เทพนิยาย เรื่อง เจ้าหญิงนิทรา
แล้วพระองค์ก็ยกโล่ทองคำที่หญิงชราผู้สูงอายุมอบให้กับพระองค์นำติดตัวมาด้วยอันนั้น ยกกันไฟมหากาฬที่ลุก โชดช่วงและร้อนแรงลงมา
เป็นสายนั้น เอาไว้ได้อย่างทันท่วงที...และในฉับพลัน...เมื่อไฟมหากาฬสัมผัสเอาเข้ากับโล่ทองคำ เท่านั้น ดวงไฟทั้งสายที่พุ่งลงมาอย่างกะสายฟ้าแลบ
อันนั้น ก็กระดอนกระเด็นกลับไปสู่ทางเดิมของมันทันที แล้วจะ เป็นยังไงล่ะทีนี้.. เสียงของนางแม่มดซึ่งร้องออกมาอย่างตกใจก็ดังสนั่นขึ้น " จ๊าก..ช่วย
ด้วย !..ร้อน ๆๆๆ " ก่อนที่ร่าง กายของนางจะเป็นอันต้องโดนไฟย่างและได้โดนเผาผลาญลงไปจนกลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุดเมื่อสูญสิ้นนางแม่มดแล้ว เจ้า
มังกรยักษ์ก็กลับกลายร่างลงมาเป็นไม้กวาดธรรมดา ๆ ในทันที และทั่วทั้งปราสาท ในทุก ๆ ที่ก็กลับคืนมาสู่สภาพเดิมเหมือนปกติธรรมดาที่มันเคยเป็น
ปราสาททั้งหลังตอนนี้เหมือนกับว่ามันกำลังลืมตา ตื่นขึ้นมาก็ไม่ปาน ต้นหนามแหลมคมที่ขึ้นอยู่รอบ ๆ ก็กลับกลายมาเป็นพุ่มไม้ที่กำลังแข่งกันออกใบ
ออกดอกเบ่ง บานสะพรั่งอยู่โดยทั่วไป หมู่นกกาที่หลับไหลอยู่ในปราสาทนั้นก็ออกมาส่งเสียงร้องเจื่อยแจ้ว..." หมดสิ้นกันเสียที กับคำสาปที่แสนจะชั่ว
ร้าย " เจ้าชายทรงรำพึงขึ้นก่อนที่พระองค์จะดำเนินออกไปข้างหน้าเพื่อตามหาเจ้าหญิง...
และเมื่อพระองค์เข้ามาถึงในอุโมงที่เจ้าหญิงทรงหลับไหลอยู่แห่งนั้นแล้ว เจ้าชายก็ได้พบร่างอันแน่งน้อยของเจ้าหญิงนอน นิ่งอยู่ พระองค์ถึง
กับตะลึงมองในความงามของเจ้าหญิง ถึงกับทรงรำพึงออกมาว่า " ไม่น่าเลยที่จะมาเป็นอย่างนี้ " ตรัสจบ พระองค์ก็ทรงก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากสีซีดของ
เจ้าหญิงองค์งามในทั้นที และในฉับพลันนั้นเอง เวทย์มนต์ ก็คลายลงอย่างหมดสิ้นพร้อม ๆ กับการพลิกฟื้นตื่นขึ้นของทุกชีวิต ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในปราสาท
แห่งนี้ เจ้าหญิงทรง รู้สึกพระองค์ขึ้นมาพร้อมกับพูดออกมาเบา ๆ ว่า " นี่ฉันเป็นอะไรไปหรือนี่ ! เกิดอะไรขึ้นหรือ ? " เจ้าหญิงทรงมองชายหนุ่มตรงหน้า
ด้วยความแปลกพระทัย เพราะพระองค์ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ทรงรู้แค่ว่า พระองค์หลับไปแค่นั้น " เกิดอะไรขึ้นกับเรางั้นหรือ ? เรารู้สึกว่าเราหลับไปนานแสน
นานเหลือเกิน แล้ว ท่านเป็นใคร ? หรือ... " เจ้าชายจึงทรงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าหญิงฟัง และสรุปในตอนท้ายด้วยพระพักตร์ที่ยิ้ม ละไมว่า " หม่อม
ฉันคือผู้ทำลายคำสาปของแม่มดนางที่ 7 ลงได้ เพราะฉะนั้น พระองค์ต้องตอบแทนนะพระเจ้าข้า " พระพักตร์ซูบซีดของเจ้าหญิงทรงมีสีชมพูระเรื่อสูบฉีดขึ้น
เมื่อได้ยินคำเกี่ยวพาราสี และสายตาที่กลุ้มกริ่มของเจ้าชาย แต่ทรงไม่ตอบอะไร หากแต่รีบชวนเจ้าชายให้ไปเข้าเฝ้าพระราชาและพระราชินี และหลังจาก
นั้นมาไม่นาน งานเลี้ยงฉลองก็ถูกจัดขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชาย และเจ้าหญิงออโรร่า " หรือ " เจ้าหญิงนิทรา " ซึ่งเป็นงาน
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปีเลยทีเดียว และเจ้าชายกับเจ้าหญิงนิทราของเราก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดมาหลังจากนั้น..ตราบนานเท่านาน