พระราชประวัติสมเด็จย่า 2

รูปภาพของ sss28433
 
 

         สมเด็จย่าทรงเข้าศึกษาวิชาพยาบาลที่โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราชเมื่อ พ.ศ. 2456 ซึ่งขณะนั้นสมเด็จย่าอายุยังไม่ครบ 13 พรรษาบริบูรณ์ ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ระบุไว้ถึง 2 ปีแต่เนื่องจากมีความสามารถเกินวัย จัดได้ว่าเป็นนักเรียนที่อายุน้อยที่สุดในรุ่น สมเด็จย่าทรงเป็นนักเรียนประเภทนักเรียนหลวง
คือ ผู้ที่สมัครเข้าเรียนโดยขอรับเงินบำรุงเดือนละ
15 บาท
และมีข้อผูกพันว่าเมื่อสำเร็จสอบได้ประกาศนียบัตรแล้วต้องทำงานเกี่ยวข้องกับโรงเรียนไม่น้อยกว่า
3 ปี ทรงเรียนจบหลักสูตรใน พ.ศ. 2459 และทรงทำงานต่อที่โรงพยาบาลศิริราช ในปี พ.ศ. 2460 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ ซึ่งขณะนั้นกำลังทรงศึกษาวิชาแพทย์ปีที่
1 อยู่ที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
พระราชทานทุนแก่นักเรียนแพทย์
2 คน
และสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชทานทุนแก่นักเรียนพยาบาล
2 คน ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกก็คือ นางสาวอุบล  ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
และ สมเด็จย่า
ในระยะเวลา 6 เดือน
ทรงศึกษาภาษาอังกฤษกับอาจารย์ใหญ่โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง เป็นสตรีชาวอเมริกันชื่อ
มิสเอ็ดนา ซาราห์โคล
ในการที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
จำเป็นต้องมีนามสกุลใช้ในหนังสือเดินทาง เมื่อพระชนกชูถึงแก่กรรม
ไม่มีผู้ใหญ่ฝ่ายชายที่จะไปจดทะเบียนนามสกุล
พระองค์จึงทรงใช้นามสกุลของขุนสงขลานครินทร์ (หลี  ตะละภัฏ) 
ในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา
สมเด็จย่าเสด็จโดยสารเรือ
กัวลาเมื่อวัน
ที่
23 สิงหาคม พ.ศ. 2460 พร้อมคณะนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น
18 คน ใช้เวลาเดินทาง 6 สัปดาห์
จึงเสด็จถึงนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย 
สมเด็จย่าได้ไปพำนักอยู่กับครอบครัว
นายแพทย์ อดัม เสน เป็นเวลาเกือบ
1 ปี
ได้เสด็จไปศึกษาที่โรงเรียนประถมเอเมอร์สันพร้อมกับ นางสาวอุบล
และทุกวันอาทิตย์พระองค์จะเสด็จเข้าโรงเรียนของคริสต์ศาสนา 
ต่อมาใน พ.ศ. 2461 สมเด็จย่า และ นางสาวอุบล ได้ร่วมสมทบกับคณะนักเรียนไทยอีก 8 คน เดินทางไปยังเมืองบอสตันรัฐแมสซาซูเซต โดยรถไฟใน
วันที่
21 กันยายน
พ.ศ.
2461 สมเด็จพระบรมราชชนกทรงคอยรับคณะนักเรียนอยู่ ณ
ที่นั่น ในตอนแรก สมเด็จย่าไม่ทรงรู้จักว่าพระองค์เป็นใคร
ส่วนสมเด็จพระบรมราชชนกนั้น
หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ได้บันทึกเหตุการณ์คืนวันนั้นไว้ว่า  

ประมาณสักตีสองเศษ...พระองค์ท่านเสด็จกลับมาถึงบ้าน ปลุกข้าพเจ้าทันที
แล้วรับสั่งว่า ผู้หญิง
2 คนมาถึงแล้ว
แม่สังวาลสวยเช้งเชียวแกเอ๋ย

