ฉบับที่4
ฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490
ด้วยคณะรัฐประหารอ้างว่า ประเทศชาติตกอยู่ในภาวะวิกฤติการณ์ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพราะเครื่องอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้นเป็นอันมาก เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมโทรมในศีลธรรมอย่างไม่เคยมีมาแต่ก่อน รัฐบาลและรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขให้กลับสู่ภาวะปกติได้จึงจำต้องให้เลิกใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 และประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2490 ขึ้นแทน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2490 รวมจำนวน 98 มาตรา โดยมีลักษณะเป็นรัฐธรรมนูญชั่วคราว และต่อมา รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ถูกยกเลิกอย่าง"สันติ" เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2492 โดยการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมอายุการประกาศและบังคับใช้ 1 ปี 4 เดือน 14 วัน ระหว่าง 1 ปี 4 เดือน 14 วัน
รัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหารฉบับนี้ มีอีกชื่อหนึ่งว่ารัฐธรรมนูญฉบับ "ใต้ตุ่ม" หรือ "ตุ่มแดง" เนื่องจากก่อนหน้านั้น พลโท หลวงกาจสงคราม (กาจ เก่งระดมยิง) รองหัวหน้าคณะรัฐประหาร ซึ่งมีส่วนอย่างสำคัญในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วนำไปเก็บซ่อนไว้ใต้ตุ่มน้ำเพราะเกรงว่าความจะแตกถ้าหากมีใครมาพบเข้า
พลโท หลวงกาจสงคราม
ที่มา : http://www.rta.mi.th/21000u/aboutus/history_commanders/09.HTM
หลักการสำคัญ
1) มี คณะอภิรัฐมนตรี จำนวน 5 คน ทำหน้าที่บริหารราชการในพระองค์ และถวายคำปรึกษาแก่พระมหากษัตริย์ โดยตั้งใจจะให้เป็นผู้ควบคุมคณะรัฐมนตรีอีกชั้นหนึ่ง
2) ยกเลิกเสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง
3) ใช้ระบบ 2 สภา โดย วุฒิสภา (ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อแทนคำว่า พฤฒสภา) ประกอบด้วยสมาชิกที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง โดยไม่ห้ามข้าราชการประจำเป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีกำหนดวาระ 6 ปี และโดย สภาผู้แทน มาจากการเลือกตั้งโดยตรง แบบรวมเขตจังหวัด คือถือเอาเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง มีกำหนดวาระ 4 ปี อันมีสมาชิกจำนวนเท่ากันทั้งสองสภา
4) เพิ่มอำนาจวุฒิสภา โดยให้สมาชิกวุฒิสภาเสนอร่างพระราชบัญญัติได้ แต่ต้องเสนอต่อสภาผู้แทนก่อน และในกรณีที่มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ให้ประธานวุฒิสภาเป็นประธานของที่ประชุม และให้ประธานสภาผู้แทนเป็นรองประธาน
5) คณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 15-25 คน รัฐมนตรีผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ว่าการกระทรวง ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตนต่อรัฐสภา และต้องรับผิดชอบร่วมกันในนโยบายทั่วไปของคณะรัฐมนตรีด้วย
6) นโยบายของคณะรัฐมนตรีแต่ละคนที่ได้ดำเนินมาจะเสร็จลง หรือ ที่ดำเนินการอยู่เพียงใดก็ตาม คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินภายหลังจะเลิกล้ม หรือ แก้ไขให้เป็นไปอย่างอื่นมิได้ เว้นแต่จะเสนอขอรับพระบรมราชวินิจฉัย และได้รับพระบรมราชานุญาตแล้วเท่านั้นทั้งนี้เพื่อจะให้เป็นอำนาจของคณะอภิรัฐมนตรีในการถวายคำปรึกษา
7) รัฐมนตรีทั้งคณะต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อมีพระบรมราชโองการ โดยไม่บัญญัติว่าใครเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
8) ไม่มีบทบัญญัติถึงคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
9) กำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร สภาร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยสมาชิก 40 คน ซึ่งรัฐสภาเลือกตั้งจากสมาชิกวุฒิสภา 10 คน จากสมาชิกสภาผู้แทน 10 คน จากผู้มีคุณสมบัติต่างๆ กัน 4 ประเภทๆ ละ 5 คน ทำการร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน
เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แก้ไขได้โดยง่าย โดยอาศัยเสียงข้างมากของรัฐสภา ฉะนั้น ภายหลังจากที่ประกาศใช้ไม่ถึง 1 ปี จึงถูกแก้ไขเพิ่มเติมถึง 3 ครั้ง กล่าวคือ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2490 แก้ไขคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยกำหนดอายุผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ต่ำกว่า 35 ปี และให้พระบรมวงศานุวงศ์สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2491 แก้ไขกำหนดเวลา ในการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญ ฉบับถาวรและวิธีการร่างรัฐธรรมนูญโดยกำหนดให้มีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และร่างให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2491 แก้ไขให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มีเอกสิทธิ์และคุ้มกันเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร