บุุคคลในสมัยรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
พระนามเต็ม
สมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดีศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิ
ราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราชรัตนากาศภาศกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศร์
ตรีภูวเนตรวรนายกดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยคโรมนต์
สกลจักรวาลาธิเมนทรต์สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทราธาดาธิบดี
ศรีสุวิบูลย์คุณอกณิฐฤทธิราเมศวรมหันตบรมธรรมิกราชาธิเบศร์
โลกเชฐวิสุทธิ์ รัตนมงกุฏประเทศคต มหาพุทธางกูร บรมบพิตร
พระนามเดิม ทองด้วง
พระราชสมภพ วันพุธ เดือน ๔ แรม ๕ ค่ำ ปีมะโรงอัฐศก เวลา ๓ ยาม ตรงกับวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๒๗๙
เสวยราชสมบัติ ปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๒๕(ตรงกับ วันเสาร์ เดือน ๕ แรม ๙ ค่ำ ปีขาล จัตราศก จุลศักราช ๑๑๔๔)ขณะมีพระชนมายุได้ ๔๕ พรรษา
เสด็จสวรรคต วันพฤหัสบดี เดือน ๙ แรม ๑๓ ค่ำ ปีมะเส็ง เอกศก ตรงกับวันที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๕๒
วัดประจำรัชกาล วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯราชอาณาจักรไทยได้แผ่ ขยายออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาลทุกทิศทางยิ่งกว่าสมัยใด กล่าวคือ
ทางเหนือได้อาณาจักร ลานนาไทย รวมทั้งหัวเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น เชียงตุง เชียงรุ้ง และหัวเมืองอื่น ๆ ในแคว้นสิบสองปันนา
ทางด้านตะวันออกได้หัวเมืองลาว และกัมพูชาทั้งหมด
ด้านทิศใต้ได้ดินแดนตลอดแหลมมะลายู ได้แก่ เมืองไทรบุรี เมืองกลันตัน เมืองตรังกานู เมืองเประ และเมืองปัตตานี
ด้านตะวันตก ได้หัวเมืองมะริด เมืองตะนาวศรี และเมืองทะวาย
ได้มีสงครามกับพม่าหลายครั้ง ครั้งที่สำคัญได้แก่สงครามเก้าทัพ
เมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๘ พม่ายกกำลังมาครั้งนี้ มีกำลังพลประมาณ ๑๔๔,๐๐๐ คน
จัดเป็น ๙ ทัพแยกย้ายกันเข้าตีไทย ๕ทาง
ทัพบกยกเข้ามาทาง ด่านเจดีย์สามองค์ จำนวน ๕ ทัพ
ยกเข้ามาตีหัวเมืองทางเหนือ ๒ ทัพ
และยกเข้ามาตีหัวเมืองทางใต้ ๒ ทัพ
ทั้งหมดยกกำลังเข้าตีพร้อมกันในเดือนอ้ายของปี พ.ศ. ๒๓๒๘ ฝ่ายไทยเห็นว่าทัพพม่าที่ยกเข้ามาทาง ด่านเจดีย์สามองค์มีกำลังมาก
และสามารถเข้าถึงกรุงเทพ ได้ใกล้ที่สุด จึงจัดกำลังเข้าทำการรบ
ผลของสงคราม กองทัพไทยได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
โดยการดำเนินกลยุทธที่ยอดเยี่ยมของฝ่ายไทย เริ่มตั้งแต่การวางกำลัง
สกัดการรุกของพม่าอย่าง เหมาะสมทั้งในด้านการวางกำลัง ณ
พื้นที่ที่สำคัญด้วยกำลังที่พอเหมาะและจังหวะเวลาถูกต้อง
ทำให้สามารถเอาชนะพม่าที่มีกำลังมากกว่าหลายเท่าตัว
โดยที่ฝ่ายพม่าต้องถอยทัพกลับไปตั้งแต่อยู่ที่ชายแดน
เมื่อกองทัพหลวงของพม่าต้องถอยกลับไป กองทัพพม่า ที่ยกมา
ทางเหนือและทางใต้ก็ถูกกองทัพไทยปราบได้ราบคาบโดยง่าย
ในเวลาต่อมาพม่ายกทัพมาตีไทยอีกครั้งในสงครามที่ท่าดินแดง
แต่ก็พ่ายแพ้ไทยกลับไปเมื่อรบกันอยู่ได้เพียง๓ วัน
ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีสงครามขนาดใหญ่ระหว่างไทยกับ พม่าอีกเลย
กิจการทหารในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ
คงดำเนินตามแบบอย่างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
มีการรวบรวมตำราพิชัยสงคราม ที่หลงเหลือจากการ
ถูกทำลายจากพม่ามาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นแบบแผน
ซึ่งก็ได้ใช้ต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ
ที่มา http://social-people.exteen.com/20071103/entry-16