มหากาพย์อีเลียดและโอเดสซี
มหากาพทย์ของกรีกทั้ง 2 เรื่องนี้ทรงคุณค่าทางวรรณคดทุกประการทั้งความประณีตในการวางโครงเรื่อง ความไพเราะของบทกวีนิพนธ์ จินตนาการอันสูงส่ง ความสมจริงของตัวละคร และอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาอย่างมีศิลปะ อิทธิพลของอีเลียด และ โอเดสเซ ที่มีต่อนักประพันธ์ในสมัยต่อมามีมากเกินกว่าจะพรรณนาในระยะเวลาประมาณ 300 ปี ต่อจามสมัยโฮเมอร์นั้น ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมกรีกมีมากอย่างเห็นได้ชัด สังคมชนบทได้กลายเป็นสังคมเมืองซึ่งมีความหมายซับซ้อนมากขึ้นทุกที อาณานิคมและความเติบโตทางการค้าทำให้เกิดประโยชน์ใหม่ๆ และวิถีที่ผิดไปจากเดิม ชาวกรีกเริ่มเห็นตระหนักในอำนาจ ความสามรถและความสำคัญของตน เริ่มเห็นคุณค่าแห่งปัจเจกบุคคลมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและทางความคิดเช่นนี้ก่อให้เกิดรูปแบบวรรณคดีใหม่ๆขึ้น เป็นวรรณคดีที่แสดงลักษณะส่วนตนแสดงความรู้สึกส่วนตนมากขึ้น ลักษณะเช่นนี้เริ่มเห็นได้ชัดในบทประพันธ์ที่เป้นบทไว้อาลัยผู้ตายในราวศวรรษที่ 6 และตอนต้นศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราชบทไว้อาลัยมีผู้แต่งน้อยลง เกิดความนิยมรุปแบบกวีนิพนธ์ที่เรียกว่า ลิริก ขึ้นที่ได้ชื่อนี้เพราะแต่เดิมเป็นบทประพันธ์ที่เป็นเพลงร้องคลอพิณ แต่ต่อมาอาจเป็นกวีนิพนธ์สำหรับอ่านด้วยก็ได้ เนื้อหาของกวีนิพนธ์แบบลิริกเป็นการระบายอารมณ์ในใจของกวีในขณะที่อารยธรมกรีกมีความเจริญมากขึ้นทุกที และสังคมก็มีความยุ่งยากซับซ้อนทั้งทางวัตถุและจิตใจมากขึ้นเป็นทับทวีนั้น ก็มีกวีชาวกรีกส่วนหนึ่งต้องการหลบหนีจากความสับสนวุ่นวายของสังคมไปหาสภาพธรรมชาติและความเป็นอยู่อย่างง่ายๆธรรมดาๆ กวีพวกนี้ได้แต่งบทประพันธ์ไพร ซึ่งถือได้ว่าเป็นดินแดนของคนเลี้ยงแกะ (Pastor) รวมทั้งธรรมชาติแบบอื่นๆ
<< มหากาพย์อีเลียด มหากาพย์โอเดสซี