การใช้กล้องถ่ายรูป 1
1. การบรรจุฟิล์ม
เพื่อให้กล้องพร้อมที่จะใช้งาน ผู้ใช้จะต้องศึกษาจากคู่มือของกล้องอย่างละเอียด
เพราะกล้องแต่ละชนิดแต่ละรุ่น จะมีกลไกในการทำงานไม่เหมือนกัน แต่กล้อง 35 มม.
สะท้อนเลนส์เดี่ยวโดยทั่วไปแล้วจะไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก โดยมีขั้นตอนการบรรจุฟิล์มและการตรวจสอบเป็นขั้นตอน ดังนี้
1. เปิดฝาหลังกล้องและดึงก้านกรอฟิล์มกลับขึ้นจนสุด วางกลักฟิล์มให้เข้ากับช่องใส่กลักฟิล์ม
ระวัง !! อย่าให้นิ้วหรือหางฟิล์มกระทบกับม่านชัตเตอร์เป็นอันขาด
2. ดึงหางฟิล์มออกจากกลัก และสอดปลายของหางฟิล์มเข้ากับแกนหมุนฟิล์มให้แน่น
ให้รูหนามของกล้องเข้ากับรูหนามเตยของฟิล์มให้สนิท
3. ปิดฝาหลังกล้องทดลองขึ้นฟิล์มและกดชัตเตอร์ประมาณ 2 ภาพ (เพราะเป็นส่วนหัวฟิล์มที่โดนแสงแล้ว)
ตรวจสอบความเรียบร้อยของฟิล์ม โดยหมุนก้านกรอฟิล์มกลับให้ตึง เมื่อขึ้นฟิล์มก้านกรอฟิล์มกลับจะหมุนตาม
แสดงว่ากล้องถ่ายภาพพร้อมที่จะใช้งานได้แล้ว
หมายเหตุ : กล้องถ่ายภาพบางรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องที่ถ่ายภาพระบบอัตโนมัติจะมีกลไกในการบรรจุฟิล์มที่สะดวกขึ้น
ให้ศึกษาจากคู่มือการใช้กล้องถ่ายภาพชนิดนั้นๆ
2. การตั้งค่าความไวแสงของฟิล์ม (ISO)
ฟิล์มที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จะมีค่าความไวแสงที่แตกต่างกันตามความต้องการของผู้ใช้
ดังนั้น ก่อนการถ่ายภาพควรต้องตรวจสอบว่าฟิล์มที่ใช้มีความไวแสงเท่าใด โดยดูได้จากกล่องของฟิล์มและที่ม้วนของฟิล์ม
หากกำหนดค่าความไวแสงของฟิล์มผิดพลาดจะทำการวัดแสงผิดพลาดด้วย ทำให้ภาพที่ได้อาจจะมืดหรือสว่างเกินไปก็เป็นได้
ในกล้องถ่ายภาพ 35 มม. สะท้อนเลนส์เดี่ยวโดยทั่วไป จะมีปุ่มปรับค่าความไวแสงไว้ที่ด้านบนของตัวกล้อง
ซึ่งมีตัวเลขแสดงค่าความไวแสงขนาดต่างๆ ไว้ ผู้ใช้ต้องปรับให้ค่าความไวแสงให้ถูกต้อง
ซึ่งกล้องแต่ละรุ่นจะมีวิธีการไม่เหมือนกันซึ่งต้องดูรายละเอียดจากคู่มือการใช้กล้องชนิดนั้นๆ
ในกล้องถ่ายภาพบางรุ่น จะมีระบบปรับค่าความไวแสงเองโดยอัตโนมัติโดยตัวกล้องจะมีปุ่มสำหรับ
อ่านค่าความไวแสงจากรหัสที่กลักฟิล์ม ดังนั้นเวลาจับกลักฟิล์มต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดของมือ
เพราะอาจจะทำให้รหัสของฟิล์มมีรอยหรือมีคราบสกปรกจะทำให้การวัดแสงผิดพลาดไปด้วย
การตั้งค่าความไวแสงของฟิล์มที่ตัวกล้อง ให้ตรงกับค่าความไวแสงของฟิล์มเพื่อป้องกันไม่ให้วัดแสงผิดพลาด
3. วิธีการจับกล้องถ่ายภาพ
วิธีการจับกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายภาพ ต้องจับในท่าที่ถนัดและมั่งคงที่สุด
เพื่อป้องกันการสั่นไหวของกล้องถ่ายภาพขณะบันทึกภาพ ด้วยการจับด้วยสองมือให้มั่นคง
นิ้วชี้ของมือขวาจะใช้กดชัตเตอร์และปรับความเร็วชัตเตอร์ นิ้วหัวแม่มือจะใช้ในการเลื่อนฟิล์ม
ใช้อุ้งมือและนิ้วที่เหลือจับกล้องให้มั่น ส่วนมือข้างซ้ายจะวางอยู่ที่ด้านล่างของกล้อง
โดยใช้อุ้งมือเป็นตัวรองรับด้านล่างของกล้อง ใช้นิ้วหัวแม่มือสำหรับการปรับระยะชัดและปรับขนาดรูรับแสง
ข้อศอกทั้งสองข้างชิดลำตัวเพื่อให้กล้องนิ่งที่สุดขณะบันทึกภาพ
นอกจากนี้ยังมีท่าจับกล้องในลักษณะต่างๆ ตามสถานการณ์การถ่ายภาพ เช่น ท่ายืน ท่านั่ง
ท่านอนและท่าอื่นๆ เพื่อให้ได้ภาพในมุมที่สวยและคมชัดที่สุด
1. ท่าถ่ายภาพท่าปกติ ใช้มือซ้ายประคองกล้องให้นิ่ง พร้อมปรับระยะชัดและปรับรูรับแสง
มือขวาจับตัวกล้องให้แน่น พร้อมทั้งลั่นชัตเตอร์ ข้อศอกชิดลำตัว ทำให้การจับถือกล้องมั่นคงยิ่งขึ้น
2. ท่าถ่ายภาพท่าปกติในแนวตั้ง ข้อศอกชิดลำตัว ทำให้การจับถือกล้องมั่นคงยิ่งขึ้น
3. ท่าถ่ายภาพในท่านั่ง ข้อศอกซ้ายตั้งบนหัวเข่าช่วยให้กล้องนิ่งยิ่งขึ้น
4. ท่าถ่ายภาพท่าในท่านอน ข้อศอกทั้งสองข้างตั้งพื้น
ใช้ในกรณีถ่ายภาพที่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำโดยไม่มีขาตั้งกล้อง หรือถ่ายภาพวัตถุในที่ต่ำ
5. ท่าถ่ายภาพท่าในท่านอน วางกล้องกับพื้น ใช้ในกรณีที่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำมาก
เพื่อให้กล้องนิ่งที่สุด (ถ้ามีขาตั้งกล้องให้ใช้แทน) หรือตั้งเวลาในการถ่ายภาพตัวเอง
6. ท่าถ่ายภาพท่าเหนือศีรษะ ใช้สำหรับถ่ายภาพผ่านสิ่งกีดขวาง แต่ถ่ายภาพในลักษณะนี้
ผู้ถ่ายต้องมั่นใจว่าจะสามารถถ่ายภาพได้ไม่หลุดกรอบ หรือกะระยะโฟกัสได้แม่นยำ