user warning: Duplicate entry '536306482' for key 'PRIMARY' query: INSERT INTO accesslog (title, path, url, hostname, uid, sid, timer, timestamp) values('พื้นที่ผิวและปริมาตร ม.3', 'node/60326', '', '18.224.62.105', 0, '6d9148a1bcb11ef7c36df49e05dd45e1', 154, 1716063652) in /home/tgv/htdocs/modules/statistics/statistics.module on line 63.

กรุงรัตนโกสินทร์ตอนกลาง

รูปภาพของ sss27857
 

ยุคปฏิรูปประเทศ

ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม

ขนบธรรมเนียมประเพณี

• รัชกาลที่ 4

     การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประเพณี วัฒนธรรมของชาติให้เป็นแบบอารยประเทศ ได้เริ่มตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกาลเวลาและเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรในเวลาเดียวกันด้วย เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มที่ราชสำนักก่อน แล้วจึงขยายไปสู่ระดับประชาชน แต่ผลกระทบของการรับประเพณีวัฒนธรรมแบบตะวันตกบางอย่างก็เห็นชัดเฉพาะในเมืองหลวงเท่านั้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่ตามหัวเมือง และในชนบทยังคงยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม

     นับแต่ต้นรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนแปลงประเพณีเดิมเป็นแบบตะวันตกหลายประการ คือ มีประกาศให้ข้าราชการสวมเสื้อเวลาเข้าเฝ้า ให้ชาวตะวันตกที่อยู่ในกรุงเทพฯ เข้าเฝ้าขณะเสด็จออกมหาสมาคมพร้อมกับข้าราชการไทยเป็นครั้งแรก ให้ชาวต่างประเทศถวายคำนับและนั่งเก้าอี้เวลาเข้าเฝ้าได้ ให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการนับถือศาสนาและการประกอบอาชีพ ในด้านสิทธิเสรีภาพของสตรีรัชกาลที่ 4 ทรงพยายามยกฐานะของสตรีให้ดีขึ้น สำหรับข้าราชการฝ่ายในที่ไม่สมัครใจจะอยู่ในวังต่อไป ก็ทรงอนุญาตให้ลาออกจากราชการได้ ทรงริเริ่มให้สตรีในราชสำนักได้มีโอกาสเล่าเรียนวิชาภาษาอังกฤษจากสตรีในคณะมิชชันนารีอเมริกัน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดทางการศึกษาของสตรีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นอกจากนี้ยังทรงเริ่มใช้ชาวต่างประเทศเป็นข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ เพื่อปรับปรุงประเทศเป็นแบบตะวันตกด้วย

• รัชกาลที่ 5

     ประเพณี วัฒนธรรมของไทยได้มีการแก้ไขปรับปรุงครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเสด็จประพาสต่างประเทศทั้งในเอเชียและยุโรป คือให้ผู้ชายไทยในราชสำนักเลิกไว้ผมทรงมหาดไทยเปลี่ยนเป็นไว้ผมยาวทั้งศีรษะอย่างฝรั่ง ส่วนผู้หญิงให้เลิกไว้ผมปีก ให้ไว้ผมตัดยาวทรงดอกกระทุ่ม ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างออกแบบตัดแปลงจากเสื้อนอกของฝรั่งเรียกว่า “เสื้อราชประแตน” และสวมหมวกอย่างยุโรป ให้ข้าราชการทหารแต่งเครื่องแบบ นุ่งกางเกงอย่างทหารยุโรป แทนการนุ่งโจงกระเบนแบบเก่า


เสื้อราชประแตน
http://static.weloveshopping.com/shop/www.alekfashion.com/TO5001.jpg ]
 


     รัชกาลที่ 5 ทรงแก้ไขประเพณีการสืบราชสันตติวงศ์ ยกเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลใน พ.ศ.2429 โปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งตำแหน่ง “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” ตาแบบประเทศตะวันตก ที่เรียกองค์รัชทายาทว่า “Crown Prince”

     รัชกาลที่ 5 ทรงยกเลิกประเพณีวัฒนธรรมที่ล้าสมัย ไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน ที่สำคัญคือ เลิกประเพณีหมอบคลานเข้าเฝ้าและให้ยืนเข้าเฝ้าแทน ยกเลิกการโกนผมเมื่อพระมหากษัตริย์สวรรคต คงให้มีการไว้ทุกข์เพียงอย่างเดียว เปลี่ยนวิธีการไต่สวนของตุลาการแบบเก่า ยกเลิกจารีตนครบาล เพราะเป็นวิธีลงโทษที่ชาวตะวันตกรังเกียจทารุณไร้อารยธรรม พระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของรัชกาลที่ 5 ในการเปลี่ยนแปลงประเพณีและวัฒนธรรมของไทยให้เป็นไปตามคตินิยมตะวันตก คือ การเลิกทาสและเลิกระบบไพร่ อันเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแก่ประชาราษฎรโดยตรง

