ส่วนประกอบของระนาดเอก
ลักษณะงานดนตรีหรืองานดุริยางคศิลป์นั้นเป็นงานสาขาหนึ่งในงานศิลปะบริสุทธิ์
จะเห็นได้ว่างานดนตรีกับงานศิลปะนั้นมีความสัมพันธ์และ อาศัยซึ่งกันและกัน มีพื้นฐานในด้านความคิดที่สอดคล้องคล้ายคลึงกัน
และกล่อมเกลาจิตใจคนให้มีความอ่อนโยนขึ้น
ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับดนตรีดูได้จากการออกแบบสร้างเครื่องดนตรี
โดยทั่วไปนักดนตรีมักจะเลือกซื้อเครื่องดนตรีชิ้นที่ตนเองชอบ และเลืก เครื่องดนตรีที่มีเสียงดีไว้ก่อน
เมื่อได้เครื่องดนตรีที่มีเสียงดีตามต้องการแล้วจึงจะดูลักษณะเครื่องดนตรีว่าสวยงามหรือไม่
รูปร่างหรือส่วนสัดของ เครื่องดนตรีมีความสวยงามเหมาะสมเพียงใด ดังนั้นเครื่องดนตรีไทยทุกชนิดจะมีการประดับด้วยวัสดุที่งดงามและออกแบบลวดลายให้เกิดความ สวยงามเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ซื้อ
ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงงานศิลปะที่ปรากฏบนระนาดเอกไว้พอเป็นสังเขปดังนี้
ส่วนประกอบของระนาดเอกนั้นแบ่งเป็น 3 ส่วน
คือ
1. รางระนาดเอก
2. ผืนระนาดเอก
3. ไม้ตระนาดี
รางระนาดเอก
รางระนาดเอกแบ่งเป็นส่วนประกอบย่อยๆดังนี้คือ
ตัวรางทำด้วยไม้เนื้อแข็งเช่น ไม้สัก ไม้มะริด ไม้มะเกลือ ไม้ประดู่
เป็นต้น รูปร่างคล้ายเรือสมัยโบราณ คือตอนกลางป่องเป็นกระพุ้งเล็กน้อยเพื่อให้เสียงก้องกังวาน
ตอนหัวและท้ายโค้งงอนขึ้นเรียกว่า "ฝาประกบ" มี 2 แผ่น บนขอบรางด้านบนทั้งสองข้างของฝาประกบจะใช้หวาย เส้นซึ่งมีผ้าพันโดยรอบ
ติดเป็นแนวยาวไว้ตลอด เพื่อรองรับผืนระนาดขณะที่ลดลงจากตะขอเกี่ยว ป้องกันบริเวณใต้ท้องของผืนระนาดมิให้ถูก ครูดเป็นรอยได้ง่าย
ที่ขอบของฝาประกบด้านนอกจะเซาะร่องเดินเป็นคิ้วไว้เพื่อความสวยงาม นอกจากทาสีที่คิ้วขอบรางแล้ว
ที่ไม้ฝาประกบยังเ ดินเส้นดำหรือขาวไปตามขอบคิ้วรางทั้งด้านล่างและด้านบนรวมไปถึงโขนระนาดด้วย
บางรางเดินเส้นเดียวบางรางเดินคู่สองเส้นแล้วแต่รสนิยม ของช่างผู้ประดิษฐ์ ต่อมาการสร้างรางระนาดได้มีการพัฒนาให้สวยงามขึ้นอีกโดยทำขอบคิ้ว
ซึ่งประกอบด้วยงาช้างหรือตัวรางทั้งหมดแกะเป็น ลวดลายต่างๆ บางทีก็ประดับลวดลายด้วยมุกหรือแกะลวดลายลงรักปิดทองเป็นต้น
โขนระนาด
โขนระนาด
เป็นไม้ 2 แผ่นรูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ติดประกบไว้ที่หัวและท้ายของไม้ฝาประกบโดยเฉพาะด้านในตอนบนจะติด
"ตะขอระนาด" ซึ่งทำด้วยโลหะโค้งงอ
สำหรับสอดคล้องเชือกขึงผืนระนาดให้ลอยอยู่บนราง ด้านล่างของรางมีแผ่นไม้บางๆปิดไว้ยาวโดย ตลอดเพื่อยึดฝาประกบและโขนให้ติดเข้าด้วยกันเรียกว่า
"ไม้ปิดใต้ท้องระนาด"
ทำให้อุ้มเสียงและระนาดมีเสียงดังกังวานมากขึ้น
เท้าระนาด
เท้าระนาด
(บางทีเรียกฐานระนาด) ทำด้วยไม้หนามีลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมคล้ายฐานของพานรอง ตรงกลางเป็นคอคอดส่วนตอนบนโค้ง เว้าไปตามท้องราง
เท้าระนาดยึดติดอยู่ที่กลางลำตัวของรางระนาดเพื่อให้หัวและท้ายของรางลอยตัวสูงขึ้น
ฐานด้านล่างนิยมแกะสลักเป็น "ลายฐานแข้งสิงห์" ทั้ง 4 ด้าน ที่ฝาไม้ประกบตอนบนและตอนล่างจะใช้ไม้ติดประกบโดยตลอดเรียกว่า
"คิ้วขอบราง" นิยมทาสีขาวหรือดำเพื่อตัดกับสีของแล็คเกอร์ซึ่งทาไว้ที่ตัวรางระนาด
ผืนระนาด
ผืนระนาด เดิมทำด้วยไม้ไผ่ตง(นักดนตรีเรียก
ไผ่บง) นำมาตัดเหลาด้วยความประณีตเป็นลูกๆ มี 21 ลูก
ขนาดลดหลั่นกันตามลำดับเรียก ว่า " ผืนระนาด" ใช้แขวนที่ตะขอทั้ง 4
บนโขนระนาด ใต้ลูกระนาดทั้ง 21 ลูกจะติดตะกั่วซึ่งทำด้วย
ตะกั่วและขี้ผึ้งผสมกัน เพื่อถ่วงเสียงให้ได้เสียงสูง เสียงต่ำตามต้องการโดยติดไว้ที่ใต้ลูกระนาดตรงด้านล่างของปลายลูกระนาดทั้งสองข้างๆละ
1 ก้อน จำนวนที่ติดจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับ เสียงที่ต้องการ ถ้าติดมากเสียงจะต่ำลง
ถ้าติดน้อยเสียงจะสูงขึ้น ต่อมาภายหลังนิยมนำ ไม้ชิงชัน
หรือ ไม้มะหาด มาเหลาเป็นผืนระนาดได้เสียง เล็ก แหลมกว่าผืนระนาดที่ทำด้วยไม้ไผ่ นอกจากนั้นในสมัยปัจจุบันได้เพิ่มลูกระนาดเอกให้มี
22 ลูก เพื่อให้บรรเลงกับวงปี่พาทย์มอญได้สะดวก
แต่ในวงปี่พาทย์เสภาเดิมไม่นิยม เพิ่มลูกระนาดคงใช้เพียง 21 ลูกเท่านั้น
เมื่อเกิดวงมโหรีขึ้น เครื่องดนตรีในวงปี่พาทย์ต้องย่อสัดส่วนให้เล็กลงกว่าเดิม
เรียกรางชนิดนี้ว่า "รางระนาดมโหรี"
ซึ่งมีส่วนประกอบเช่น เดียวกับรางระนาดเดิมทุก อย่างเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า
ไม้ตีระนาด
ไม้นวม
ไม้แข็ง
ไม้ตีระนาดเอกทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นท่อนกลมเล็กๆ
2 อัน หัวไม้ตีทำด้วย ด้ายพันด้วยผ้าชุบรัก
ลักษณะเป็นปื้นกลมเวลาตีมีเสียงดังแข็ง กร้าวเรียกว่า "ไม้แข็ง"
อีกแบบทำด้วยผ้าติดตะกั่วเล็กน้อยทาแป้งเปียกแล้วพันด้วยด้ายสีเส้นเล็กๆโดยรอบอย่างสวยงาม
เวลาตีมีเสียงทุ้มนุ่มนวล เรียกว่า "ไม้นวม"
ใช้ตีกับระนาดเอกในวงปี่พาทย์ไม้ นวมหรือวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์
|