ยุคราชวงศ์โจว
เมื่อมาถึงรัชกาลโจวลี่หวัง ภายในเกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นตามลำดับ ลี่หวังที่ขูดรีดภาษีอย่างหนัก ข่มเหงราษฎร อีกทั้งปิดกั้นผู้คนไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์การปกครอง จนกระทั่งก่อนคริสต์ศักราช 841 เกิดการลุกฮือภายในขึ้น ลี่หวังหนีไปเมืองจื้อ (ปัจจุบันอยู่ในอำเภอฮั่วในมณฑลซานซี) ประชาชนจึงพากันสนับสนุนให้โจวติ้งกง และเจามู่กง ซึ่งเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ร่วมกันบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีนที่มีการบันทึกเหตุการณ์โดยระบุเวลาที่แน่นอน
ต่อมาเมื่อโจวเซวียนหวัง ได้สืบบัลลังก์ต่อมา เนื่องจากได้รับบทเรียนข้างต้น จึงปรับเปลี่ยนนโยบายการปกครองเสียใหม่ และเพื่อขจัดภัยคุกคามจากชนเผ่าหรงตี๋ ที่อยู่ทางตอนเหนือ จึงต้องทำศึกป้องกันอาณาเขตอีกครั้ง สุดท้ายได้รับชัยชนะกลับมา นอกจากนี้ยังประสบชัยในการสงครามกับแคว้นจิงฉู่ และหวยอี๋ ดังนั้น จึงได้รับการเรียกขานเป็นยุค ‘ ฟื้นฟู ' ทว่า สังคมโดยรวมยังคงตกอยู่ภายใต้มรสุมแห่งความขัดแย้งภายในต่อไป
วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นในห้วงประวัติศาสตร์มักจะไม่เท่าเทียมกัน อาทิ ในสมัยซังและโจวดินแดนในเขตจงหยวน ได้เข้าสู่ความรุ่งเรืองของยุคสำริด ในขณะที่ดินแดนรอบนอกของโจว ยังคงล้าหลังอยู่มาก ดังนั้น ภายใต้แรงดึงดูดของผลประโยชน์และเงินทอง สงครามระหว่างชาวโจวและแว่นแคว้นอื่น ๆก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งโจวเจาหวัง ยกทัพบุกชนเผ่าหมาน ซึ่งอาศัยอยู่แถบลุ่มแม่น้ำฉางเจียง(แยงซีเกียง)และแม่น้ำฮั่นสุ่ย แต่ต้องรับศึกหนักจากการต่อต้านอย่างเข้มแข็งของชาวเผ่าหมาน กองทัพของโจวสูญเสียกำลังไพร่พลแทบหมดสิ้น เจาหวังเองก็สิ้นชีพที่แม่น้ำฮั่นสุ่ย การศึกครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในยุคต้นราชวงศ์โจวตะวันตกเลยทีเดียว
นับแต่นั้นมาราชวงศ์โจวตะวันตกก็ขาดความสามารถในการควบคุมแว่นแคว้นต่าง ๆทางตอนใต้ไปโดยสิ้นเชิง แม้ว่าภายหลังโจวมู่หวัง และโจวเซวียนหวัง ก็เคยยกทัพลงใต้ ทว่ายังคงไม่อาจพลิกผันสถานการณ์ใดๆได้มากนัก ชนเผ่าตงอี๋ ที่อยู่ทางทิศตะวันออกก็เริ่มรุกล้ำเข้ามาในชายแดนโจว ทำให้โจวต้องมีการศึกรบติดพันมาโดยตลอด
ครั้งหนึ่ง แคว้นเอ้อ ไม่ยอมส่งบรรณาการให้กับโจว ทั้งยังยกไพร่พลรุกเข้ามาถึงรอบนอกเมืองลั่วอี้ นครหลวงตะวันออก ทำความตื่นตระหนกให้กับบรรดาขุนนางในราชสำนัก โจวเซวียนหวังจัดส่งกองทัพพิทักษ์นครหลวงทั้งสอง เข้าต่อกร แต่ก็ไม่อาจต้านทานไว้ได้ ภายหลังได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากบรรดาเจ้าแคว้นที่อยู่รอบข้าง จึงสามารถเอาชนะได้ในที่สุด
ยังมีพวกเฉวี่ยนหรง ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือก็เป็นศัตรูที่สำคัญที่สุดในยุคโจวตะวันตก ในรัชกาลโจวมู่หวัง พวกเฉวี่ยนหรงเริ่มแข็งแกร่งขึ้น กั้นขวางหนทางการติดต่อของราชวงศ์โจวกับแคว้นต่าง ๆในแถบตะวันตกเฉียงเหนือ ดังนั้น โจวมู่หวังจึงต้องยกกองทัพปราบเฉวี่ยนหรงจนได้ชัยชนะ จึงโยกย้ายชาวเฉวี่ยนหรงจำนวนหนึ่งมาสู่ดินแดนไท่หยวน เปิดเส้นทางติดต่อระหว่างโจวและแคว้นต่าง ๆ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ภายหลังพวกเฉวี่ยนหรงยังคงบุกรุกตามชายแดนโจวอีกหลายครั้ง ต่อมาในรัชสมัยโจวโยวหวัง ซึ่งเป็นบุตรของโจวเซวียนหวัง ลุ่มหลงในตัวนางสนมเปาซื่อ ถึงกับคิดสังหารรัชทายาทอี๋จิ้ว เพื่อแต่งตั้งบุตรชายของนางเปาซื่อนามป๋อฝู เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ เนื่องจากมารดาของอี๋จิ้วเป็นบุตรีของเจ้าแคว้นเซิน เป็นเหตุให้เจ้าแคว้นเซินร่วมมือกับพวกเฉวี่ยนหรงบุกโจมตีโจวตะวันตก สังหารโจวโยวหวัง ณ เชิงเขาหลี่ซาน อีกทั้งฉวยโอกาสปล้นสะดมทรัพย์สินมีค่าภายในเมืองไปจนหมดสิ้น ราชวงศ์โจวตะวันตกจึงถึงกาลล่มสลาย
ฝ่ายอี๋จิ้วที่ได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ก้าวขึ้นครองบัลลังก์ต่อมา ทรงพระนามว่าโจวผิงหวัง ต้องย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองลั่วอี้ (ลั่วหยาง) นครหลวงตะวันออก นับแต่นั้น ประวัติศาสตร์จีนก็เข้าสู่ยุคโจวตะวันออก
แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Zhou http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-4.shtml http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-5.shtml
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »