• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8bdd78c6976a8caa1740d197625ec81b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n<strong>\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n</div>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n</div>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n <a href=\"/node/75328\"><strong>ยุคราชวงศ์ฉิน</strong></a>   <a href=\"/node/75349\"><strong>ยุคราชวงศ์ฮั่น</strong></a>  <a href=\"/node/75426\"><strong>ยุคสามก๊ก</strong></a>  <a href=\"/node/75451\"><strong>ยุคราชวงศ์จิ้น</strong></a>  <a href=\"/node/75467\"><strong>ยุคราชวงศ์เหนือใต้</strong></a>  <a href=\"/node/75446\"><strong>ยุคราชวงศ์สุย</strong></a>  <a href=\"/node/75642\"><strong>ยุคราชวงศ์ถัง</strong></a> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76058\"><strong>5 ราชวงศ์ 10 แคว้น</strong></a>  <a href=\"/node/75649\"><strong>ยุคราชวงศ์ซ่ง</strong></a>  <a href=\"/node/76074\"><strong>ยุคราชวงศ์หยวน</strong></a>  <a href=\"/node/76079\"><strong>ยุคราชวงศ์หมิง</strong></a>  <a href=\"/node/76105\"><strong>ยุคราชวงศ์ชิง</strong></a>  \n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p></strong>\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #ff0000\"><strong><span style=\"color: #ff0000\">ยุคราชวงศ์ถัง 唐朝 (A.D. 618-907)</span></strong></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #ff0000\"><strong><span style=\"color: #ff0000\"></span></strong><br />\n</span>       นักประวัติศาสตร์ถือว่ายุคของราชวงศ์ถังเป็นยุคแห่งความรุ่นเรืองสูงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เหนือว่าราชวงศ์ฮั่นซึ่งนับว่ารุ่งเรืองมากแล้ว อาณาเขตใหญ่กว่าสมัยฮั่น </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\">       จากการติดต่อสัมพันธ์กับประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง ความเจริญรุ่งเรืองและการประดิษฐ์บานสะพรั่ง มี<span style=\"color: #ff0000\">การผลิตแม่พิมพ์</span> ทำให้หนังสือสามารถเข้าถึงชาวบ้านมากขึ้น เป็นยุคทองด้านวรรณกรรม พุทธศาสนาเผยแพร่สู่ระดับรากหญ้าอย่างแพร่หลาย เมื่อมีการอัญเชิญพระไตรปิฎกจาก<br />\nอินเดียมาสู่ประเทศจีน ลัทธิข่งจื่อได้รับการฟื้นฟู ระบบการสอบเข้ารับราชการได้ปรับปรุงจนสมบูรณ์เพื่อคัดเลือกบุคคลที่ฉลาดที่สุด และสิ่งที่<br />\nสำคัญที่สุดคือ การนำระบบราชการที่ไม่มีอำนาจการปกครองพื้นที่มาใช้ระบบราชการนี้ถูกนำมาใช้จนถึงการสิ้นสุดของราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1911<br />\nข้าราชการนี้ เป็นการทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างชาวบ้านระดับรากหญ้ากับรัฐบาล  </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\">แหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang\">http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang</a>  <a href=\"http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml\">http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml</a></span>\n</p>\n<p><span style=\"color: #000000\"></span></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><div style=\"text-align: center\">\n<strong>\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n</div>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n</div>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n <a href=\"/node/75328\"><strong>ยุคราชวงศ์ฉิน</strong></a>   <a href=\"/node/75349\"><strong>ยุคราชวงศ์ฮั่น</strong></a>  <a href=\"/node/75426\"><strong>ยุคสามก๊ก</strong></a>  <a href=\"/node/75451\"><strong>ยุคราชวงศ์จิ้น</strong></a>  <a href=\"/node/75467\"><strong>ยุคราชวงศ์เหนือใต้</strong></a>  <a href=\"/node/75446\"><strong>ยุคราชวงศ์สุย</strong></a>  <a href=\"/node/75642\"><strong>ยุคราชวงศ์ถัง</strong></a> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76058\"><strong>5 ราชวงศ์ 10 แคว้น</strong></a>  <a href=\"/node/75649\"><strong>ยุคราชวงศ์ซ่ง</strong></a>  <a href=\"/node/76074\"><strong>ยุคราชวงศ์หยวน</strong></a>  <a href=\"/node/76079\"><strong>ยุคราชวงศ์หมิง</strong></a>  <a href=\"/node/76105\"><strong>ยุคราชวงศ์ชิง</strong></a>  \n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p></strong>\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong>ราชวงศ์ถัง<br />\n</strong></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong>สถาปนาราชวงศ์ถัง</strong></span><br />\n        ปฐมกษัตริย์<strong>ถังเกาจู่</strong>หรือหลี่ยวน  ถือกำเนิดในเชื้อสายชนชั้นสูงจากราชวงศ์เหนือ มีความเกี่ยวดองสายเครือญาติกับปฐมกษัตริย์ราชวงศ์สุยอย่างใกล้ชิด ครั้นถึงปลายราชวงศ์สุย แผ่นดินอยู่ในสภาพระส่ำระสายจากกลุ่มกองกำลังต่างๆที่ลุกฮือขึ้น ปี 617 หลี่ยวนที่รักษาแดนไท่หยวน ตกอยู่ในภาวะล่อแหลม เนื่องจากไท่หยวนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่กลุ่มกองกำลังต่างต้องการแย่งชิง ขณะเดียวกันก็ทราบว่าสุยหยางตี้ทรงระแวงว่าหลี่ยวนจะแปรพักตร์ จึงประกาศตัวเป็นอิสระจากราชสำนัก<br />\n        เวลานั้น กองกำลังหวากั่ง และเหอเป่ย เข้าปะทะกับกองทัพสุย เป็นเหตุให้กำลังป้องกันของเมืองฉางอันอ่อนโทรมลง หลี่ยวนได้โอกาสบุกเข้ายึดเมืองฉางอันไว้ได้ จากนั้นตั้งหยางโย่ว  เป็นฮ่องเต้หุ่น ปีถัดมา สุยหยางตี้ถูกลอบปลงพระชนม์ที่เมืองเจียงตู หลี่ยวนจึงปลดหยางโย่ว ประกาศตั้งตนเป็นกษัตริย์ สถาปนาราชวงศ์ถัง โดยมีนครหลวงอยู่ที่เมืองฉางอัน พร้อมกับแต่งตั้งโอรสองค์โตหลี่เจี้ยนเฉิง  เป็นรัชทายาท หลี่ซื่อหมิน  โอรสองค์รองเป็นฉินหวัง (ฉินอ๋อง)  และหลี่หยวนจี๋  โอรสองค์เล็กเป็นฉีหวัง (ฉีอ๋อง)<br />\n          ภายหลังสถาปนาราชวงศ์ถัง แผ่นดินยังคงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกองกำลังต่างๆ อาทิ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีเซียว์จี่ว์  ทางเหนือมีหลิวอู่โจว  หวังซื่อชง  สถาปนาแคว้นเจิ้ง  ที่เมืองลั่วหยาง โต้วเจี้ยนเต๋อ  ตั้งตนเป็นเซี่ยหวัง  ที่เหอเป่ย (ทางภาคอีสานของจีน)<br />\n   <br />\n          ปลายปี 618 เซียว์จี่ว์เสียชีวิตกะทันหัน เซียว์เหยินเก่า  บุตรชายสืบทอดต่อมา หลี่ซื่อหมินเห็นเป็นโอกาสรุกทางทหาร ยึดได้ดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ปี 619 กลุ่มกองกำลังของหลี่กุ่ย  เกิดการแย่งชิงอำนาจ จึงเป็นโอกาสให้ราชวงศ์ถังเข้าครอบครองแดนเหอซี ปี 620 กวาดล้างกลุ่มกองกำลังของหลิวอู่โจว ปลายปีเดียวกัน หลี่ซื่อหมินยกทัพใหญ่เข้าปิดล้อมหวังซื่อชงที่ลั่วหยาง โต้วเจี้ยนเต๋อยกกำลังมาช่วย แต่ถูกหลี่ซื่อหมินโจมตีแตกพ่ายไป โต้วเจี้ยนเต๋อถูกจับ ภายหลังเสียชีวิตที่ฉางอัน หวังซื่อชงได้ข่าวการพ่ายแพ้ของโต้วเจี้ยนเต๋อจึงยอมจำนนต่อราชวงศ์ถัง ปี 622 ทัพถังกวาดล้างกองกำลังเหอเป่ยที่หลงเหลือ จากนั้นกองกำลังต่างๆบ้างยอมสวามิภักดิ์ บ้างถูกปราบปรามจนราบคาบ ภารกิจเบื้องต้นในการรวมแผ่นดินถือได้ว่าสำเร็จลง ขณะที่ศึกแย่งชิงอำนาจในราชสำนักก็เริ่มปะทุขึ้น\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong>เหตุเปลี่ยนแปลงที่ประตูเซวียนอู่</strong></span> <br />\n           หลี่ซื่อหมินที่นำทัพปราบไปทั่วแผ่นดิน นับว่าสร้างผลงานความชอบที่โดดเด่น เป็นที่ริษยาของพี่น้อง ประกอบกับระหว่างการกวาดล้างกองกำลังน้อยใหญ่นั้นได้เพาะสร้างขุมกำลังทางทหาร และยังชุบเลี้ยงผู้มีความสามารถไว้ข้างกายจำนวนมาก อาทิ อี้ว์ฉือจิ้งเต๋อ  หลี่จิ้ง  ฝางเซวียนหลิ่ง  เป็นต้น อันส่งผลคุกคามต่อรัชทายาทหลี่เจี้ยนเฉิง เป็นเหตุให้รัชทายาทเจี้ยนเฉิงร่วมมือกับฉีหวังหลี่หยวนจี๋เพื่อจัดการกับหลี่ซื่อหมิน ปัญหาข้อขัดแย้งดังกล่าวทำให้สองฝ่ายยิ่งทวีความเป็นปรปักษ์มากขึ้น<br />\n            จวบจนกระทั่งปี 626 หลี่ซื่อหมินชิงลงมือก่อน โดยกราบทูลเรื่องราวต่อถังเกาจู่ ถังเกาจู่จึงเรียกทุกคนให้เข้าเฝ้าในเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ขบวนของหลี่เจี้ยนเฉิงและหลี่หยวนจี๋ผ่านเข้าประตูเซวียนอู่นั้น (ประตูใหญ่ทางทิศเหนือของวังหลวง) หลี่ซื่อหมินก็นำกำลังเข้าจู่โจมสังหารรัชทายาท และฉีหวัง เหตุการณ์ครั้งนี้ต่อมาได้รับการเรียกขานว่า เหตุเปลี่ยนแปลงที่ประตูเซวียนอู่ <br />\n           ภายหลังเหตุการณ์ ถังเกาจู่แต่งตั้งหลี่ซื่อหมินเป็นรัชทายาท จากนั้นอีกสองเดือนต่อมาก็ทรงสละราชย์ ให้หลี่ซื่อหมินขึ้นครองบัลลังก์ต่อมา ทรงพระนามว่า <strong>ถังไท่จง</strong>  และประกาศให้เป็นศักราชเจินกวน (ปี 627 – 649)\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\">แหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang\">http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang</a>  <a