เทพนิยาย เรื่อง เจ้าหญิงนิทรา
หญิงชรานางนั้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากเครื่องปั่นด้ายแต่ก็ได้ตอบเจ้าหญิงมาว่า " กำลังปั่นด้ายอยู่เพคะ องค์หญิง " เจ้าหญิงนึกสนุก และ
ทรงหยุดยืนเมียงมองดูหญิงชรานางนั้นทำการปั่นด้ายอยู่อย่างสนใจ สักพักหญิงชรานางนั้น อยู่ ๆ นางก็ร้องขึ้นแล้วทำท่าทางกุมนิ้วมือของนางเอาไว้
พร้อมกับพูดว่า " โอ้ย..เจ็บ... เข็มของเครื่องปั่นด้ายมันตำนิ้วมือของหม่อมฉันเข้าให้เสียแล้ว พระธิดากรุณาช่วยร้อยด้ายใส่เข็มตรงนี้ ให้กับหม่อมฉันได้
ไหม ? เจ้าคะ " เจ้าหญิงทรงพยักหน้ารับทันทีเลยทีเดียว เพราะพระองค์นั้นทรงมีความสนใจ เป็นทุนเดิมอย่างมากอยู่ก่อนแล้วจึงเอ่ยปากบอกขอลองทำดู
บ้าง " ดีสิ...ฉันจะช่วยร้อยด้ายให้เองแล้วกันนะ..แม่เฒ่า "
เมื่อหญิงชรานางนั้นขยับตัวลุกออกจากที่เพื่อให้เจ้าหญิงทรงลงไปนั่งประจำที่แทนแล้ว และทันทีที่เจ้าหญิง ทรงเริ่มร้อยด้ายเข้าไปที่เข็มอย่าง
อุสาหะอยู่นั้น พลัน " ว๊าย..เจ็บ..." นิ้วของพระองค์ต้องพลาดไปถูกเข็มอัน แหลมคมของเครื่องปั่นด้ายนั้นแทงเข้าอย่างจังจนพระโลหิตไหลซึมออกมาใน
ทันที...แล้วพระองค์ก็ทรงล้มลง นอนหมดสติอยู่ที่ตรงกลางห้องนั้นเอง...หญิงชราที่นั่งจดจ้องมองเจ้าหญิงอยู่ที่ใกล้ ๆ กันนั้นเมื่อนางมองเห็น ว่าเจ้าหญิง
ได้ล้มลงและทรงหมดสติลงไปแล้ว และในพลันทันทีนั้น...นางก็เผยอยิ้มเผยโฉมหน้าอันแท้จริงของ นางออกมาทันที...ใช่แล้วมันคือแม่มดนางที่ 7 ที่เป็น
ผู้ที่ได้สาปพระธิดาเอาไว้เมื่อครั้งนั้นนั่นเอง...มันกระโจน ลุกขึ้นมา แล้วส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับตะโกนก้องขึ้นอย่างสมหวังสมใจของมันเลยทีเดียวก็ว่าได้ "
ฮะ ๆๆๆ เป็น ไปตามแผนสมน้ำหน้า..สมใจข้าเหลือเกิน เหอ ๆๆๆ " พูดแล้วมันก็หายตัวหายวับไปเสียจากที่ตรงนั้นในทันที....
ร่างที่นอนเหยียดยาวอย่างไร้สติของเจ้าหญิงที่น่าสงสารนั้น ต่อแต่นี้ไปพระองค์จะต้องทรงนอนหลับไหลไปอีกยาว นานเป็นร้อยปีเลยทีเดียว แล้วตรงนั้น
แม่มดนางที่ใจดีที่ได้เคยร่ายเวทย์มนต์เพื่อให้ความช่วยเหลือพระธิดาเอา ไว้เมื่อครั้งก่อนนั้น ก็ออกมาปรากฏกายขึ้นที่ข้างหน้า แล้วพูดบอกกับเจ้าหญิงว่า
" เมื่อถึงร้อยปีข้างหน้าที่จะมาถึง ซึ่งจะเป็นเวลาที่พระองค์หญิงจะต้องฟื้น และตื่นขึ้นมานั้น ถ้าพระองค์ไม่พบใคร ? ก็จะทรงว้าเหว่เป็นอย่างมากใช่ไหม ?
