กล้วย

Home ผู้จัดทำ หน้าที่1 หน้าที่2 หน้าที่3 หน้าที่4 หน้าที่5
หน้าที่6 หน้าที่7 หน้าที่8 หน้าที่9 หน้าที่10

ชื่อท้องถิ่น กล้วยมณีอ่อง (ภาคเหนือ) กล้วยทะนีอ่อง (อีสาน) กล้วยอ่อง , มะลิอ่อง กล้วยใต้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa ABB group (triploid) cv. 'Namwaa' วงศ์ MUSACEAE ชื่อสามัญ Banana ลักษณะ กล้วยเป็นพืชล้มลุกมีลำต้นอยู่ใต้ดิน เรียกว่า เหง้า ส่วนลำต้นบนดินเกิดจากกาบใบมาหุ้มซ้อนกันเป็นลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่และยาว ผิวใบด้านบนเรียบเป็นมัน ท้องใบมีสีนวล ดอกออกเป็นช่อเรียกว่า หัวปลี แต่ละช่อย่อยประกอบด้วยใบประดับขนาดใหญ่มีมีสีม่วงแดงหุ้มอยู่ ผลรวมกันเป็นเครือแต่ละเครือจะมีหวีหลายๆ อันมารวมกัน การขยายพันธุ์ หน่อ โดยใช้หน่อปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ส่วนที่นำมาเป็นยา ผล ปลี เหง้า ยาง สารเคมีที่สำคัญ ประกอบด้วย สารแทนนิน และสารพวกโมโนเอมีน เช่น สารซีโรโทนิน สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ ใช้รักษาอาการท้องเดิน : โดยใช้กล้วยดิบทั้งเปลือก ฝานบาง ๆ ผึ่งลมให้แห้ง ใช้รับประทาน ครั้งละ 1/2 - 1 ผล ยาระบาย: ผลกล้วยสุกงอมรับประทานก่อนนอนครั้งละ 2 ผล ติดต่อกัน หลายๆ วัน จะช่วยระบาย ยาแก้ท้องเสีย: ผลกล้วยห่าม รับประทานครั้งละ 2 ผล เมื่อเกิดอาการท้องเสียเล็กน้อย หากถึงระดับท้องร่วงที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ให้ใช้กล้วยดิบ 1 ผล หั่นเป็นแว่น ตากแห้ง บดเป็นผง ชงน้ำร้อนดื่ม ห้ามเลือด: ใช้ยางกล้วยจากก้านใบ หยอดลงใส่แผลห้ามเลือดได้ ขับปัสสาวะ: เหง้าหรือลำต้นใต้ดินของต้นกล้วย ใช้ 1 กำมือล้างน้ำให้ สะอาด นำมาต้มกับน้ำให้เดือด 5 -10 นาที ดื่มแต่น้ำวันละ 4 ครั้ง โรคกระเพาะ: นำผลกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ ตากแดดให้แห้งบดเป็นผงชงดื่มกับน้ำต้มสุก รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงและก่อนนอน บำรุงน้ำนม: ใช้หัวปลี แกงเลียง รับประทานหลังคลอด ส้นเท้าแตก: ใช้เปลือกกล้วยสุก เมื่อรับประทานเนื้อแล้วใช้ส่วนที่ติดกับเนื้อ ทาถูบริเวณส้นเท้า วันละ 4 - 5 ครั้ง ทำติดต่อกัน 4 - 5 วัน รอยแตกจะหายไป ข้อควรรู้

จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2549

thaigoodview.com Version 13.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail: webmaster@thaigoodview.com