ดาวอังคาร
http://www.sunflowercosmos.org/solar_system/mars_images/3_mars_young.jpg
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ในบรรดาดาวเคราะห์บนฟ้าทั้งหมด เพราะเคยมีคนเชื่อว่า มีมนุษย์อยู่บนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้ ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกเกือบพอ ๆ กับดาวศุกร์ โดยระยะใกล้ที่สุดจะอยู่ภายใน 40 ล้าน กิโลเมตร เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังขยายภาพสูงสุด ส่องดาวอังคารขณะอยู่ใกล้โลกที่สุด จะเห็นรายละเอียดได้ถึง 150 กิโลเมตร ซึ่งเทียบได้กับการเห็นริ้วรอยบนดวงจันทร์ด้วยตาเปล่า ที่กำลังแยกขนาดนี้จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว เช่นไม่เห็นภูเขา หรือ หุบเหว หรือหลุมบ่อของดาวอังคาร แต่จะเห็นโครงสร้างใหญ่ ๆ เช่น ขั้วน้ำแข็งสีขาว หรือริ้วรอยสีคล้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดุกาลของดาวอังคาร สาเหตุที่มีผู้เชื่อว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่บนดาวอังคาร เนื่องจากนักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี ชื่อ จิโอวานนี ชิอาพาเรลลี รายงานเมื่อ พ.ศ. 2420 ว่าเขาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่งพบร่องที่เป็นเส้นตรงจำนวนมากบนพื้นผิว และเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า คานาลี ( canale) ซึ่งมีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่าchannel (ช่องหรือทาง ) แต่คนอังกฤษเอาไปแปลว่า canal (คลอง ) อันเป็นสิ่งที่ต้องขุดสร้างขึ้น ผู้ขุดสร้างคลองบนดาวอังคารจึงต้องเปนมนุษย์ดาวอังคาร เพื่อนำน้ำจากขั้วมายังบริเวณศูนย์สูตรสำหรับการเพาะปลูก จุดนี้เองที่นำไปสู่การเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คนเชื่อว่ามีมนุษย์ดาวอังคาร ซึ่งจะเดินทางมาบุกโลก ผู้ที่สนับสนุนความคิดเรื่องมนุษย์ดาวอังคารสร้างคลองส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก คือ เปอร์ซิวัล โลเวลล์ นักดาราศาสตร์อเมริกันและเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มั่งคั่งในรัฐแอริโซนา เขาได้ทำแผนที่แสดงคลองต่าง ๆ บนดาวอังคาร แต่ต่อมามรนักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังขยายภาพที่ดีกว่า ตรวจไม่พบคลองบนดาวอังคาร แต่ชาวบ้านทั่วไปยังฝั่งใจเชื่ออยู่ จนกระทั่งถึงยุคอวกาศจึงปรากฏชัดว่า ไม่มีคลองบนดาวอังคารแน่นอน พื้นผิวดาวอังคารมีหลุมบ่อ หุบเหว ภูเขา และมีปล่องภูเขาไฟ มีร่องเหมือนเป็นทางน้ำไหลมาก่อน ดังจะกล่าวต่อไปในหัวข้อการสำรวจดาวอังคารโดยยานอวกาศ
โครงสร้างดาวอังคาร และลักษณะพิเศษ
โครงสร้างภายในดาวอังคาร (Interior of Mars)แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ
1.Core แกนกลางชั้นในสุด
2.Mantle ชั้นหลอมละลาย
3.Lithosphere ชั้นผิวพื้นรวมกับชั้นเปลือกนอก (Crusts)
ตลอดกว่า 100 ปีผ่านมา ข้อมูลการสำรวจดาวอังคารจากพื้นโลก และยานสำรวจสรุปว่ามีองค์ประกอบของ Carbon dioxide ส่วนบรรยากาศทั่วไป มีความหนาแน่นน้อยกว่าโลก โดยความกดอากาศบนพื้นผิวดาวอังคาร เท่ากับความกดอากาศ เหนือระดับพื้นผิวโลกสูง 35 กิโลเมตร จึงนับว่ามีความเบาบางมาก พายุฝุ่นบนดาวอังคารจึงเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นทั่วไป บนดาวอังคารแม้ว่าจะมีความหนาแน่นน้อย แต่ในบรรยากาศเกิดพลังลม เพียงพอสามารถหอบทราย เม็ดฝุ่นขึ้นจากเนินทรายได้ และการที่ดาวอังคารสีแดงคล้ำเหมือนดินลูกรัง เพราะดาวอังคารมี Iron oxides (สนิมเหล็ก) ฝุ่นและทรายจึงคล้ายกับหินที่ถูกไฟเผา
http://www.sunflowercosmos.org/glossary/glossary_images/panet_profile_mars.jpg
บนดาวอังคารมีฤดูกาล ด้วยแกนเอียงใกล้เคียงกับโลก ในฤดูหนาวบริเวณพื้นครึ่งซีกของดาวอังคาร มีน้ำแข็งแห้งหนามากซึ่งเกิดจากบรรยากาศ ครั้นฤดูร้อนบริเวณนั้นน้ำแข็งหดน้อยลง ด้วยความร้อนจากพื้นผิวโดยรอบ เป็นลักษณะฤดูร้อนที่เกิดที่ขั้วใต้และร้อนกว่าขั้วเหนือ บริเวณ Polar caps (บริเวณปกคลุมน้ำแข็ง) แหล่งสะสม Dry ice (น้ำแข็งแห้ง) หรือ Frozen Carbon dioxide เป็นการจับตัวกันในชั้นบรรยากาศ ทุกๆ 5,000 ปี ดาวอังคารเกิดอาการ Wobbles (การหมุนตัวเองแบบโคลงเคลง)เหตุจากขั้วเหนือเกิดฤดูร้อนร้อนกว่าขั้วใต้ พื้นผิวดาวอังคารเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ที่ผ่านมาจนน้ำเหือดแห้งหมด ทิ้งร่องรอยการกัดเซาะของล่องน้ำ เหตุที่น้ำหายไปจากพื้นผิวด้วยเงื่อนไขบรรยากาศดาวอังคารบางลงมาก พร้อมทั้งเย็นลง
โดยเชื่อว่าเดิมในอดีต ดาวอังคารอบอุ่น มีความหนาแน่นในบรรยากาศ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังเป็นข้อสงสัยว่า เกิดขึ้นเฉพาะดาวอังคารหรือดาวเคราะห์อื่นเช่นโลกหรือไม่ เพื่อเป็นคำตอบถึงโครงสร้างในระบบสุริยะ
http://www.sunflowercosmos.org/glossary/glossary_images/panet_profile_mars_5.jpg
http://www.sunflowercosmos.org/glossary/glossary_images/panet_profile_mars_6.jpg