัดฝูงบินขับไล่ของอังกฤษออกไปจากน่านฟ้า จากนั้นจะใช้เวลาอีกประมาณสี่สัปดาห์ในการโจมตีที่ตั้งทางทหารและแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆ ของอังกฤษเพื่อลดทอนศักยภาพในการรบของกองทัพอังกฤษ
แต่เมื่อกองทัพอากาศเยอรมันเปิดฉากโจมตีอังกฤษด้วยการโจมตีบริเวณชายฝั่งตอนใต้ของประเทศ เพื่อมุ่งหวังที่จะดึงฝูงบินอังกฤษให้เข้ามาติดกับดักในพื้นที่สังหารของเยอรมัน แล้วใช้เครื่องบินขับไล่ของเยอรมันเข้ากวาดล้างและทำลายฝูงบินขับไล่อังกฤษเหล่านั้น เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อฝูงบินขับไล่ของอังกฤษกลับหนุนเนื่องเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้การต่อต้านดูไม่มีที่สิ้นสุด