|
|
|
ผู้ชนะที่แท้จริง แคว้นฉี โดยการนำของแม่ทัพฟู่รบกันแคว้่นจิ๋น นำโดยแม่ทัพเตียวเหลียงต่างฝ่ายต่างผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ เป็นเวลาหลายปี มิมีผู้ใดยอมแพ้ต่อกัน การรบไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุด แม่ทัพฟู่เกิดการเบื่อหน่ายเต็มที จึงส่งทหารไปกราบทูลเจ้าเมืองขอกำลังทหารเพิ่มเติมเพื่อจะตีแคว้นจิ๋นให้จงได้ แต่เล่อชิน อำมาตย์ใหญ่ทูลคัดค้านว่า เกรงว่าการทำเยี่ยงนั้น จะเป็นผลร้ายต่อแคว้นฉีของเรา เพราะเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้แคว้นโจวถือโอกาสเข้ามาตีเมืองเอาได้ เนื่องด้วยเหล่าทหารกล้าของฉีต่างก็ยกพลไปตีแคว้นจิ๋นซึ่งเป็นแค่แคว้นเล็ก ๆ เท่านั้น เจ้าเมืองมิฟังคำคัดทาน ด้วยเห็นว่า แคว้นโจวเองก็เป็นแคว้นเล็ก ๆ คงไม่มีปัญญาความสามารถเข้ามาตีเมืองฉีได้ ผนวกกับพระองค์เองอยากได้แว้นจิ๋น ซึ่งเป็นเมืองที่มีหยกงามที่สุดด้วย จึงสั่งทหารให้ตั้งกองพลเพื่อบุกขยี้แคว้นจิ๋นทันที ทางด้านแคว้นโจว เห็นเป็นโอกาสเหมาะจึงบุกเข้าตีแคว้นฉี ซึ่งถึงแม้จะมีอำมาตย์เล่อชินผู้เก่งกล้าก็มิอาจทานไว้ได้ เนื่องด้วยกำลังน้อยกว่า เท่านั้นยังไม่พอ แคว้นโจวยังส่งกำลังบางส่วนไปโอบล้อมตีแคว้นจิ๋นซึ่งอ่อนแอ อ่อนแรงจากการรบกันทัพใหญ่ของแคว้นฉีได้สำเร็จอีกด้วย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การตัดสินใจและการกระทำที่ปราศจากการไตรีตรองให้ถ้วนถี่ มักนำพาความหายนะมาสู่เสมอ อย่างการตัดสินใจของเจ้าเมืองฉี มิแตกต่างกับการขี่ช้างจับตั๊กแตน นอกจากไม่ได้ตั๊กแตนแล้ว ยังโดยนายพรานซึ่งซุ่มอยู่สังหารเอาด้วย
|
จัดทำโดย ครูอัญชลี สง่าทอง
โรงเรียนปิยะบุตร์
อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
Copyright (c) 2007 Ms.Anchalee
Sangathong All rights reserved
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2550
thaigoodview.com Version 17.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail: webmaster@thaigoodview.com