เพคะ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเวทนาและน่าสงสารเสียเหลือเกิน หม่อมฉันจะใช้เวทย์มนต์อีกครั้ง เพื่อทำให้ทุกคนที่ เกี่ยวข้องกับพระองค์หลับไหลลงไปพร้อม
ๆ กันกับพระองค์ทั้งหมดนะ เพคะ " พูดจบนางก็ยกคธาทองของนางขึ้นสู่ เบื้องบนแล้วกวัดแกว่งไปที่รอบ ๆ บริเวณนั้น....
รุ้งเจ็ดสีที่เต็มไปด้วยเวทย์มนต์ได้ส่องแสงเป็นประกายโปรยปลาย และกลับกลายเป็นสายรุ้งส่องแสงระยิบระยับไปโดย รอบจนทั่วทั้งปราสาท
ราชวัง พร้อมทั้งทุก ๆ คน ทุก ๆ ชีวิตที่อยู่ในบริเวณนั้นก็พลันพลอยหลับไหลลงไปด้วยทันที ซึ่งก็รวมไปถึงพระราชาและพระราชินีซึ่งพอดีกับตอนนั้นขบวน
ของพระองค์ได้เสด็จกลับเข้ามาถึงพอดิบพอดีเช่นกัน.... และนานวันเข้า ปราสาทแห่งนั้นก็ถูกบดบังไว้ด้วยเถาไม้ที่มีหนามอันแหลมคม และเรื่องราวที่มีเจ้า
หญิงแสนสวย นอนหลับอยู่ในปราสาทลึกลับก็เลื่องลือทั่วไป จนเจ้าหญิงถึงกับทรงได้รับฉายาใหม่ว่า " เจ้าหญิงนิทรา " นับตั้งแต่นั้นมา..
วันเวลาผ่านไป...มีเจ้าชายหลายองค์ในหลายสมัยที่พยายามจะบุกเข้ามาในปราสาทแห่งนี้ เพื่ออยากที่จะยลโฉม ของเจ้าหญิงสักครั้ง แต่ก็ไม่มี
ใครเลยสักคนที่จะสามารถผ่าดงหนามอันแหลมคมอันนั้นเข้าไปได้ พวกเขาส่วนมาก มักจะโดนหนามที่แหลมคมอย่างกับใบมีดเหล่านั้นทิ่มแทงเอา จน
เสื้อผ้าต้องขาดวิ่น และร่างกายต้องได้รับบาดเจ็บ อย่างสาหัส เจ้าชายทั้งหลายจึงเป็นอันต้องล้มเลิกความตั้งใจของพวกเขาทุกรายไปเลยทีเดียว....และ
แล้ววันเวลาก็ ผ่านล่วงเลยมาจนมาครบกำหนดร้อยปีเข้าพอดี พลันก็ได้มีเจ้าชายองค์หนึ่งซึ่งอยู่ไกลจากที่นี่มาก ได้เดินทางผ่านมายัง ปราสาทแห่งนี้ และ
บังเอิญได้ยินเรื่องราวของ " เจ้าหญิงนิทรา " เข้าโดยบังเอิญจากปากของชาวบ้านที่ อาศัยอยู่ที่แถว ๆ นั้น พระองค์ทรงครุ่นคิดและนึกสงสารเจ้าหญิง
อย่างเหลือล้น ทรงตรัสว่า " เรามีความรู้สึก สังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่า เจ้าหญิงองค์นั้นคงจะต้องการความช่วยเหลือ และรอเราอยู่... "
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »