โลก ดาราศาสตร์ และ อวกาศ
แร่ (Minerals)
แร่(Minerals) เป็นสารประกอบอนินทรีย์ หรือ ธาตุที่เกิดโดยธรรมชาติ รวมทั้งสารประกอบอินทรีย์บางอย่าง เช่น ถ่านหินและน้ำมันด้วย ถ้าจะให้ละเอียดยิ่งขึ้นก็กล่าวได้ว่า แร่มีส่วนประกอบทางเคมีซึ่งเขียนสูตรเคมีแทนได้ และมีคุณสมบัติทางเคมี ทางฟิสิกส์ และทางแสงเฉพาะตัว จะเปลี่ยนแปลงบ้างก็อยู่ในขอบเขตจำกัด ลักษณะของแร่นั้น จะเห็นว่าเป็นสารที่มีเนื้อเดียวกัน (Homogeneous Substanece) แต่ที่กล่าวว่ามีส่วนประกอบทางเคมีและเขียนสูตรทางเคมีและเขียนสูตรเคมีแทนได้นั้น อธิบายได้ง่ายๆ เช่น ที่เราเรียกตะกั่ว กาลีนานั้น ประกอบด้วยธาตุ 2 ธาตุ คือ ธาตุตะกั่ว ใช้สุญทางเคมี Pb กับธาตุกำมะกัน สัญลักษณ์ทางเคมี S เมื่ออยู่ในสภาพตะกั่วกาลีกามีสูตรเป็น PDS ซึ่งต้องนำมาถลุงไล่กำมะถันออกไปจึงจะได้โลหะตะกั่ว ดังนี้เป็นต้นแร่อื่นๆก็เช่นเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยธาตุเพียงธาตุเดียว เช่น แร่ทองแดง (Au) เพชร (C) ฯลฯ หรือแร่อาจจะประกอบด้วยธาตุ 3 ธาตุก็มี ที่ประกอบด้วยธาตุมากกว่านี้ก็มี อันจะได้กล่าวต่อไป สำหรับคุณสมบัติทางเคมีนั้น หมายถึง การที่มีแร่ปฏิกิริยาเป็นฟองฟู่กับกรดเกลือ เป็นต้น นอกจากนั้น แร่ยังให้สีของเปลวไฟเมื่อถูกกับเปลวไฟ แต่จะเป็นสีอะไรนั้น แล้วแต่ว่าแร่นั้นจะมีธาตุอะไรประกอบอยู่ เช่น ถ้ามีแคลเซียมจะให้เปลวสีอิฐ เป็นต้น ส่วนคุณสมบัติทางฟิสิกส์ หมายถึงลักษณะต่างๆ ของแร่ เช่น รูปร่างสี รอยแตก ความแข็ง ความเหนียว น้ำหนัก ความวาว และอื่นๆ คุณสมบัติ ทางฟิสิกส์ต่างๆ เหล่านี้มีประโยชน์มาก เพราะสามารถนำไปตรวจสอบแร่ได้อย่างง่ายๆ
แร่ หมายถึง ธาตุหรือสารประกอบอนินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่พบได้ทั้งในดิน ในหิน ในน้ำและในอากาศ แร่ที่พบในลักษณะที่เป็นธาตุ ได้แก่ ทองคำ ทองคำขาว และเงิน ส่วนใหญ่แล้วจะพบในรูปของสารประกอบอนินทรีย์ เช่น สารประกอบออกไซด์ ( มีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบอยู่ ) สารประกอบซัลไฟด์ ( มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย ) และสารประกอบคาร์บอเนต
แร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป (exhausting natural resources ) มนุษย์รู้จักนำแร่มาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตในทุกยุคทุกสมัย เช่น ใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนใช้ผลิตเครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องจักร เครื่องยนต์ ยวดยานพาหนะ อาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องอำนวยความสะดวกสบาย เช่น ส่วนประกอบของสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ใช้ทำอุปกรณ์ไฟฟ้า ใช้ทำโลหะผสม ใช้ทำเครื่องประดับ เช่น เชื้อเพลิงให้ความร้อน เป็นต้น
แร่ต่าง ๆ มีลักษณะการกำเนิดแตกต่างกัน เช่น เกิดจากการเย็นตัวของหินหนืด ( magma ) ที่ร้อนและหลอมเหลวอยู่ภาคใต้เปลือกโลก หรือเกิดจากปฏิกิริยาเคมีของธาตุหรือสารประกอบใต้ความกดดันและอุณหภูมิที่พอเหมาะ หรือเกิดจากการละลายของน้ำร้อนหรือก๊าซร้อน เช่น บริเวณใต้ปล่องภูเขาไฟหรือบ่อน้ำพุร้อน น้ำร้อนเหล่านี้จะละลายแร่ธาตุต่างๆ เมื่อน้ำร้อนเย็นตัวลงแร่จะตกผลึกกลายเป็นสายแร่ แทรกตัวอยู่ตามรอยแตกหรือช่องว่างในหิน แร่บางชนิดใช้เวลาในการเกิดเป็นแสน ๆ ปี หรือล้านปี ภายใต้อิทธิพลของความร้อนและความดัน
แร่ หมายถึง สารเคมีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ประกอบด้วยธาตุหรือสารประกอบซึ่งเป็นของแข็ง มีลักษณะเป็นผลึก เกิดขึ้นจากวิธีการทางอนินทรียเคมีตามธรรมชาติ สมบัติทางกายภาพของแร่ ได้แก่ รูปผลึก แนวแตก สี ความแข็ง สีผงละเอียด ความวาว และความหนาแน่นสัมพัทธ์ แร่บางชนิดแม่เหล็กดูดติด บางชนิดก็นำไฟฟ้าได้
ประเทศไทยมีทรัพยากรหินและแร่กระจายอยู่ทุกภาคของประเทศ ทรัพยากรหินประเภทหินอัคนี หินตะกอน และหินแปรนั้นมีพบเป็นแหล่งๆ โดยที่หินอัคนีมักเป็นหินที่ดันแทรกตัวขึ้นมา มีปะปนอยู่กับหินปูนและหินตะกอนซึ่งมีอยู่ทั่วไป ประเทศไทยมีแหล่งแร่อยู่ในบางจังหวัด แร่ที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ แร่ดีบุก รองลงมาคือ ยิปซัม ตะกั่ว และสังกะสี ส่วนแร่เงิน ทองคำ และอัญมณีมีอยู่ไม่มากนัก
สวดยอดดดดดดดดดค่ะ55555555
อยากเก่งวิทยาศาสตร์จัง