ยุคราชวงศ์ฮั่น

รูปภาพของ sss27520

ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก [ค.ศ. 24-220]


  จักรพรรดิหลิวซิ่ว
       ตอนปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตก หวังหม่าง  ถอดถอนหยูจื่ออิง  ยุวกษัตริย์องค์สุดท้ายในราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เพื่อตั้งตนเป็นใหญ่ โดยจัดระเบียบการปกครองใหม่และก่อตั้งราชวงศ์ซินขึ้น แต่ความล้มเหลวของระเบียบใหม่ได้สร้างกระแสต่อต้านจากประชาชน เกิดเป็นกบฏชาวนาในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ กองกำลังคิ้วแดง  ที่นำโดยฝานฉง  จากแถบซานตง และกองกำลังลี่ว์หลิน  ซึ่งนำโดยหลิวซิ่ว  จากหูเป่ย เป็นต้นโดยในบรรดากองกำลังเหล่านี้ ถือว่ากองทัพของหลิวซิ่วมีกำลังกล้าแข็งที่สุด ต่อมาหลิวซิ่วได้ทำการประหารหวังหม่าง เมื่อถึงกลางปีคริสตศักราช 25 หลิวซิ่วก็ตั้งตัวขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองดินแดนเหอเป่ย ภายใต้สมญานามว่า กวงอู่ตี้  และใช้ชื่อราชวงศ์ฮั่นตามเดิม โดยทางประวัติศาสตร์ได้แบ่งยุคนี้เป็นฮั่นตะวันออก เนื่องจากนครหลวงตั้งอยู่ที่เมืองลั่วหยาง
      ภารกิจแรกของพระเจ้ากวงอู่ตี้คือการปราบกองกำลังคิ้วแดงที่กำลังปิดล้อมเมืองฉางอัน เมื่อถึงปีรัชสมัยที่ 12 ก็สามารถปราบก๊กของกงซุนซู่ในเสฉวนลงอย่างราบคาบ รวมประเทศจีนกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ในสมัยของจักรพรรดิกวงอู่ตี้ พระองค์ทรงหวงใยในชีวิตของประชาชน ทรงมีพระดำรัสหลายครั้งให้ประกาศปลดปล่อยแรงงานทาสชายหญิงให้เป็นอิสระ ซึ่งถือเป็นการปลดปล่อยแรงงานการผลิตครั้งใหญ่ และออกกฎหมายห้ามทรมานทาสด้วย ทรงดำเนินนโยบายลดภาษี อุปการะคนยากจน นอกจากนี้ ยังซ่อมสร้างการชลประทานทั่วประเทศ รื้อฟื้นภาคการเกษตรให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทรงโปรดให้มีการลดจำนวนอำเภอลงกว่า 400 อำเภอ มีการปฏิรูปราชการให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น หลังจากที่พระเจ้ากวงอู่ตี้สามารถรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปรึกแผ่นได้แล้ว ก็ไม่มีการทำสงครามกับประเทศใดอีก พระองค์ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ให้ความสำคัญกับการศึกษา ส่งเสริมการก่อตั้งโรงเรียน ทรงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวัฒนธรรมของฮั่นตะวันออก
      เมื่อถึงรัชสมัยหมิงตี้  ก็ยกเลิกการผูกขาดการค้าเกลือและเหล็กกล้า อีกทั้งธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจหลอมและหล่อทองแดง ธุรกิจผ้าไหมเป็นต้น ทำให้บ้านเมืองและการค้าขายในยุคฮั่นตะวันออกเจริญรุ่งเรืองขึ้น เมืองลั่วหยางกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าของประเทศ ส่วนศูนย์กลางทางภาคใต้ ได้แก่ เมืองหยางโจว จิงโจว อี้โจว ก็มีความเจริญในด้านธุรกิจหัตถกรรม จำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

      ต่อมาในรัชสมัยจางตี้  และเหอตี้  ถึงกับมีการเดินทางออกไปติดต่อเชื่อมสัมพันธไมตรียังดินแดนฝั่งตะวันตก เพื่อสานต่อแนวการค้าบนเส้นทางสายไหม ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าที่ดินทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างก็อยู่ในช่วงสั่งสมกำลังบารมี ภายหลังรัชสมัยเหอตี้ บรรดาเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางชั้นสูงต่างก็มีอำนาจที่เข้มแข็งมากขึ้น มักปรากฏว่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางผลัดกันหรือร่วมมือกันเข้ากุมอำนาจในระหว่างการผลัดแผ่นดินอยู่บ่อยครั้ง ในสี่รัชสมัยต่อมาอันได้แก่ ซุ่นตี้ ช่งตี้ จื้อตี้และเหิงตี้ กษัตริย์ทั้ง 4 มีเชื้อพระวงศ์เหลียงจี้  คอยเป็นที่ปรึกษาว่าราชการให้ถึง 20 ปี สั่งสมเงินทองทรัพย์สินกว่า 3 , 000 ล้าน 

 

 

แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Imperial/imperial.html#Han http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-9.shtml http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-10.shtml http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=45615

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 441 คน กำลังออนไลน์