href=\"http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml\">http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml</a></span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\"></span>\n</p>\n<p><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"></span></span></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><div style=\"text-align: center\">\n<strong>\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n</div>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n</div>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n <a href=\"/node/75328\"><strong>ยุคราชวงศ์ฉิน</strong></a>   <a href=\"/node/75349\"><strong>ยุคราชวงศ์ฮั่น</strong></a>  <a href=\"/node/75426\"><strong>ยุคสามก๊ก</strong></a>  <a href=\"/node/75451\"><strong>ยุคราชวงศ์จิ้น</strong></a>  <a href=\"/node/75467\"><strong>ยุคราชวงศ์เหนือใต้</strong></a>  <a href=\"/node/75446\"><strong>ยุคราชวงศ์สุย</strong></a>  <a href=\"/node/75642\"><strong>ยุคราชวงศ์ถัง</strong></a> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76058\"><strong>5 ราชวงศ์ 10 แคว้น</strong></a>  <a href=\"/node/75649\"><strong>ยุคราชวงศ์ซ่ง</strong></a>  <a href=\"/node/76074\"><strong>ยุคราชวงศ์หยวน</strong></a>  <a href=\"/node/76079\"><strong>ยุคราชวงศ์หมิง</strong></a>  <a href=\"/node/76105\"><strong>ยุคราชวงศ์ชิง</strong></a>  \n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p></strong>\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong> จักรพรรดิถังไท่จง</strong></span> <br />\n          ภายหลังการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิถังไท่จง <span style=\"color: #800080\">สังคมจีนมั่นคงและมีระเบียบ</span> จนมีคำกล่าวว่า<strong> &quot;หากทำของตกลงบนถนน ก็มิต้องหวั่นใจว่าจามีคนแอบมาเก็บไป เวลานอนตอนกลางคืนก็มิต้องลงกลอนประตู&quot;</strong> ดังนั้นช่วงระยะเวลาการปกครองของจักรพรรดิถังไท่จง จึงเป็นแบบอย่างในการปกครองที่เลื่องลือของคนรุ่นหลัง ทรงดำเนินนโยบายที่เปิดกว้าง ผ่อนปรนการเรียกเก็บภาษี ลดการลงทัณฑ์ที่รุนแรง แต่<strong>เน้นความถูกต้องยุติธรรมมากกว่า เร่งพัฒนากำลังการผลิต</strong> จัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรได้กลับคืนสู่ไร่นาและดำเนินวิถีชีวิตตามปกติ <br />\n        ช่วงเวลาดังกล่าว <strong>มีการตรากฎหมายเพิ่มขึ้น</strong> เปิดการสอบ<strong>คัดเลือกบุคลากรเข้ารับราชการจากบุคคลทั่วไป</strong> ไม่เลือกยากดีมีจน ไม่จำกัดอยู่แต่ชนชั้นขุนนางดังแต่ก่อน ทั้งมีการตรวจตราการทำงานของบรรดาขุนนางท้องถิ่นอย่างเข้มงวด เลือกใช้คนดีมีปัญญา ถอดถอนคนเลว นอกจากนี้ ยังเปิดรับฟังความคิดเห็นและคำทักท้วงจากขุนนางรอบข้าง เพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อผิดพลาดในการบริหารแผ่นดินได้อย่างทันการณ์ รอบข้างจึงเต็มไปด้วยอัจฉริยะบุคคลที่ตั้งอกตั้งใจทำงาน อย่าง ฝางเซวียนหลิ่ง เว่ยเจิง หลี่จิ้ง เวินเหยียนป๋อ เป็นต้น อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ศักราชเจินกวนมีการบริหารการปกครองที่โปร่งใสและมีเสถียรภาพ <br />\n         ในด้านแนวคิดการศึกษา ถังไท่จงให้ความสำคัญต่อการรวบรวมและ<strong>จัดเก็บตำรับตำราความรู้วิทยาการและประวัติศาสตร์เป็นหมวดหมู่</strong> ทั้งยังเปิดกว้างในการนับถือและเผยแพร่แนวคิดในลัทธิศาสนาต่างๆ เช่น พุทธศาสนา เต๋า หยู(ลัทธิขงจื้อ) รวมทั้งศาสนาบูชาไฟของเปอร์เซีย ศาสนาแมนนี และคริสตศาสนา<br />\n         เหตุการณ์ที่มีความสำคัญต่อการเผยแพร่พุทธศาสนา ได้แก่ <strong><span style=\"color: #ff6600\">หลวงจีนเซวียนจั้ง  หรือพระถังซำจั๋ง</span></strong>  ได้เดินทางไปยังประเทศอินเดียอันไกลโพ้น เพื่อ<strong><span style=\"color: #ff6600\">อัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมา</span></strong> แปลเป็นภาษาจีนและเผยแพร่ออกไป ทำให้พุทธศาสนาในสมัยราชวงศ์ถังเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในเวลาต่อมา <br />\n      \n</p>\n<p>\n          นอกจากนี้ ถังไท่จงยังส่งเสริมและให้ความสำคัญกับการจัดแบบแผนการศึกษา มีการ<strong>สร้างสถานศึกษาสำหรับบรรดาลูกหลานผู้นำ</strong> เรียกว่า <span style=\"color: #800080\">สำนักศึกษาหงเหวินก่วน</span>  เปิดสอนศาสตร์สาขาต่างๆในการเป็นผู้นำ อาทิ การบริหารการปกครอง กฎหมาย วรรณคดี อักษรศาสตร์ การคำนวณ ฯลฯ เพื่ออบรมบ่มเพาะบรรดาลูกหลานที่เป็นทายาทเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง และชนชั้นสูง ทั้งยังจัดตั้งสำนักศึกษาในศาสตร์สาขาต่างๆทั่วราชอาณาจักร บรรดาเจ้าผู้ครองแคว้นรอบนอกจึงนิยมส่งบุตรหลานของตนเข้ามาศึกษายังนครฉางอัน <strong>ทำให้ในเวลานั้นจีนกลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิทยาการต่างๆในแถบภูมิภาคนี้<br />\n</strong>          ในรัชสมัยนี้ ได้มีการปฏิรูปโครงสร้างการปกครอง ที่<strong>เน้นการรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง</strong> เพื่อป้องกันการก่อหวอดของผู้มีกำลังทหารอยู่ในมือดังที่ผ่านมา ข้าราชการท้องถิ่นไม่มีสิทธิเคลื่อนพล ในภาวะสงคราม ส่วนกลางจะเป็นผู้สั่งระดมพลจากที่ต่างๆ จากนั้นจัดส่งนายทัพไปบัญชาการรบ ภายหลังเสร็จศึก ทหารกลับสู่กรมกอง แม่ทัพกลับคืนสู่ราชสำนัก<br />\n             การขยายแสนยานุภาพของราชอาณาจักร ถังไท่จงได้ดำเนินการทั้งด้านการทหารและการทูตไปพร้อมกัน อาทิ ในปี ค.ศ.630 ทัพถัง นำโดยแม่ทัพหลี่จิ้งและหลี่จี ปราบทูเจี๋ยว์ตะวันออก ขยายพรมแดนทางเหนือขึ้นไป (ปัจจุบันคือ มองโกเลียใน) ภายหลังทูเจี๋ยว์ตะวันออกล่มสลาย ถังไท่จงดำเนินนโยบายเปิดกว้างให้อิสระแก่ชนเผ่าฯ ในการดำรงชีวิต มีชนเผ่าทูเจี๋ยว์บางส่วนอพยพเข้ามาตั้งรกรากในฉางอัน ทั้งมีไม่น้อยที่เข้ารับราชการทหาร หลอมกลืนเข้ากับวัฒนธรรมภาคกลางไป <br />\n  \n</p>\n<p>\n            ซงจั้นกั้นปู้หรือพระเจ้าสรองตาสันคัมโป  แห่งแคว้นถู่ฟาน(ทิเบตในปัจจุบัน) ที่รวบรวมแว่นแคว้นทางตะวันตกเฉียงใต้ไว้ได้ มีกำลังรุ่งเรืองขึ้น ได้จัดส่งราชฑูตมาสู่ขอราชธิดาในถังไท่จงหลายครั้ง ในที่สุดปี ค.ศ. 641 ถังไท่จงตัดสินใจส่ง<span style=\"color: #800080\">องค์หญิงเหวินเฉิง</span>  ที่เพียบพร้อมด้วยความรู้ความสามารถในศาสตร์ศิลป์เดินทางไปเป็นทูตไมตรีครั้งนี้ องค์หญิงเหวินเฉิงได้นำเอาศิลปะความรู้วิทยาการต่างๆ ของจีนอาทิ อักษรศาสตร์ การดนตรี การเพาะปลูก ทอผ้า การทำกระดาษและหมึก ฯลฯ ไปเผยแพร่ยังดินแดนอันห่างไกลนี้ แคว้นถู่ฟานและราชวงศ์ถังจึงรักษาไมตรีอันดีสืบมา (แม้ว่าภายหลังแคว้นถู่ฟานได้เกิดข้อขัดแย้งกับราชสำนักถังในรัชสมัยต่อมา แต่องค์หญิงเหวินเฉิงยังคงได้รับการเคารพเทิดทูนอย่างสูงในหมู่ชนชาวทิเบตจวบจนปัจจุบัน)<br />\n    อย่างไรก็ตาม ปลายรัชสมัยถังไท่จง เกิดปัญหาสำคัญคือ การคัดสรรรัชทายาทที่เหมาะสม เนื่องจากในปี 643 รัชทายาทหลี่เฉิงเฉียน  กับวุ่ยหวังหลี่ไท่  แก่งแย่งอำนาจกัน เมื่อถังไท่จงทราบเรื่องจึงสั่งปลดรัชทายาทและวุ่ยหวังเป็นสามัญชน แต่งตั้งหลี่จื้อ  โอรสองค์ที่เก้าขึ้นเป็นรัชทายาทแทน ต่อมาในปี 649 ถังไท่จงสวรรคต หลี่จื้อจึงขึ้นเสวยราชย์ต่อมา ทรงพระนามว่าถังเกาจง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\">แหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang\">http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang</a>  <a href=\"http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml\">http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml</a></span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\"></span>\n</p>\n<p><span style=\"color: #000000\"></span></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<strong>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n<p></p></strong>\n</div>\n<p><strong></strong></p>\n<hr id=\"null\" />\n\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76193\"><strong><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></strong></a><strong>  </strong>\n</p>\n</div>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong> </strong><a href=\"/node/75328\"><strong>ยุคราชวงศ์ฉิน</strong></a><strong>   </strong><a href=\"/node/75349\"><strong>ยุคราชวงศ์ฮั่น</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/75426\"><strong>ยุคสามก๊ก</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/75451\"><strong>ยุคราชวงศ์จิ้น</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/75467\"><strong>ยุคราชวงศ์เหนือใต้</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/75446\"><strong>ยุคราชวงศ์สุย</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/75642\"><strong>ยุคราชวงศ์ถัง</strong></a><strong>  </strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76058\"><strong>5 ราชวงศ์ 10 แคว้น</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/75649\"><strong>ยุคราชวงศ์ซ่ง</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/76074\"><strong>ยุคราชวงศ์หยวน</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/76079\"><strong>ยุคราชวงศ์หมิง</strong></a><strong>  </strong><a href=\"/node/76105\"><strong>ยุคราชวงศ์ชิง</strong></a><strong>   </strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n</div>\n<p>\n<strong> </strong><span style=\"color: #ff0000\"><strong>บูเช็กเทียน จักรพรรดินีหนึ่งเดียวในแผ่นดิน (A.D 624-A.D 705)</strong></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong><img height=\"1\" width=\"1\" src=\"/\" border=\"0\" /> </strong></span></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<strong><img height=\"272\" width=\"250\" src=\"/files/u31712/bu3.jpg\" border=\"0\" /> </strong>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\nที่มาของรูป <a href=\"http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/WuZetian.jpg\">http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/WuZetian.jpg</a>\n</div>\n<p>\n\n</p>\n<p>              อู่เจ๋อเทียนหรือบูเช็กเทียน  เป็นฮองเฮาในถังเกาจงหลี่จื้อ มีชื่อว่า ‘ เจ้า \'  บิดาเป็นพ่อค้าไม้ ปลายราชวงศ์สุยได้มีการติดต่อกับหลี่ยวน ต่อมาเมื่อหลี่ยวนสถาปนาราชวงศ์ถัง ก็ติดตามมาตั้งรกรากที่นครฉางอัน เข้ารับราชการต่อมา <br />\n          เมื่อบูเช็กเทียนอายุได้ 14 ปี ถูกเรียกตัวเข้าวังเป็นนางสนมรุ่นเยาว์ในรัชกาลถังไท่จงหลี่ซื่อหมิน เมื่อถังไท่จงสวรรคต จึงต้องออกบวชเป็นชีตามโบราณราชประเพณี<br />\n         หลังจากถังเกาจงหลี่จื้อขึ้นครองราชย์ก็รับตัวบูเช็กเทียนเข้าวังมา ด้วยการสนับสนุนจากหวังฮองเฮาที่กำลังขัดแย้งกับสนมเซียว และต่างฝ่ายต่างคอยให้ร้ายกัน ต่อมาในปี ค.ศ.655 ถังเกาจงคิดจะปลดหวังฮองเฮา และตั้งบูเช็กเทียนขึ้นแทน แต่เสนาบดีเก่าแก่ ฉางซุนอู๋จี้  และฉู่ซุ่ยเหลียง  แสดงท่าทีคัดค้าน ส่วนหลี่อี้ฝู่  และสี่ว์จิ้งจง  แสดงความเห็นคล้อยตาม ต่อมาเมื่อถังเกาจงปลดหวังฮองเฮา แต่งตั้งบูเช็กเทียนขึ้นเป็นฮองเฮาแทน ฉางซุนอู๋จี้ ฉู่ซุ่ยเหลียงและกลุ่มที่คัดค้านต่างทยอยถูกปลดจากตำแหน่ง บ้างถูกบีบคั้นให้ฆ่าตัวตาย ส่วนหวังฮองเฮาและสนมเซียวก็ไม่อาจรอดพ้นชะตากรรมได้ ภายหลัง ถังเกาจงร่างกายอ่อนแอ ล้มป่วยด้วยโรครุมเร้า ไม่อาจดูแลราชกิจได้ บูฮองเฮาเข้าช่วยบริหารราชการแผ่นดิน จึงเริ่มกุมอำนาจในราชสำนัก สุดท้ายสามารถรวบอำนาจไว้ทั้งหมด <br />\n           ปี ค.ศ. 683 ถังเกาจงหลี่จื้อสิ้น รัชทายาท หลี่เสี่ยน  โอรสองค์ที่สามของบูฮองเฮาขึ้นครองราชย์ต่อมา พระนามว่าถังจงจง  ปีถัดมา บูเช็กเทียนปลดถังจงจงแล้วตั้งเป็นหลูหลิงหวัง  จากนั้นตั้งหลี่ตั้น  ราชโอรสองค์ที่สี่ขึ้นครองราชย์แทน พระนามว่าถังรุ่ยจง  แต่ไม่นานก็ปลดจากบัลลังก์เช่นกัน <br />\n         ระหว่างนี้ กลุ่มเชื้อพระวงศ์ตระกูลหลี่และขุนนางเก่าที่ออกมาต่อต้านอำนาจของตระกูลบูล้วนถูกกำจัดกวาดล้างอย่างเหี้ยมโหด ฐานอำนาจของกลุ่มตระกูลหลี่อ่อนโทรมลงอย่างมาก กระทั่งปี<span style=\"color: #ff0000\"> ค.</span><span style=\"color: #ff0000\">ศ. 690 บูเช็กเทียนประกาศเปลี่ยนราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์โจว</span>  หรือในประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า <span style=\"color: #ff6600\">ราชวงศ์อู่โจว</span>  มีนครหลวงที่ลั่วหยาง <span style=\"color: #ff0000\">ตั้งตนเป็นจักรพรรดินี ทรงอำนาจสูงสุด</span> ด้วยวัย 67 ปี ถือเป็นจักรพรรดินีองค์แรกและองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน <br />\n<strong>   </strong></p>\n<div>\n</div>\n<p>\n        แม้ว่าการเข่นฆ่ากวาดล้างศัตรูทางการเมืองขนานใหญ่ ส่งผลให้บรรยากาศบ้านเมืองขณะนั้นเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและความกลัว แต่โดยทั่วไปแล้ว <strong>สภาพเศรษฐกิจและสังคมยังมีความเจริญรุ่งเรือง</strong> บูเช็กเทียนได้ปรับปรุงระบบโครงสร้างการปกครองท้องถิ่น การสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการและทหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถมากมาย ซึ่งส่งผลให้ในรัชกาลถังเสวียนจงในเวลาต่อมา แวดล้อมด้วยเสนาอำมาตย์ที่ทรงภูมิความรู้และคุณวุฒิเป็นผู้ช่วยเหลือ<br />\n         เมื่อถึงปี ค.ศ. 705 ขณะที่พระนางบูเช็กเทียนวัย 82 ปี ล้มป่วยลงด้วยชราภาพ เหล่าเสนาบดีที่นำโดยจางเจี่ยนจือ  ก็ร่วมมือกันก่อการ โดยบีบให้บูเช็กเทียนสละราชย์ให้กับโอรสของพระองค์ ถังจงจงหลี่เสี่ยน ทั้งรื้อฟื้นราชวงศ์ถังกลับคืนมา ภายหลังเหตุการณ์ไม่นาน บูเช็กเทียนสิ้น  \n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\">แหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang\">http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang</a>  <a href=\"http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml\">http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml</a></span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\"></span>\n</p>\n<p><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"></span></span></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><div style=\"text-align: center\">\n<strong>\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n</div>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n</div>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n <a href=\"/node/75328\"><strong>ยุคราชวงศ์ฉิน</strong></a>   <a href=\"/node/75349\"><strong>ยุคราชวงศ์ฮั่น</strong></a>  <a href=\"/node/75426\"><strong>ยุคสามก๊ก</strong></a>  <a href=\"/node/75451\"><strong>ยุคราชวงศ์จิ้น</strong></a>  <a href=\"/node/75467\"><strong>ยุคราชวงศ์เหนือใต้</strong></a>  <a href=\"/node/75446\"><strong>ยุคราชวงศ์สุย</strong></a>  <a href=\"/node/75642\"><strong>ยุคราชวงศ์ถัง</strong></a> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76058\"><strong>5 ราชวงศ์ 10 แคว้น</strong></a>  <a href=\"/node/75649\"><strong>ยุคราชวงศ์ซ่ง</strong></a>  <a href=\"/node/76074\"><strong>ยุคราชวงศ์หยวน</strong></a>  <a href=\"/node/76079\"><strong>ยุคราชวงศ์หมิง</strong></a>  <a href=\"/node/76105\"><strong>ยุคราชวงศ์ชิง</strong></a>  \n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p></strong>\n</div>\n<p>\n <span style=\"color: #ff0000\"><strong>ยุคเสื่อมของราชวงศ์ถัง <br />\n</strong></span>        ระหว่างเกิด<strong>กบฏอันลู่ซัน</strong> สภาพเศรษฐกิจและสังคมในเขตเมืองที่กบฏอันลู่ซันเข้าปล้นสะดมได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง กองทัพถังถูกเรียกระดมกลับเข้าสู่ส่วนกลางเป็นจำนวนมาก ป้อมรักษาการณ์เขตชายแดนว่างเปล่า เป็นเหตุให้อาณาจักรรอบนอก อาทิ ถู่ฟานหรือทิเบตทางภาคตะวันตก และอาณาจักรน่านเจ้าทางทิศใต้ต่างแยกตัวเป็นอิสระ ทั้งยังรุกรานเข้ามาเป็นครั้งคราว ช่วงปลายวิกฤตในปี ค.ศ. 762 เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงในราชสำนักถังโดยขันทีหลี่ฝู่กั๋ว สังหารจางฮองเฮา ถังซู่จงสิ้น ขันทีหลี่ฝู่กั๋วจึงยกรัชทายาทหลี่อวี้ขึ้นครองราชย์ พระนามว่า<strong>ไต้จง <br />\n</strong>       ภายหลังกบฎอันลู่ซัน ภาพลักษณ์ความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของอาณาจักรสั่นคลอนครั้งใหญ่ บรรดาแม่ทัพรักษาชายแดนต่างสะสมกองกำลังของตนเอง แม้ว่าในนามแล้วยังรับฟังคำสั่งจากราชสำนัก แต่ไม่จัดเก็บภาษีเข้าสู่ส่วนกลาง ทั้งสืบทอดตำแหน่งแม่ทัพโดยผ่านทางสายเลือด ไม่ยอมรับการแต่งตั้งจากส่วนกลางอีก ขอบเขตอำนาจจากส่วนกลางหดแคบลง เหลือเพียงดินแดนแถบเสฉวน ส่านซีและซันซี สภาพบ้านเมืองเสื่อมทรุด ภายนอกเป็นสงครามแก่งแย่งของเหล่าขุนศึก ภายในยังมีการช่วงชิงในราชสำนัก\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #ff0000\">ยุคขันทีครองเมือง</span></strong> <br />\n         ต้นราชวงศ์ถัง ปริมาณขันทีมีไม่มากนัก สถานภาพทางสังคมยังต่ำต้อย ไม่มีสิทธิข้องเกี่ยวทางการทหาร แต่เมื่อถึงรัชสมัยถังเสวียนจง ปริมาณขันทีเพิ่มมากขึ้น โดยหัวหน้าขันที<strong>เกาลี่ซื่อ</strong>  ได้รับความไว้วางพระทัยอย่างสูง ช่วงปลายรัชกาลถังเสวียนจงละเลยราชกิจ หนังสือถวายรายงานทั้งหลาย ล้วนต้องผ่านเกาลี่ซื่อก่อน ทั้งมีอำนาจจัดการตัดสินชี้ขาดต่างพระเนตรพระกรรณ ขันทีผู้ใหญ่ยังเข้ารับหน้าที่สำคัญๆ อย่างการออกตรวจพล และเป็นราชทูต ตัวแทนพระองค์ฯลฯ เมื่อถึงรัชกาลถังซู่จง ขันทีหลี่ฝู่กั๋ว  ที่หนุนพระองค์ขึ้นครองบัลลังก์ ระหว่างลี้ภัยกบฏอันลู่ซันก็ยิ่งได้รับความไว้วางพระทัย จนสามารถกุมอำนาจสั่งการทหารองครักษ์ในวังหลวงทั้งหมด<br />\n   หลังจากรัชสมัยถังไต้จง  ( ค.ศ.762 – ค.ศ.779)<strong> ขันทีมีหน้าที่เป็นตัวแทนพระองค์ออกตรวจกำลังพล ประกาศราชโองการ ตรวจตราหนังสือกราบทูล ดูแลหน่วยข่าวกรองและสืบราชการลับ และองค์รักษ์วังหลวงทั้งหมด ทั้งสามารถแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าการทหารท้องถิ่น มีอิทธิพลล้นฟ้า อำนาจในราชสำนักจึงตกอยู่ในมือของเหล่าขันที </strong>กษัตริย์ราชวงศ์ถังในรัชกาลต่อมา บ้างสิ้นพระชนม์ด้วยมือขันที และบ้างขึ้นสู่ราชบัลลังก์ด้วยมือของขันที <br />\n      \n</p>\n<p>\n           ยุคขันทีครองเมืองนี้ ได้นำพาสังคมสู่ภัยพิบัติ เนื่องจากขันทีไม่ได้มีฐานอำนาจจากขุนนางอยู่แต่เดิม มือเท้าที่คอยทำงานให้ก็เป็นกลุ่มพ่อค้าและอันธพาลร้านถิ่น สภาพสังคมวุ่นวายสับสน ต่างแย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินและอำนาจส่วนตน ทั้งกษัตริย์ ขุนนางที่ไม่ยินยอมตกอยู่ภายใต้คำบงการของกลุ่มขันทีได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน ดังนั้น จึงมักเกิดเหตุการณ์ลุกฮือขึ้นต่อต้านเป็นระยะ <br />\n       ภายหลังกบฏอันลู่ซัน เศรษฐกิจสังคมเสียหายหนัก มีราษฎรสูญเสียทรัพย์สินและที่ดินทำกินเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการโกงกินของข้าราชการขุนนาง ทำให้ระบบการปกครองล้มเหลว ประชาชนไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ตามปกติสุข สุดท้ายต้องลุกฮือขึ้นก่อการ <br />\n       เริ่มจากปี ค.ศ. 875 กลุ่มพ่อค้าเกลือเถื่อนหวังเซียนจือ  ลุกฮือขึ้นก่อการ จากนั้นเป็นกบฏหวงเฉา  ลุกฮือขึ้นหนุนเสริม ภายหลังหวังเซียนจือเสียชีวิตในการต่อสู้ หวงเฉาจึงกลายเป็นผู้นำต่อมา โดยยึดได้ดินแดนทางตอนใต้เกือบทั้งหมด จากนั้นมุ่งตะวันออกอย่างรวดเร็ว กบฏหวงเฉาสยายปีกขึ้นเหนือ ยึดได้ฉางอัน สถาปนาแคว้นต้าฉี  ในปี ค.ศ. 880 บีบให้ถังซีจง  ( ค.ศ.873 – ค.ศ.887) หลบหนีไปยังแดนเสฉวน ภายหลัง แม้ว่ากบฏหวงเฉาถูกปราบราบคาบลง แต่ครั้งนี้ ราชสำนักได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่อาจฟื้นตัวได้อีก ได้แต่รอวันดับสูญอย่างช้าๆ<br />\n       ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปราบปรามกบฏหวงเฉาคนหนึ่งคือ <strong>จูเฉวียนจง</strong>  แต่เดิมชื่อจูเวิน  เคยเป็นขุนพลใต้ร่มธงของหวงเฉา แต่ภายหลังหันมาสวามิภักดิ์กับราชวงศ์ถัง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าหน่วยปราบปรามในแดนเหอตง และได้รับพระราชทานนามว่าเฉวียนจง (แปลว่าซื่อสัตย์จงรักภักดี) ปีถัดมาได้เลื่อนเป็นแม่ทัพรักษาดินแดนหน่วยเซวียนอู่ พอถึงปี ค.ศ. 884 จูเฉวียนจงร่วมมือกับหลี่เคอย่ง  ชนเผ่าซาถัว เข้าปราบกองกำลังของหวงเฉา ภายหลังเหตุการณ์ กองกำลังที่นำโดย จูเฉวียนจง หลี่เคอย่อและหลี่เม่าเจิน  ถือเป็นกองกำลังที่ทรงอำนาจที่สุดในขณะนั้น <br />\n  \n</p>\n<p>\n      กบฏหวงเฉาจบสิ้นไปแล้ว แต่การแก่งแย่งในราชสำนักยังไม่จบสิ้น ทั้งที่ความจริงอำนาจราชสำนักเหลือเพียงแต่เปลือก หลังจาก<strong>ถังเจาจง</strong>  ( ค.ศ.888 – ค.ศ.904) ขึ้นครองราชย์ ก็ร่วมมือกับกลุ่มเสนาบดีชุยยิ่น  เพื่อกำจัดอำนาจขันทีในวัง จึงนัดหมายกับจูเฉวียนจงให้เป็นกำลังสนับสนุนจากภายนอก ปี ค.ศ. 903 หลังจากจูเฉวียนจงโจมตีกองกำลังของหลี่เม่าเจินที่ให้การสนับสนุนฝ่ายขันทีแตกพ่ายไป ก็นำกำลังทหารบุกเข้าฉางอัน กวาดล้างเข่นฆ่าขันทีในวังครั้งใหญ่ เป็นอันสิ้นสุดยุคขันทีครองเมือง<br />\n        จูเฉวียนจงได้รับการปูนบำเหน็จความดีความชอบจากการกวาดล้างขันที ให้เป็น<strong>เหลียงหวัง</strong>  กุมอำนาจบริหารแผ่นดินอย่างเบ็ดเสร็จแต่ผู้เดียว แต่แล้วในปี ค.ศ. 904 จูเฉวียนจงสังหารเสนาบดีชุยยิ่นและถังเจาจง แต่งตั้งถังอัยตี้  วัย 13 ขวบขึ้นเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิดแทน <br />\n   จากนั้นในปี ค.ศ. 907 จูเฉวียนจงปลดถังอัยตี้ ตั้งตนเป็นใหญ่ สถาปนาแคว้นเหลียง  ขึ้น โดยมีนครหลวงที่เมือง <strong>เปี้ยนโจว</strong> (ปัจจุบันคือเมืองไคฟง) ราชวงศ์ถังจึงถึงกาลอวสาน\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\">แหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang\">http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang</a>  <a href=\"http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml\">http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml</a></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p>\n', created = 1720201873, expire = 1720288273, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8bdd78c6976a8caa1740d197625ec81b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:34fe216a8383275f38412d3bc891c8b6' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n<strong>\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n</div>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n</div>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n <a href=\"/node/75328\"><strong>ยุคราชวงศ์ฉิน</strong></a>   <a href=\"/node/75349\"><strong>ยุคราชวงศ์ฮั่น</strong></a>  <a href=\"/node/75426\"><strong>ยุคสามก๊ก</strong></a>  <a href=\"/node/75451\"><strong>ยุคราชวงศ์จิ้น</strong></a>  <a href=\"/node/75467\"><strong>ยุคราชวงศ์เหนือใต้</strong></a>  <a href=\"/node/75446\"><strong>ยุคราชวงศ์สุย</strong></a>  <a href=\"/node/75642\"><strong>ยุคราชวงศ์ถัง</strong></a> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/76058\"><strong>5 ราชวงศ์ 10 แคว้น</strong></a>  <a href=\"/node/75649\"><strong>ยุคราชวงศ์ซ่ง</strong></a>  <a href=\"/node/76074\"><strong>ยุคราชวงศ์หยวน</strong></a>  <a href=\"/node/76079\"><strong>ยุคราชวงศ์หมิง</strong></a>  <a href=\"/node/76105\"><strong>ยุคราชวงศ์ชิง</strong></a>  \n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p></strong>\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #ff0000\"><strong><span style=\"color: #ff0000\">ยุคราชวงศ์ถัง 唐朝 (A.D. 618-907)</span></strong></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #ff0000\"><strong><span style=\"color: #ff0000\"></span></strong><br />\n</span>       นักประวัติศาสตร์ถือว่ายุคของราชวงศ์ถังเป็นยุคแห่งความรุ่นเรืองสูงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เหนือว่าราชวงศ์ฮั่นซึ่งนับว่ารุ่งเรืองมากแล้ว อาณาเขตใหญ่กว่าสมัยฮั่น </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\">       จากการติดต่อสัมพันธ์กับประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง ความเจริญรุ่งเรืองและการประดิษฐ์บานสะพรั่ง มี<span style=\"color: #ff0000\">การผลิตแม่พิมพ์</span> ทำให้หนังสือสามารถเข้าถึงชาวบ้านมากขึ้น เป็นยุคทองด้านวรรณกรรม พุทธศาสนาเผยแพร่สู่ระดับรากหญ้าอย่างแพร่หลาย เมื่อมีการอัญเชิญพระไตรปิฎกจาก<br />\nอินเดียมาสู่ประเทศจีน ลัทธิข่งจื่อได้รับการฟื้นฟู ระบบการสอบเข้ารับราชการได้ปรับปรุงจนสมบูรณ์เพื่อคัดเลือกบุคคลที่ฉลาดที่สุด และสิ่งที่<br />\nสำคัญที่สุดคือ การนำระบบราชการที่ไม่มีอำนาจการปกครองพื้นที่มาใช้ระบบราชการนี้ถูกนำมาใช้จนถึงการสิ้นสุดของราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1911<br />\nข้าราชการนี้ เป็นการทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างชาวบ้านระดับรากหญ้ากับรัฐบาล  </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"color: #000000\">แหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang\">http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang</a>  <a href=\"http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml\">http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml</a></span>\n</p>\n<p><span style=\"color: #000000\"></span></p>\n', created = 1720201873, expire = 1720288273, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:34fe216a8383275f38412d3bc891c8b6' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ยุคราชวงศ์ถัง

รูปภาพของ sss27520

ยุคราชวงศ์ถัง 唐朝 (A.D. 618-907)


       นักประวัติศาสตร์ถือว่ายุคของราชวงศ์ถังเป็นยุคแห่งความรุ่นเรืองสูงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เหนือว่าราชวงศ์ฮั่นซึ่งนับว่ารุ่งเรืองมากแล้ว อาณาเขตใหญ่กว่าสมัยฮั่น

       จากการติดต่อสัมพันธ์กับประเทศอินเดียและตะวันออกกลาง ความเจริญรุ่งเรืองและการประดิษฐ์บานสะพรั่ง มีการผลิตแม่พิมพ์ ทำให้หนังสือสามารถเข้าถึงชาวบ้านมากขึ้น เป็นยุคทองด้านวรรณกรรม พุทธศาสนาเผยแพร่สู่ระดับรากหญ้าอย่างแพร่หลาย เมื่อมีการอัญเชิญพระไตรปิฎกจาก
อินเดียมาสู่ประเทศจีน ลัทธิข่งจื่อได้รับการฟื้นฟู ระบบการสอบเข้ารับราชการได้ปรับปรุงจนสมบูรณ์เพื่อคัดเลือกบุคคลที่ฉลาดที่สุด และสิ่งที่
สำคัญที่สุดคือ การนำระบบราชการที่ไม่มีอำนาจการปกครองพื้นที่มาใช้ระบบราชการนี้ถูกนำมาใช้จนถึงการสิ้นสุดของราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1911
ข้าราชการนี้ เป็นการทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างชาวบ้านระดับรากหญ้ากับรัฐบาล 

 

 

แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Tang  http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-17.shtml

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 572 คน กำลังออนไลน์