• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:4b471b0a765e630a607f4f4fa7fad179' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"380\" width=\"380\" src=\"/files/u31712/Ch-B-H.jpg\" border=\"0\" />    \n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/78380\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-G.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72866\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-T.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/74804?page=0%2C0\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-BBC.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/72895\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/76193\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Dy.jpg\" border=\"0\" /></a><br />\n<a href=\"/node/78042\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-N.jpg\" border=\"0\" /></a><a href=\"/node/79404\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Ci.jpg\" border=\"0\" /></a><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-Qu.jpg\" border=\"0\" /><a href=\"/node/79405\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-m.jpg\" border=\"0\" /></a>\n</p>\n</div>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n<strong><span style=\"color: #ff0000\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-O.jpg\" border=\"0\" /></span></strong>\n</p>\n<p><strong><span style=\"color: #ff0000\"></span></strong></p>\n<div align=\"center\">\n<span class=\"PostHeader\"><span style=\"color: #444e32\"><span style=\"color: #ff0000\"><strong> </strong><a href=\"/node/72906\"><strong>ยุคราชวงศ์เซี่ย</strong></a><strong>   <span class=\"PostHeader\"><a href=\"/node/75289\" title=\"ยุคราชวงศ์ซาง\">ยุคราชวงศ์ซาง</a></span></strong>   <span class=\"PostHeader\"><a href=\"/node/75297\" title=\"ยุคราชวงศ์โจว\"><strong>ยุคราชวงศ์โจว</strong></a></span> </span></span></span>\n</div>\n<div align=\"center\">\n<span class=\"PostHeader\"><span style=\"color: #444e32\"><span style=\"color: #ff0000\"></span></span></span>\n</div>\n<p>\n</p></div>\n<p>\n             เมื่อราชวงศ์ซัง (ซาง) สืบทอดอำนาจแทนราชวงศ์เซี่ยแล้ว ก็ถือเป็นยุคสมัยที่สองของประเทศจีนที่มีสืบทอดอำนาจแบบสันตติวงศ์ จากสมัยของรัชสมัยไท่อี่  หรือซังทัง  จนถึง ตี้ซิ่ง  หรือซังโจ้ว ทั้งสิ้น 17 รุ่น 31 รัชกาล รวมระยะเวลา 496 ปี<br />\n            หลังจากที่ซังทังก่อตั้งประเทศแล้ว เนื่องจากได้รับบทเรียนจากการล่มสลายของราชวงศ์เซี่ย จึงเลิกการกดขี่บังคับราษฎรเช่นอย่างในสมัยของเซี่ยเจี๋ย  โดยหันมาใช้หลักเมตตาธรรมในการปกครอง  ทำให้การเมืองภายในของราชวงศ์ซัง (ซาง) ค่อนข้างเป็นไปด้วยดี ไม่ค่อยมีความขัดแย้ง สภาพทางการเมืองค่อนข้างมีเสถียรภาพ กำลังทหารก็เข้มแข็งมากขึ้น จึงเริ่มทำสงครามกับแว่นแคว้นรอบนอก ซึ่งโดยมากก็ประสบชัยชนะ ดังในบันทึกของเมิ่งจื่อ  เมธีแห่งสำนักปรัชญาของขงจื้อ  ระบุไว้ว่า ‘ทังสู่สนามรบโดยไร้ผู้ต่อต้าน \' สะท้อนให้เห็นว่าภายใต้การปกครองของซางทัง <strong>จีนได้กลายเป็นรัฐที่เข้มแข็งทางการทหาร <br />\n</strong>            ในรัชสมัยของซังทังผู้ปกครองพระองค์แรก มีเสนาบดีที่ฉลาดปราดเปรื่องคอยช่วยเหลืออยู่ถึง 2 คน ได้แก่ <strong>อีหยิ่น</strong>  และ<strong>จ้งฮุย</strong>  จากหลักฐานบันทึกว่า พวกเขาทั้งสองมีบทบาททางการเมืองในการบริหารราชการแผ่นดินไม่น้อยทีเดียว โดยหลังจากพวกเขาดำรงตำแหน่งเสนาบดีซ้ายขวาแล้ว ก็มีผลงานดีเด่นในการบริหารบ้านเมือง รักษาความสงบ และพัฒนาการผลิต เป็นต้น หลังจากจ้งฮุยเสียชีวิต บทบาททางการเมืองของอีหยิ่นก็ยิ่งโดดเด่นมากขึ้น จนกลายเป็นเสนาบดีเก่าแก่คนสำคัญในรัชสมัยซังทังจนถึงไท่เจี่ย <br />\n     จากบันทึกประวัติศาสตร์ว่าด้วยชนเผ่ายิน กล่าวว่า “ ไทเจี่ยครองราชย์สามปี ไม่อยู่ในธรรม ไม่เคารพกฎของซังทัง จนถูกอีหยิ่นจับคุมขังไว้ในวังถง 3 ปี จึงรู้สำนึกผิด อีหยิ่นจึงเชิญไท่เจี่ยกลับสู่บัลลังก์ จากนั้น ไท่เจี่ยก็ปกครองแผ่นดินด้วยเมตตาธรรม กระทั่งเหล่าขุนนางยอมสยบ ไพร่ฟ้าอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข นี่เป็นเรื่องเล่าที่แสดงว่า อีหยิ่นเป็นผู้ธำรงการปกครองโดยหลักธรรม ทำให้ราชวงศ์ซัง (ซาง) สามารถปกครองแผ่นดินด้วยความสงบร่มเย็นมาเป็นเวลานาน และได้กลายเป็นเรื่องเล่าขานต่อมา จนทำให้ชื่อเสียงของอีหยิ่น ได้รับการเชิดชูและนำมาใช้เรียก ผู้ที่มีเมตตาธรรมและคุณธรรมสูงส่ง <br />\n        ทว่า การปกครองด้วยการแบ่งชนชั้น ย่อมไม่อาจสลายความละโมบในอำนาจและการแก่งแย่งผลประโยชน์ภายในวังหลวงได้ บันทึกประวัติศาสตร์ของชนเผ่ายิน ระบุไว้ว่า “ นับแต่รัชสมัยจ้งติง  เป็นต้นมา ผู้ปกครองได้ละทิ้งความชอบธรรม แต่งตั้งเชิดชูแต่พวกพ้อง เหล่าญาติมิตรต่างพากันแบ่งฝักฝ่ายเพื่อแย่งชิงอำนาจ เกิดความวุ่นวายไม่หยุดหย่อน เป็นเหตุให้เหล่าขุนนางกบฏก่อศึกล้มล้างราชบัลลังก์ ”<br />\n            จากสมัยจ้งติงจนถึงผานเกิง  นับได้ 9 ชั่วรุ่น เต็มไปด้วยการแย่งชิงบัลลังก์ภายในราชวงศ์ซัง (ซาง) อันเป็นต้นเหตุแห่งการล่มสลายของราชวงศ์ และท่ามกลางความวุ่นวายในช่วงนี้ ก็ได้มีการย้ายเมืองหลวงอยู่บ่อยครั้ง<br />\n         มีหลักฐานระบุว่า ในสมัยราชวงศ์ซัง (ซาง) มีการย้ายเมืองหลวงถึง 5 ครั้ง ได้แก่ รัชสมัยจ้งติงย้ายจากเมือง<strong>ป๋อ</strong> ไปเมือง<strong>อ๋าว</strong>  รัชสมัยเหอตั้นเจี่ยย้ายจากอ๋าวไปเมือง<strong>เซี่ยง</strong>  รัชสมัยจู่อี่ย้ายไปเมือง<strong>ปี้</strong> รัชสมัยหนันเกิงย้ายไปเมือง<strong>อั่น</strong> และรัชสมัยผานเกิงย้ายจากเมืองอั่นไปเมือง<strong>เป่ยเหมิง</strong>หรือเมืองยิน<br />\n            ทว่าในปัจจุบัน นักโบราณคดียังค้นพบหลักฐานยืนยันทางประวัติศาสตร์ของสมัยซัง (ซาง) เพียง4แห่ง ได้แก่ ร่องรอยโบราณสถานเอ้อหลี่โถว  ที่เมืองเหยี่ยนซือ เมืองซางโบราณที่เมืองเจิ้นโจวและเมืองเหยี่ยนซือ อีกทั้งซากเมืองยินโบราณที่อันหยางเท่านั้น ร่องรอยของนครโบราณที่ค้นพบมีอาณาบริเวณที่กว้างขวางมาก โดยมีพื้นที่เฉลี่ยมากกว่า 30,0000 – 40,000 ตารางเมตร สำหรับซากทางโบราณคดีที่ขุดพบได้แก่ ร่องรอยของฐานรากพระราชวัง สุสานและโรงงานหัตถกรรม เป็นต้น ในบริเวณซากเมืองโบราณเอ้อหลี่โถว ยังพบร่องรอยพระราชวังครอบคลุมพื้นที่ถึง 10,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ ที่เมืองเหยี่ยนซือและเจิ้งโจวยังค้นพบกำแพงเมืองขนาดใหญ่ สำหรับซากเมืองยินที่เมืองอันหยาง ก็พบลานบูชาเทพเจ้าขนาดมหึมาในบริเวณสุสานกษัตริย์อีกด้วย \n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"/node/70565\"><img height=\"50\" width=\"125\" src=\"/files/u31712/Banner-Ch-H.jpg\" border=\"0\" /></a> \n</p>\n<p>\nแหล่งอ้างอิง <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Shang\">http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Shang</a> <a href=\"http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Shang\">http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Shang</a>\n</p>\n', created = 1728291598, expire = 1728377998, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:4b471b0a765e630a607f4f4fa7fad179' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ยุคราชวงศ์ซาง

รูปภาพของ sss27520

             เมื่อราชวงศ์ซัง (ซาง) สืบทอดอำนาจแทนราชวงศ์เซี่ยแล้ว ก็ถือเป็นยุคสมัยที่สองของประเทศจีนที่มีสืบทอดอำนาจแบบสันตติวงศ์ จากสมัยของรัชสมัยไท่อี่  หรือซังทัง  จนถึง ตี้ซิ่ง  หรือซังโจ้ว ทั้งสิ้น 17 รุ่น 31 รัชกาล รวมระยะเวลา 496 ปี
            หลังจากที่ซังทังก่อตั้งประเทศแล้ว เนื่องจากได้รับบทเรียนจากการล่มสลายของราชวงศ์เซี่ย จึงเลิกการกดขี่บังคับราษฎรเช่นอย่างในสมัยของเซี่ยเจี๋ย  โดยหันมาใช้หลักเมตตาธรรมในการปกครอง  ทำให้การเมืองภายในของราชวงศ์ซัง (ซาง) ค่อนข้างเป็นไปด้วยดี ไม่ค่อยมีความขัดแย้ง สภาพทางการเมืองค่อนข้างมีเสถียรภาพ กำลังทหารก็เข้มแข็งมากขึ้น จึงเริ่มทำสงครามกับแว่นแคว้นรอบนอก ซึ่งโดยมากก็ประสบชัยชนะ ดังในบันทึกของเมิ่งจื่อ  เมธีแห่งสำนักปรัชญาของขงจื้อ  ระบุไว้ว่า ‘ทังสู่สนามรบโดยไร้ผู้ต่อต้าน ' สะท้อนให้เห็นว่าภายใต้การปกครองของซางทัง จีนได้กลายเป็นรัฐที่เข้มแข็งทางการทหาร
            ในรัชสมัยของซังทังผู้ปกครองพระองค์แรก มีเสนาบดีที่ฉลาดปราดเปรื่องคอยช่วยเหลืออยู่ถึง 2 คน ได้แก่ อีหยิ่น  และจ้งฮุย  จากหลักฐานบันทึกว่า พวกเขาทั้งสองมีบทบาททางการเมืองในการบริหารราชการแผ่นดินไม่น้อยทีเดียว โดยหลังจากพวกเขาดำรงตำแหน่งเสนาบดีซ้ายขวาแล้ว ก็มีผลงานดีเด่นในการบริหารบ้านเมือง รักษาความสงบ และพัฒนาการผลิต เป็นต้น หลังจากจ้งฮุยเสียชีวิต บทบาททางการเมืองของอีหยิ่นก็ยิ่งโดดเด่นมากขึ้น จนกลายเป็นเสนาบดีเก่าแก่คนสำคัญในรัชสมัยซังทังจนถึงไท่เจี่ย