• รัชกาลที่ 6

     ในสมัยรัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ พระราชบัญญัตินามสกุล พ.ศ.2455 ให้ใช้พุทธศักราช (พ.ศ.) เป็นศักราชทางราชการ พ.ศ.2456 แทนการใช้รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) เพราะเป็นศักราชทางศาสนาที่ชาวไทยนับถือพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกับประเทศตะวันตกที่ใช้ศักราชของศาสนาที่ชนส่วนใหญ่นับถือคริสต์ศักราช (ค.ศ.) และเปลี่ยนแปลงการนับเวลาทางราชการเสียใหม่ให้สอดคล้องกับสากลนิยม โดยถือเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นเวลาเปลี่ยนวันใหม่ กำหนดคำนำหน้าสตรีที่ยังเป็นโสดว่า “นางสาง” ผู้ที่มีสามีแล้ว ใช้คำว่า “นาง” และกำหนดคำนำหน้านามเด็กว่า “เด็กชาย” และ “เด็กหญิง” ขึ้นด้วย
     นอกจากนี้เมื่อไทยส่งกองทหารอาสาไปสมทบกับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในยุโรป พ.ศ. 2460 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯให้ประดิษฐ์ธงชาติขึ้นใหม่ใช้ 3 สี คือ สีน้ำเงิน สีขาว และสีแดง ตามแบบสีธงชาติของอารยประเทศส่วนใหญ่ใช้กันอยู่ และพระราทานนามธงชาติแบบสามสีห้าริ้วที่ประกาศใช้ขึ้นใหม่ว่า “ธงไตรรงค์” ซึ่งยังคงใช้เป็นประจำชาติมาจนทุกวันนี้ 

     พ.ศ.2461 โปรดเกล้าฯ ให้ตรากฎหมายเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ ตามแบบประเทศยุโรปที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  วางลำดับผู้ที่จะทรงได้ราชสมบัติไว้โดยละเอียด

     ในด้านการแต่งกาย การเปลี่ยนแปลงการแต่งกายแบบตะวันตก ส่วนใหญ่เป็นไปเฉพาะราชสำนักและในหมู่ข้าราชการชั้นสูงเท่านั้น

 

วรรณกรรรมและศิลปกรรรม

• วรรณกรรม

     1. สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นทั้งกวี มีความสามารถในด้านศาสนา โบราณคดี โหราศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
     กวีและวรรณกรรมที่สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 4 มีดังนี้
                                1) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพระรามเดินดง ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก ประกาศและพระบรมราชาธิบายต่างๆ
                                2) หม่อมราโชทัย ได้แก่ จดหมายเหตุของหม่อมราโชทัย นิราลอนลอน

     2. สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยนี้มีการปรับปรุงบ้านเมืองหลายอย่างที่ช่วยสนับสนุนให้งานวรรณกรรมก้าวหน้า คือ การตั้งโรงเรียน การพิมพ์หนังสือ การตั้งหอสมุดแห่งชาติและเกิดโบราณคดีสโมสรที่ช่วยส่งเสริมงานด้านการประพันธ์ การศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดี ประกอบกับได้รับอารยธรรมตะวันตกเผยแพร่เข้ามาอีกด้วย
    
กวีและวรรณกรรมที่สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5 มีดังนี้
                                1) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์พระราชพิธีสิบสองเดือน ไกลบ้าน พระราชวิจารณ์ทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี ลิลิตนิทราชาคริต บทละครเรื่องเงาะป่า กวีนิพนธ์เบ็ดเตล็ด
                                2) พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้แก่ แบบเรียนภาษาไทย 6 เล่ม

     3. สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นระยะที่วรรณกรรมได้รับอิทธิพลของตะวันตกมากที่สุด วรรณกรรมทั้งร้อยแก้วและร้องกรองเจริญถึงขีดสุด ทรงพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์และพระราชทานเสรีภาพในการประพันธ์อย่างกว้างขวาง และยังทรงตั้งวรรณคดีสโมสรขึ้น เพื่อส่งเสริมการแต่งหนังสือไทยให้ดีขึ้น
     กวีและวรรณกรรมที่สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 6 มีดังนี้
                                1) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วรรณกรรมที่ทรงพระราชนิพนธ์ ได้แก่
                                    ประวัติศาสตร์และโบราณคดี เช่น เที่ยวเมืองพระร่วง สงครามสืบราชสมบัติโปแลนด์ เที่ยวเมืองไอยคุปต์ นารายณ์สิบปาง ตำนานชาติฮั่น 
                                    บทละคร มีอยู่หลายเรื่อง เช่น หัวใจนักรบ มัทนะพาธา พระร่วง วิวาห์พระสมุทร ความเสียสละ เวนิสวานิช ตามใจท่าน เห็นแก่ลูก ท้าวแสนปม ศกุนตลา ฯลฯ


เวนิชวานิช
http://www.suksapunkalasin.net/images/PRODUCT2882553144811.jpg ]
 


                                    ปาฐกถาและบทความ เช่น เทศนาเสือป่า ปลุกใจเสือป่า ยิวแห่งบูรพาทิศ โคลนติดล้อ  
                                    ร้อยกรอง เช่น พระนลคำหลวง ลิลิตพายัพ นิราศพระมะเหลเถไถ กาพย์เห่เรือ มงคลสูตรคำฉันท์
                                    สารคดี เช่น บ่อเกิดรายเกียรติ์
                                2) สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชนุภาพ ทรงนิพนธ์หลายเรื่อง เช่น ไทยรับพม่า นิราศนครวัด เที่ยวเมืองพม่า นิทานโบราณคดี เสด็จประพาสต้น จดหมายเหตุ เป็นต้น
                                3) กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เรื่องเด่นๆ ที่นิพนธ์ เช่น จดหมายจางวางหร่ำ ตลาดเงินตรา นิทานเวตาล พระนางฮองไทเฮา กนกนคร พระนลคำฉันท์ เป็นต้น
                                4) พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนชีวะ) ได้แก่ ตำราไวยากรณ์ อักขรวิธี วจีวิภาค วายกสัมพันธ์ ฉันทลักษณ์ สงครามภารตะคำกลอน รำพึงในป่าช้า
                            หลังรัชกาลที่ 6 วรรณประเภทร้อยแก้วเจริญขึ้นมาก เช่น นวนิกาย เรื่องสั้น บทความและสารคดี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากยุโรป มีการแปลวรรณคดีและเรียบเรียงวรรณคดีของต่างประเทศหลายเรื่อง เช่น สาวเครือฟ้า ละครเรื่องเจ้าหญิงแสนหวี ของหลวงวิจิตรวาทการ สี่แผ่นดินของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นต้น


สี่แผ่นดิน
http://www.numtan.com/nineboard/picupreply/483-36-1058174565.jpg ]


• ศิลปกรรม

     1. สมัยรัชกาลที่ 4
                                1) ด้านสถาปัตยกรรม เริ่มนิยมตามแบบตะวันตก เช่น พระราชวังสราญรมย์ สถาปัตยกรรมแบบไทย เช่น ปราสาทพระเทพบิดร เจดีย์สำคัญ เช่น พระปฐมเจดีย์ พระมหาเจดีย์ในวัดพระเชตุพนฯ พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) พระสมุทรเจดีย์ เป็นต้น

 
พระปฐมเจดีย์
http://www.dhammathai.org/watthai/central/pic/watphrapathomchedi1.jpg ]


                                2) ด้านจิตรกรรม เช่น ภาพเขียนฝาผนังในพระอุโบสถและวิหารวัดบวรนิเวศวิหาร ภาพเหมือนพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฝีมือขรัวอินโข่ง

     2. สมัยรัชกาลที่ 5
                                1) ด้านสถาปัตยกรรม ได้รับอิทธิพลของตะวันตกมากขึ้น เช่น พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งอนันตสมาคม พระรามราชนิเวศน์ จังหวัดเพชรบุรี ศาลว่าการกระทรวงกลาโหม วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
                                สถาปัตยกรรมแบบไทย เช่น วัดเบญจมบพิตรฯ วัดราชบพิตร วัดเทพศิรินทราวาส พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระราชวังบางประอิน อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
                                2) ด้านประติมากรรม เช่น พระพุทธชิราชจำลอง พระสัมพุทธพรรณี พระบรมรูป เช่น พระบรมรูปหล่อพระมหากษัตริย์ 4 รัชกาล ในปราสาทพระเทพบิดร พระบรมรูปทรงม้า


พระบรมรูปทรงม้า
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/555/10555/images/112/214267721.jpg ]


                                3) ด้านนาฏกรรม เกิดละครแบบใหม่ เช่น ละครพันทาง ละครดึกดำบรรพ์ ละครร้อง ละครพูด
                                4) ด้านจิตรกรรม เช่น ภาพเขียนเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ในอุโบสถวัดราชาธิวาส

     3. สมัยรัชกาลที่ 6
                                1) ด้านสถาปัตยกรรมสร้างตามแบบไทย เช่น หอประชุมโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ตึกคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อนุสาวรีย์ทหารอาสา
                                สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก เช่น พระราชวังสนามจันทร์ พระราชวังพญาไท (ปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า)
                                2) ด้านจิตรกรรม เช่น ภาพเขียนผนังวิหารทิศที่พระปฐมเจดีย์ ภาพเขียนที่ผังพระที่นั่งอนันตสมาคม
                                3) ด้านประติมากรรม เช่น พระแก้วมรกตน้อย พระนิพพาน แม่พระธรณีบีบมวยผม รูปปั้นหล่อด้วยปูนและโลหะ บริเวณพระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งอัมพรสถาน พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
                                4) ด้านนาฏกรรม ในสมัยนี้ศิลปะด้านโขนและละครและดนตรีเจริญที่สุด มีการตั้งโรงเรียนหลวงสอนด้านนาฏศิลป์ ตั้งคณะละคร สร้างโรงละคร ทรงพระราชนิพนธ์บทละครพูด ฝึกหัดประชาชนทั่วไปให้เล่นโขน มีทั้งโขนสมัครเล่น โขนบรรดาศักดิ์และโขนเชลยศักดิ์

แหล่งอ้างอิง

http://www.bp-smakom.org/BP_School/Social/King/History-R4-6.htm

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 252 คน กำลังออนไลน์