บุุคคลในสมัยรัตนโกสินทร์
หมอ บรัดเลย์
ขอบคุณรูปจาก http://www.princess-it.org/kp9/images/hmk-IT/ktp23_2.jpg
ประวัติ หมอ บรัดเลย์
- หมอ บรัดเลย์ มีชื่อเดิมว่า นายแพทย์แดน บีช แบรดเลย์ (Dr.Dan BeachBradley,M.D.) คนไทยเรียกกันติดปากว่า หมอบรัดเลย์
- เกิดเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๘๐๔ (พ.ศ. ๒๓๔๗) ที่เมืองมาร์เซลลัส ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ขณะหมอบรัดเลย์เกิดประเทศสหรัฐอเมริกากำลังตื่นตัว เรื่องการเผยแผ่คริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ในต่างประเทศ โดยที่องค์กรต่างๆที่ทำงานด้านนี้ต้องการมิชชันนารี ที่เป็นแพทย์จำนวนมาก หมอบรัดเลย์ซึ่งต้องการเป็นมิชชันนารีด้วย ผู้หนึ่ง จึงได้สมัครเข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์ในเมืองนิวยอร์ก และสมัครเป็นมิชชันนารีในองค์กร เอบีซีเอฟเอ็ม (ABCFM=American Board of Commissioners of Foreign Missions) ท่านจบการศึกษาวิชาแพทย์ใน ค.ศ. ๑๘๓๓ (พ.ศ. ๒๓๗๖) แล้ว ท่านได้แต่งงานกับ เอมิลี รอยซ์ (Emilie Royce) และเดินทางด้วยเรือใบ
ชื่อ แคชเมียร์ (Cashmere) จากเมืองบอสตัน ในรัฐแมสซาชูเซ็ทท์ มาประเทศไทยพร้อมกับภรรยาและมิชชันนารีคนอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๘๓๔ (พ.ศ. ๒๓๗๗)
ผลงานที่สำคัญด้านการแพทย์ของท่านก็คือ
- การตัดแขนเพื่อรักษาชีวิตพระภิกษุ รูปหนึ่งของวัดประยุรวงศาวาส
ที่ประสบอุบัติเหตุปืนใหญ่ระเบิดในงานฉลองวัดแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๓๗๙
ซึ่งนับว่าเป็นการผ่าตัดแขนขาผู้ป่วยครั้งแรกใน ประเทศไทยส่วนงานรักษาโรคอย่างอื่นที่ทำให้ท่านมีชื่อเสียงมาก
เช่นกันก็คือ การผ่าตัด ต้อกระจกในนัยน์ตา และการรักษาโรคฝีดาษ
- งานรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคฝีดาษนี้ทำให้ท่านได้รับพระราชทานเงิน
จำนวนหนึ่งเป็นรางวัล จาก พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๘๒
ในระยะนั้น การแพทย์แผนตะวันตก หรือแพทย์ทางวิทยาศาสตร์
ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทยคนไทยยังรักษาโรคด้วย การแพทย์แผนไทย คือใช้สมุนไพร
และคนในบางส่วนก็ยังรักษาโรคด้วยไสยศาสตร์ใน พ.ศ. ๒๓๘๘
ท่านได้แต่งหนังสือชื่อ ตำราปลูกฝีโค เพื่อช่วยในการป้องกันโรคดังกล่าว หมอบรัดเลย์ได้รักษาผู้ป่วยด้วยวิชาแพทย์แผนตะวันตก
ซึ่งเป็นของใหม่สำหรับคนไทยและทำให้ผู้ป่วยที่เป็นชาวบ้านธรรมดา หายจากโรคต่างๆเป็นจำนวนมาก ต่อมาจึงมีพวก ขุนนางและข้าราชการไทยไปรับบริการจากท่านด้วย กิตติศัพท์ของหมอบรัดเลย์ได้ทราบถึงถึงพระกรรณเจ้าฟ้ามงกุฎ (คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังไม่เสด็จขึ้นครองราชย์) ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดราชาธิวาส พระองค์จึงมีรับส่งให้หมอบรัดเลย์ เข้าเฝ้า เพื่อถวายการรักษาพระโรคลมอัมพาตที่เกิดแก่พระพักตร์ของพระองค์ หมอบรัดเลย์ได้นำภรรยาเข้าเฝ้าเจ้าฟ้ามงกุฎเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๗๙ และต่อมา ได้เข้าเฝ้าถวายพระโอสถที่ใช้รักษา
ในวันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๓๗๙ ผลการรักษาได้ผลดี ทำให้อาการของพระโรคทุเลาลงมากและทำให้หมอบรัดเลย์ได้ใกล้ชิด
เบื้องพระยุคลบาทจนทรงโปรดเป็นพระสหายดังจะเห็นได้จากการที่ โปรดให้หมอบรัดเลย์เข้าถวายพระอักษรภาษาอังกฤษในปี พ.ศ. ๒๓๘๒
หมอบรัดเลย์ได้หล่อตัวพิมพ์ภาษาไทยชุดใหม่ขึ้น ใช้เป็นผลสำเร็จ ในเดือน มกราคม พ.ศ. ๒๓๘๕ และได้นำตัวพิมพ์ชุดนี้ ๑ ชุดไปถวายเจ้าฟ้ามงกุฎซึ่งขณะนั้นทรงย้ายไปประทับที่วัดบวรนิเวศ ปีเดียวกันหมอบรัดเลย์ได้พิมพ์หนังสือที่เป็นงานแปลของท่านด้านการอนามัยแม่และเด็กออกมาด้วยเล่มหนึ่ง คือ คัมภีร์ครรภ์ทรักษา ต่อมาอีก ๒ ปี ตรงกับวันชาติของสหรัฐอเมริกา คณะมิชชันนารีก็ได้จัดพิมพ์หนังสือพิมพ์รายเดือนภาษาไทยฉบับแรก ที่ชื่อว่าบางกอกรีคอเดอ ออกจำหน่าย นับได้ว่าเป็นการนำความก้าวหน้าด้านสื่อสารมวลชนเข้ามาเผยแพร่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยแต่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีออกมาจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๓๘๘ก็ต้องหยุดพิมพ์ เพราะขาดคนทำต่อ และภรรยาของหมอบรัดเลย์ถึงแก่กรรมลง
ที่มา http://social-people.exteen.com/20071103/entry-15