ยุคราชวงศ์ซ่ง
ราชวงศ์ซ่งใต้ (ปีคริสตศักราช 1127 - ปีคริสตศักราช 1279)
แม่ทัพเยวี่ยเฟย (งักฮุย)
ถ้าหากเคยอ่านนวนิยายเรื่องมังกรหยกของกิมย้งมาแล้ว ในนวนิยายเรื่องนี้ได้มีการกล่าวถึงชนเผ่าต่างๆ มากมาย ที่ต้องการหนังสือเล่มหนึ่ง หนังสือเล่มนั้นก็คือ เยวี่ยอู่มู่อี้เหวิน หรือหนังสือที่รวบรวมผลงานเขียนของแม่ทัพ เยวี่ยอู่มู่ เพราะเชื่อกันว่าเป็นบันทึกที่มีเรื่องราวของยุทธศาสตร์และพิชัยสงครามที่วิเศษยิ่งของแม่ทัพเยวี่ยอู่มู่ ส่วนเยวี่ยอู่มู่ผู้นี้ก็คือ แม่ทัพเยวี่ยเฟย หรือ งักฮุย นั่นเอง
เยวี่ยเฟย (งักฮุย) เป็นคนในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ เป็นแม่ทัพที่มีความสามารถทางศึกสงครามและเป็นผู้ที่มีระเบียบวินัยทางทหารอย่างเข้มงวด ดังนั้นกองทัพของเยวี่ยเฟย (งักฮุย) จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นกองทัพที่แม้จะหนาวตายก็จะไม่รื้อบ้าน ยอมอดตายแต่ไม่ปล้นจี้ ตลอดชีวิตของเยวี่ยเฟย (งักฮุย) ทำศึกทั้งหมด 126 ครั้งด้วยกัน และไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว แท้จริงแล้วเยวี่ยเฟยมิเคยแต่งตำราพิชัยสงครามแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเยวี่ยอู่มู่อี้เหวิน นี้ เป็นเพียงหนังสือที่รวบรวมบทกวีของเค้าเท่านั้น
ระหว่างสงครามต่อต้านการรุกรานของชาวจิน ถึงแม้ว่าเยวี่ยเฟยจะได้รับชัยชนะตลอดมา แต่ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ซ่งใต้กลับไม่มีจิตใจที่คิดจะฟื้นฟูบ้านเมือง แต่อย่างใด ในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1142 พระเจ้าเกาจงได้มีรับสั่งให้ฉินฮุ่ย ซึ่งเป็นเสนาบดีในตอนนั้นไปเจรจาสงบศึกกับชาวจิน แคว้นจินตั้งเงื่อนไขในการเจรจาว่า ต้องมีการประหารชีวิตเยวี่เฟย (งักฮุย) ก่อนจึงจะเริ่มเจรจาได้ ดังนั้น ฉินฮุ่ยจึงใส่ร้ายและทำการจับกุมเยวี่ยเฟยโดยอ้างว่าเยวี่ยเฟยคิดก่อการกบฏ ในที่สุดก็สั่งประหารเยวี่ยเฟย พร้อมกับ เยวี่ยหยุนบุตรชาย และจังเสี้ยนซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเยวี่ยเฟย ในตอนนั้นเยวี่ยเฟยมีอายุแค่เพียง 39 ปีเท่านั้น
วัฒนธรรมของราชวงศ์ซ่ง
ในสมัยซ่งเหนือ งานหัถกรรมมีความรุ่งเรื่องอย่างมาก ในสมัยนั้นมีโรงงานขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีในการผลิตก็ก้าวหน้ามาก เห็นได้ชัดจาก ประเภท จำนวน และคุณภาพของการผลิตล้วนเป็นสินค้าชั้นดี โดยเฉพาะการผลิตเครื่องปั่นดินเผาและเครื่องเคลือบ
เครื่องปั่นดินเผาและเครื่องเคลือบในสมัยราชวงศ์ซ่งไม่ว่าในทางปริมาณ หรือเทคโนโลยีการผลิตล้วนแต่ล้ำสมัยกว่ายุคก่อนๆ มาก ในสมัยนั้นเตาเผาใช้กันอย่างแพร่หลาย โรงงานบางแห่งมีเนื้อที่ถึง 20 ไร่ ใช้เตาเผาสูงถึง 20 เมตร
ในสมัยนี้เริ่มมีการใช้ธนบัตรกันแล้ว โดยธนบัตรมีบทบาทสำคัญมายิ่งขึ้นทุกๆ วัน จนในที่สุดก็นิยมใช้ธนบัตรและใช้สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Imperial/Imperial2/imperial2.html#Song http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-19.shtml http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-20.shtml