     จากบันทึกประวัติศาสตร์ว่าด้วยชนเผ่ายิน กล่าวว่า “ ไทเจี่ยครองราชย์สามปี ไม่อยู่ในธรรม ไม่เคารพกฎของซังทัง จนถูกอีหยิ่นจับคุมขังไว้ในวังถง 3 ปี จึงรู้สำนึกผิด อีหยิ่นจึงเชิญไท่เจี่ยกลับสู่บัลลังก์ จากนั้น ไท่เจี่ยก็ปกครองแผ่นดินด้วยเมตตาธรรม กระทั่งเหล่าขุนนางยอมสยบ ไพร่ฟ้าอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข นี่เป็นเรื่องเล่าที่แสดงว่า อีหยิ่นเป็นผู้ธำรงการปกครองโดยหลักธรรม ทำให้ราชวงศ์ซัง (ซาง) สามารถปกครองแผ่นดินด้วยความสงบร่มเย็นมาเป็นเวลานาน และได้กลายเป็นเรื่องเล่าขานต่อมา จนทำให้ชื่อเสียงของอีหยิ่น ได้รับการเชิดชูและนำมาใช้เรียก ผู้ที่มีเมตตาธรรมและคุณธรรมสูงส่ง
        ทว่า การปกครองด้วยการแบ่งชนชั้น ย่อมไม่อาจสลายความละโมบในอำนาจและการแก่งแย่งผลประโยชน์ภายในวังหลวงได้ บันทึกประวัติศาสตร์ของชนเผ่ายิน ระบุไว้ว่า “ นับแต่รัชสมัยจ้งติง  เป็นต้นมา ผู้ปกครองได้ละทิ้งความชอบธรรม แต่งตั้งเชิดชูแต่พวกพ้อง เหล่าญาติมิตรต่างพากันแบ่งฝักฝ่ายเพื่อแย่งชิงอำนาจ เกิดความวุ่นวายไม่หยุดหย่อน เป็นเหตุให้เหล่าขุนนางกบฏก่อศึกล้มล้างราชบัลลังก์ ”
            จากสมัยจ้งติงจนถึงผานเกิง  นับได้ 9 ชั่วรุ่น เต็มไปด้วยการแย่งชิงบัลลังก์ภายในราชวงศ์ซัง (ซาง) อันเป็นต้นเหตุแห่งการล่มสลายของราชวงศ์ และท่ามกลางความวุ่นวายในช่วงนี้ ก็ได้มีการย้ายเมืองหลวงอยู่บ่อยครั้ง
         มีหลักฐานระบุว่า ในสมัยราชวงศ์ซัง (ซาง) มีการย้ายเมืองหลวงถึง 5 ครั้ง ได้แก่ รัชสมัยจ้งติงย้ายจากเมืองป๋อ ไปเมืองอ๋าว  รัชสมัยเหอตั้นเจี่ยย้ายจากอ๋าวไปเมืองเซี่ยง  รัชสมัยจู่อี่ย้ายไปเมืองปี้ รัชสมัยหนันเกิงย้ายไปเมืองอั่น และรัชสมัยผานเกิงย้ายจากเมืองอั่นไปเมืองเป่ยเหมิงหรือเมืองยิน
            ทว่าในปัจจุบัน นักโบราณคดียังค้นพบหลักฐานยืนยันทางประวัติศาสตร์ของสมัยซัง (ซาง) เพียง4แห่ง ได้แก่ ร่องรอยโบราณสถานเอ้อหลี่โถว  ที่เมืองเหยี่ยนซือ เมืองซางโบราณที่เมืองเจิ้นโจวและเมืองเหยี่ยนซือ อีกทั้งซากเมืองยินโบราณที่อันหยางเท่านั้น ร่องรอยของนครโบราณที่ค้นพบมีอาณาบริเวณที่กว้างขวางมาก โดยมีพื้นที่เฉลี่ยมากกว่า 30,0000 – 40,000 ตารางเมตร สำหรับซากทางโบราณคดีที่ขุดพบได้แก่ ร่องรอยของฐานรากพระราชวัง สุสานและโรงงานหัตถกรรม เป็นต้น ในบริเวณซากเมืองโบราณเอ้อหลี่โถว ยังพบร่องรอยพระราชวังครอบคลุมพื้นที่ถึง 10,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ ที่เมืองเหยี่ยนซือและเจิ้งโจวยังค้นพบกำแพงเมืองขนาดใหญ่ สำหรับซากเมืองยินที่เมืองอันหยาง ก็พบลานบูชาเทพเจ้าขนาดมหึมาในบริเวณสุสานกษัตริย์อีกด้วย 

 

แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Shang http://www.thaichinese.net/History/Ancient/ancient.html#Shang

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 354 คน กำลังออนไลน์