ยุคราชวงศ์ฮั่น
![รูปภาพของ sss27520 รูปภาพของ sss27520](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-31712.jpg)
ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก [ค.ศ. 24-220]
จักรพรรดิหลิวซิ่ว
ตอนปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตก หวังหม่าง ถอดถอนหยูจื่ออิง ยุวกษัตริย์องค์สุดท้ายในราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เพื่อตั้งตนเป็นใหญ่ โดยจัดระเบียบการปกครองใหม่และก่อตั้งราชวงศ์ซินขึ้น แต่ความล้มเหลวของระเบียบใหม่ได้สร้างกระแสต่อต้านจากประชาชน เกิดเป็นกบฏชาวนาในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ กองกำลังคิ้วแดง ที่นำโดยฝานฉง จากแถบซานตง และกองกำลังลี่ว์หลิน ซึ่งนำโดยหลิวซิ่ว จากหูเป่ย เป็นต้นโดยในบรรดากองกำลังเหล่านี้ ถือว่ากองทัพของหลิวซิ่วมีกำลังกล้าแข็งที่สุด ต่อมาหลิวซิ่วได้ทำการประหารหวังหม่าง เมื่อถึงกลางปีคริสตศักราช 25 หลิวซิ่วก็ตั้งตัวขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองดินแดนเหอเป่ย ภายใต้สมญานามว่า กวงอู่ตี้ และใช้ชื่อราชวงศ์ฮั่นตามเดิม โดยทางประวัติศาสตร์ได้แบ่งยุคนี้เป็นฮั่นตะวันออก เนื่องจากนครหลวงตั้งอยู่ที่เมืองลั่วหยาง
ภารกิจแรกของพระเจ้ากวงอู่ตี้คือการปราบกองกำลังคิ้วแดงที่กำลังปิดล้อมเมืองฉางอัน เมื่อถึงปีรัชสมัยที่ 12 ก็สามารถปราบก๊กของกงซุนซู่ในเสฉวนลงอย่างราบคาบ รวมประเทศจีนกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ในสมัยของจักรพรรดิกวงอู่ตี้ พระองค์ทรงหวงใยในชีวิตของประชาชน ทรงมีพระดำรัสหลายครั้งให้ประกาศปลดปล่อยแรงงานทาสชายหญิงให้เป็นอิสระ ซึ่งถือเป็นการปลดปล่อยแรงงานการผลิตครั้งใหญ่ และออกกฎหมายห้ามทรมานทาสด้วย ทรงดำเนินนโยบายลดภาษี อุปการะคนยากจน นอกจากนี้ ยังซ่อมสร้างการชลประทานทั่วประเทศ รื้อฟื้นภาคการเกษตรให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทรงโปรดให้มีการลดจำนวนอำเภอลงกว่า 400 อำเภอ มีการปฏิรูปราชการให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น หลังจากที่พระเจ้ากวงอู่ตี้สามารถรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปรึกแผ่นได้แล้ว ก็ไม่มีการทำสงครามกับประเทศใดอีก พระองค์ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ให้ความสำคัญกับการศึกษา ส่งเสริมการก่อตั้งโรงเรียน ทรงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวัฒนธรรมของฮั่นตะวันออก
เมื่อถึงรัชสมัยหมิงตี้ ก็ยกเลิกการผูกขาดการค้าเกลือและเหล็กกล้า อีกทั้งธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจหลอมและหล่อทองแดง ธุรกิจผ้าไหมเป็นต้น ทำให้บ้านเมืองและการค้าขายในยุคฮั่นตะวันออกเจริญรุ่งเรืองขึ้น เมืองลั่วหยางกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าของประเทศ ส่วนศูนย์กลางทางภาคใต้ ได้แก่ เมืองหยางโจว จิงโจว อี้โจว ก็มีความเจริญในด้านธุรกิจหัตถกรรม จำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
![](/files/u31712/silk-road1.jpg)
ต่อมาในรัชสมัยจางตี้ และเหอตี้ ถึงกับมีการเดินทางออกไปติดต่อเชื่อมสัมพันธไมตรียังดินแดนฝั่งตะวันตก เพื่อสานต่อแนวการค้าบนเส้นทางสายไหม ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าที่ดินทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างก็อยู่ในช่วงสั่งสมกำลังบารมี ภายหลังรัชสมัยเหอตี้ บรรดาเชื้อพระวงศ์และเหล่าขุนนางชั้นสูงต่างก็มีอำนาจที่เข้มแข็งมากขึ้น มักปรากฏว่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางผลัดกันหรือร่วมมือกันเข้ากุมอำนาจในระหว่างการผลัดแผ่นดินอยู่บ่อยครั้ง ในสี่รัชสมัยต่อมาอันได้แก่ ซุ่นตี้ ช่งตี้ จื้อตี้และเหิงตี้ กษัตริย์ทั้ง 4 มีเชื้อพระวงศ์เหลียงจี้ คอยเป็นที่ปรึกษาว่าราชการให้ถึง 20 ปี สั่งสมเงินทองทรัพย์สินกว่า 3 , 000 ล้าน
แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Imperial/imperial.html#Han http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-9.shtml http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-10.shtml http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=45615