นิทานพื้นบ้าน
นิทานล้านนา เรื่อง กบกินเดือน
ที่มา http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/487/25487/images/moon9.jpg
ในสมัยก่อนพระเจ้าเหา มีครอบครัวหนึ่ง ได้ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมือง ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน ๔ คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาวสองคน ในสมัยนั้นถ้าครอบครัวหไหนมีลูกสาวก็จะกได้รับการอบรมเรื่องภายในบ้านเกี่ยว กับการเป็นแม่บ้านที่ดี
เช่น การจัดการบ้านการเรือน ความประพฤติ กิริยามารยาท ตลอดจนการทำอาหาร และในครอบครัวนี้ก็ได้อบรมในเรื่องต่าง ๆ
ตามธรรมเนียมประเพณีต่อมาไม่นานทั้งสองคนก็สามารถที่จะทำได้อย่างชำนาญ
วันหนึ่งพ่อแม่บอกให้ลูกสาวทั้งสองคนไปทำอาหารเพื่อจะได้ทดสอบดูฝีมือ ทั้งสองคนก็เข้าไปในครัว
แล้วช่วยกันทำอาหารจนเสร็จ แต่ในตอนท้ายทั้ง ๒ คน ก็ทดลองชิมดูรสอาหารที่ได้ทำมาแต่ด้วยรสอาหาร
ไม่ถูกปากซึ่งกันและกัน ทั้งสองจึงโต้เถียงกันจนอดกลั้นไม่ไหว คนพี่จึงเอาทัพพี ( ป้าก ) ฟาดหน้าน้องสาว
ส่วนน้องสาวก็เอาสาก ( ไม้ตีพริก ) ฟาดหน้าพี่สาวตัวเอง ต่อสู้กันจนตายคาที่
เมื่อทั้งสองตายไปแล้ว ยมบาลได้นำเอาวิญญาณของทั้งสองไปพิพากษาและตัดสินว่า “ ทั้งสองนี้ทำการอันน่าบัดสีมาก สมควรจะได้ตกนรกทั้ง ๗ ชั้น ‘’ เมื่อตกนรกไปแล้วก็ให้คนพี่ไปเกิดเป็นเดือน ส่วนคนน้องไปเกิดเป็นกบ
เมื่อทั้งสองไปเกิดเป็นเดือนและกบ ก็ยังอาฆาตกันอยู่อีก เมื่อตอนกลางคืนได้มีโอกาสพบกันเข้าอีก ความอาฆาตแค้นก็เกิดขึ้น คนน้องจึงได้อ้าปากคาบเดือนคนพี่ไว้ดังที่เราได้เห็นอยู่นั้น
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
นิทานเรื่องนี้ทำให้เราทราบถึงในสมัยก่อน ๆ มีขนบธรรมเนียมเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
ไม่ควรเอาอย่างเพราะความอาฆาตแค้น และมีความเชื่อว่าตายแล้วขึ้นสวรรค์ได้ตกนรกได้
เป็นการสอนให้คนทำความดีไม่กล้าทำความชั่ว
ที่มา http://xn--o3cdbaaf0a2nen1byqc.whitemedia.org/13/