ต้นไม้มัจฉา

ในหมู่บ้านชาวประมงชายทะเล มีชาวประมงกับภรรยาคู่หนึ่ง
แม้ชาวประมงจะยากจนแต่เขาก็พอใจกับชีวิตที่สงบสุข ที่ดำเนินไป
เป็นกิจวัตรประจำวัน แต่ทว่าภรรยาของเขามิได้พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่
วันทั้งวันเธอจะดุด่าบ่นว่า เหน็บแนมประชดประเทียดฝ่ายสามี
อยู่เป็นประจำ



ตกเย็นทุกวัน ชาวประมงจะพาเรือลำน้อยออกจากฝั่ง
ไปหาปลา จะย้อนกลับบ้านอีกครั้งก็ต่อเมื่อรุ่งสางของวันใหม่

เมื่อใดที่จับปลาได้มากมาย เขาจะนำปลาไปขายที่ตลาด
แต่บ่อยครั้งที่จับปลาไม่ได้เลย ชาวประมงก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า
มีครั้งหนึ่งที่ชาวประมงจับปลาไม่ได้เลยถึง 4 คืนติดต่อกัน
เมื่อเขากลับมาบ้าน ก็จะถูกภรรยาดุด่ามากขึ้นกว่าเดิม



ในคืนที่ห้า ชาวประมงออกเรือหาปลาอีกครั้ง เขาหว่านแห
ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อใดที่ลากแหขึ้นมา ก็ไม่มีปลาแม้สักตัว
พอรุ่งสาง ตะวันเรื่อขอบฟ้า เขาหว่านแหออกไปเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อลากแหขึ้นมา มีปลาตัวโตดิ้นขลุกขลักอยู่ในแห เขาดีใจมาก

ในทันใดนั้น ชาวประมงก็สังเกตเห็นว่า ปลาตัวนั้นร้องไห้
สายตาเศร้าสร้อยเพ่งมองประสานตากับเขา แววตาวิงวอนขอร้อง
เหมือนกับจะบอกว่าให้ปล่อยมันกลับลงทะเลไป



ชาวประมงเกิดความสงสาร ตัดสินใจปล่อยปลากลับลงทะเล
ปลาแสดงท่าทางดีใจ ว่ายระริกระรี้วนรอบลำเรือ แต่ก่อนที่ปลา
จะว่ายจากไป ปลาได้พ่นกรวดกลมเกลี้ยงขึ้นมาบนเรือกรวดก้อนนั้น
ก็เหมือนก้อนอื่นๆชาวประมงคิดในใจ แต่เขาก็เก็บก้อนกรวดเข้าไว้ในกระเป๋า



ชาวประมงรู้สึกเศร้าซึมขณะแจวเรือมุ่งหน้ากลับบ้าน
ภรรยาของเขาคงจะแค้นเคืองขุ่นใจสุดขีด ถ้ารู้ว่าเขาปล่อยปลาตัวเดียว
ที่จับได้ลงทะเลไป เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟัง
เมื่อถึงฝั่งก่อนเข้าบ้านเขาก็โยนก้อนกรวดในกระเป๋าทิ้งไป
เขาไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้ว กรวดก้อนนี้คือ เมล็ดพันธุ์วิเศษ

ภรรยาของเขาหัวเสียเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าสามีกลับบ้านมือเปล่า
ในบ้านไม่มีอาหารเหลืออีกแล้ว วันนั้นสองสามีภรรยาต้องอดข้าวทั้งวัน



พอตกเย็น ชาวประมงออกเรือไปหาปลาอีกครั้ง รุ่งสาง
ก็กลับมามือเปล่า เขารู้สึกเสียดายที่เมื่อวานได้ปล่อยปลาตัวโตไป
แต่เมื่อชาวประมงเดินกลับมาถึงกระท่อม ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็น
ต้นไม้ใหญ่รกครื้มหน้ากระท่อม และยิ่งประหลาดใจเป็นล้นพ้น
เมื่อต้นไม้นั้นผลิดอกออกผลเป็นปลาพวงโตห้อยระย้า



ชาวประมงสุดแสนจะดีใจ ร้องตะโกนเรียกภรรยา
ทั้งสองช่วยกันปลิดปลาลงจากต้นไม้ นำไปขายในตลาด

ต้นไม้มัจฉาผลิดอกออกปลามากมาย จนชาวประมงกับภรรยา
ร่ำรวยเงินทองมากมาย ใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย



อยู่มาไม่นาน ฝ่ายภรรยาก็เริ่มอวดร่ำอวดรวยให้เครือญาติได้เห็น
เธอเชื้อเชิญเครือญาติมางานเลี้ยงที่กระท่อม งานเลี้ยงฉลองดำเนินไป
ถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม ชาวประมงผู้น่าสงสารต้องรับหน้าที่ทำอาหาร
และปัดกวาดทำงานบ้านทุกชนิด



ในคืนวันนั้น ชาวประมงตัดสินใจได้ว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
เขาจัดการขุดต้นไม้มัจฉานำไปวางลงเรือ แจวเรือไปยังเกาะร้าง
เพื่อปลูกต้นไม้มัจฉาไว้ที่นั่น เมื่อภรรยาตื่นเช้าขึ้นมา แล้วพบว่าต้นไม้วิเศษ
หายไปแล้ว เธอแค้นเคืองอย่างหนัก ทั้งดุด่าก่นประณาม ชาวประมงไขหู
ไม่ยอมรับฟังเสียงใดให้เข้าหูแม้แต่คำเดียว



หลังจากนั้น ชาวประมงก็ออกเรือไปหาปลาเป็นประจำ
เมื่อใดที่หว่านแหไม่ได้ปลา ก็จะแจวเรือไปยังเกาะร้าง เพื่อเก็บปลา
จากต้นไม้มัจฉา เมื่อหาปลากลับมาได้ทุกวันภรรยาก็ไม่ดุด่าเขาอีก
ชาวประมงมีชีวิตสุขสบาย ไม่รู้จักความสับสนไปชั่วชีวิต





[HOME][รายชื่อคณะผู้จัดทำ]
[ความลับของหมาป่า] [ราพันเซล] [เด็กชายกับต้นแอ๊บเปิ้ล] [นางฟ้าของผม] [เจ้าบ่าวอสูร]
[ลูกหมูสามตัว] [ลูกเป็ดขี้เหร่] [ก้าบ..ก้าบ.. ] [เจ้าหญิงทั้งห้า] [ทำไม?]
[เจ้าสาวชาวป่า] [ต้นไม้เป็นพยาน] [วาลิแดด พ่อเฒ่าใจงาม] [เจ้าทึ่ม กับ ยักษ์ใหญ่] [โอ่งวิเศษ]
[นิทานแม่มด] [เมืองอึกทึก] [ละโมบห้าแต้ม] [ต้นไม้มัจฉา] [ค้างคาวกับปลาโลมา]
[นกฮูกกับช้าง] [หมาป่าหน้าโง่] [หมาป่ากับหมาจิ้งจอก] [หัวผักกาดยักษ์] [ใครโง่กว่ากัน]



กลับไปหน้าแรก
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550

thaigoodview.com Version 13.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail:
webmaster@thaigoodview.com
Copyright(c) 2006 www.thaigoodview.com. All rights reserved.