วัฒนธรรมการดื่มชา
ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 การดื่มชาแพร่หลายไปสู่ประเทศทางตะวันตกและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งแต่ละประเทศมีประเพณีและวัฒนธรรมการดื่มชาแตกต่างกัน
ประเพณีการดื่มชา
http://www.bloggang.com/data/c/chaipung/picture/1268890508.jpg
ชาเขียวแม้จะเพิ่งโด่งดังในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม แต่วัฒนธรรมการดื่มชามีมานานนับพันปีแล้ว โดยจีนเป็นชนชาติแรกที่รู้จักการดื่มชา ผลิตชา และทำไร่ชามาก่อนชาติอื่นใดมากกว่า 2,000 ปีแล้ว มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับชาในประเทศต่างๆ ในเวลาต่อมา การดื่มชาของคนในเอเชีย ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะการคัดเลือก การผลิต การชิม และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นจากการดื่มชานั้น ซับซ้อนไม่น้อยไปกว่าการดื่มไวน์ของคนชาติตะวันตกเลย
ในวัฒนธรรมการดื่มชาของคนจีน ชาเป็นสัญลักษณ์ของมิตรไมตรี และการต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อมีแขกมาเยือนถึงที่บ้าน ต้องต้อนรับด้วยชาร้อนหนึ่งถ้วย ซึ่งถือเป็นมิตรไมตรีอันอบอุ่นจากเจ้าของบ้านที่จะขาดเสียมิได้ ในอดีตเรามีร้านอาหารและร้านค้ามากมายที่แสดงไมตรีต่อลูกค้าโดยการเสิร์ฟชาให้ดื่ม
ปัจจุบันธรรมเนียมปฏิบัติเหล่านี้แทบจะหาดูได้ยาก นอกจากชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งดื่มชาต่างน้ำแล้ว ประเทศทางตะวันออกกลางอย่าง ตุรกี อิรัก อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ฯลฯ ก็ดื่มชากันมากเหมือนกัน
ชากับชาวจีน
http://www.school-ces.com/private_folder/Tae/hana-ocha02.jpg
ธรรมเนียมการดื่มชาของชาวจีน แบ่งออกได้เป็น 3 ยุค สำคัญ ได้แก่:
1) สมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ. 1161-1450)
การดื่มชาเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในภาคใต้ของประเทศจีน ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังนี่เองที่คนจีนนิยมดื่มชากันทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ แต่กรรมวิธีชงชาในสมัยราชวงศ์ถังผิดแผกแตกต่างจากชาที่เรารู้จัก สมัยนั้นเขาจะเอาใบชาไปนึ่งกับข้าว เติมเกลือ ขิง เปลือกส้ม และเครื่องเทศ แล้วปั้นเป็นก้อนละลายน้ำร้อนดื่ม
2) สมัยราชวงศ์ซ้อง (พ.ศ. 1503-1823)
การชงชาได้เปลี่ยนจากก้อนชานึ่ง มาเป็นใบชาแห้งนำมาโม่จนเป็นผง แล้วชงกับน้ำร้อน ในยุคนี้เอง ที่คนจีนเริ่มวัฒนธรรมจิบน้ำชาพรางร่ายกวีอย่างพลิดเพลิน พระสงฆ์ก็หันมาชงชาเพื่อช่วยสร้างศีล สมาธิและปัญญา ญี่ปุ่นได้เรียนวิธีชงชาผงจากจีน และได้พัฒนาเป็นศิลปะการชงน้ำชาของตนเองขึ้น ในขณะเดียวกันที่คนจีนลืมวิธีทำและชงชาผงไปหลังจากที่พวกตาดรุกรานจีน และอารยธรรมจีนของราชวงศ์ซ้องถูกทำลายไปสิ้น
3) สมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ. 1823-1911)
คนจีนหันมาชงชาด้วยใบชาซึ่งต้องชงในป้าน ป้านชาช่วยกรองเศษชาไม่ให้หล่นลงจองขณะริน ผิดกับชาผงที่ชงดื่มในถ้วยได้ไม่ต้องรินจากป้าน
ป้านคือเครื่องเครียบชั้นดีมีเนื้อบางเฉียบ เกิดขึ้นเพื่อใช้ดื่มชา ชาเริ่มแพร่หลายออกไปนอกแผ่นดินจีน ทำให้ชาเป็นที่รู้จักกันในหมู่อาหรับ ซึ่งติดต่อการค้ากับจีนมาก่อนชาวยุโรป