จากข้อมูลทางธรณีวิทยาและการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของพืชและสัตว์ชนิดเดียวกันและอายุเดียวกันในทวีปต่างๆที่อยู่ห่างไกลกันทำให้เชื่อว่าทวีปต่างๆ
ในปัจจุบันแต่เดิมเป็นแผ่นดินเดียวกัน
รอยต่อของแผ่นธรณีภาค
ภาพแสดง รอยต่อของแผ่นธรณีภาค
ที่มา : http://www.chaiyatos.com/geol05.gif
เมื่อนำภาพแต่ละทวีปมาต่อกันจะเห็นว่ามีส่วนที่ต่อกันได้พอดีที่ขอบของแต่ละทวีปเช่นขอบตะวันออกของอเมริกาใต้กับขอบตะวันตกของแอฟริกาต่อมามหาสมุทร
แอตแลนติกเข้ามาแทนที่ตรงรอยแยกและทวีปมีการเคลื่อนตัวแยกออกไปเรื่อย ๆจนปัจจุบัน จากหลักฐานและแนวความคิดข้างต้น ได้มีการศึกษาบริเวณใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเพิ่มเติมดังนี้
รอยแยกของแผ่นธรณีภาค และอายุหินบนเทือกเขากลางมหาสมุทร
ภาพแสดง ภาพเทือกเขากลางมหาสมุทร
ที่มา : http://photos1.blogger.com/blogger/6864/3170/1600/seafloor.0.jpg
ใต้มหาสมุทรมีเทิอกเขายาวโค้งอ้อมไปตามรูปร่างของขอบทวีปด้านหนึ่งเกืบขนานกับชายฝั่งสหรัฐอเมริกาและอีกด้านหนึ่งขนานชายฝังทวีปยุโรป
และแอฟริกาเทือกเขากลางมหาสมุทรนี้มีรอยแยกตัวออกเป็นร่องลึกไปตลอดความยาวเทือกเขา และมีรอยตัดขวางบนสันเขานี้มากมาย รอยแตกนี้เป็นศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด นอกจากนั้นยังมีเทือกเขาเล็กๆกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
ต่อมาเครื่องมือการสำรวจใต้มหาสมุทรมีการพัฒนาอย่างมากเช่นมีการค้นพบหินบะซอลต์ที่บริเวณร่องลึกหรือรอยแยกบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก
และยังพบอีกว่าหินบะซอลต์
ที่อยู่ไกลจากรอยแยกมีอายุมากกว่าหินบะซอลต์ที่อยู่ใกล้รอยแยก อธิบายได้ว่าเมื่อเกิดรอยแยกแผ่นดินจะเคลื่อนตัวออกจากกันอย่างช้าๆ ตลอดเวลา ขณะเดียวกันแมกมาจากใต้ธรณีจะดันแทรกเสริมขึ้นมาแข็งตัวเป็นหินบะซอลต์ใหม่เรื่อยๆ ดังนั้นโครงสร้างและอายุหินรองรับแผ่นธรณีภาคจึงมีอายุอ่อนสุดบริเวณเทือกเขา
และอายุมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้ขอบทวีป
ภาพแสดง ภาพการแทรกตัวขึ้นมาของแมกมากลางเทือกเขาใต้ มหาสมุทรแอตแลนติก
ที่มา : http://photos1.blogger.com/blogger/6864/3170/1600/Seafloor_spreading.jpg
หน้าหลัก | ถัดไป
Top
|