 

 

        ในพระนิพนธ์ แม่เล่าให้ฟัง
ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงเล่าถึงความสนพระทัยของสมเด็จพระบรมราชชนกที่มีต่อสมเด็จย่า
และมักเสด็จไปทรงเยี่ยม ณ ที่ประทับเมืองฮาร์ดฟอร์ด
พระราชกรณียกิจในยามว่างของทั้งสองพระองค์
ได้บ่งบอกถึงพระอุปนิสัยที่สอดคล้องต้องกันในความสนพระราชหฤทัยเรื่องต้นไม้
ดอกไม้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 
เมื่อเวลาผ่านไป
เป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาว่า สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
ทรงพอพระทัยใน 
นางสาวสังวาล
ตะละภัฏ นักเรียนสาวผู้งามพร้อมด้วยรูปโฉมและอุปนิสัยร่าเริง
โดยมิได้คำนึงถึงพระชาติวุติแต่อย่างใด
ในที่สุดทรงมีลายพระหัตถ์กราบบังคมทูลสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตหมั้นกับนางสาวสังวาล 
ใน พ.ศ. 2462 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ
กรมขุนสงขลานครินทร์จึงได้ทรงหมั้นกับนางสาวสังวาลอย่างเงียบๆ
ด้วยแหวนเพชรน้ำงามเกาะด้วยหนามเตยสลักเป็นรูปหัวใจ ในอีก
30 ปีต่อมา
สมเด็จย่าได้พระราชทานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงหมั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
กิติยากร
พอถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2462 สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถสวรรคต สมเด็จเจ้าฟ้าฯ
กรมขุนสงขลานครินทร์จึงเสด็จกลับประเทศไทยและได้ทรงอภิเษกสมรสกับ นางสาวสังวาล
ตะละภัฏ ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่
10 กันยายน พ.ศ. 2463
โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน
ทรงเป็นประธานพระราชทานน้ำสังข์ด้วยพระองค์

 

        หลังจากอภิเษกสมรสแล้ว
สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จประพาสเมืองต่างๆ
ในทวีปยุโรปและเสด็จต่อไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษาต่อ
สมเด็จพระบรมราชชนกทรงศึกษาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
และสถาบันเอ็มไอที เมืองบอสตัน และทรงจัดให้สมเด็จย่าทรงศึกษาหลักสูตรเตรียมพยาบาลที่มหาวิทยาลัยซัมมอนส์
เมืองบอสตัน
และเสด็จไปเรียนการสาธารณสุขเกี่ยวกับโรงเรียนในภาคฤดูร้อนที่สถาบันเอ็มไอที 
ขณะที่ประทับ ณ เมืองบอสตัน
ทั้งสองพระองค์ทรงใช้พระนามว่า นายและนางมหิดล  สงขลา อย่างสามัญชน
นอกจากนั้น ยังทรงช่วยกิจการของสมาคมสยาม ณ สหรัฐอเมริกา
 

  

 

          หลังจากที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงจบการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรสาธารณสุขใน
พ.ศ.
2464 สมเด็จย่าก็ได้ตามเสด็จกลับกลับกรุงเทพฯ
ผ่านทางยุโรปเพื่อท่องเที่ยวและทรงดูงานไปพร้อมกัน เช่น
เสด็จไปทรงดูงานที่โรงพยาบาลผดุงครรภ์ควีนแมรี่ ประเทศอังกฤษ 
1 สัปดาห์
การเสด็จกลับกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ก็เพื่อเตรียมการตามตามเสด็จสมเด็จเจ้าฟ้าฯ
กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
 พระเชษฐภคินีของสมเด็จพระบรมราชชนก
ซึ่งประชวรพระวักกะและเสด็จรับการผ่าตัดที่ประเทศอังกฤษ ใน พ.ศ.
2465
จากนั้นได้เสด็จพักฟื้นที่ประเทศฝรั่งเศส          ขณะประทับอยู่ที่กรุงปารีส
สมเด็จพระบรมราชชนกประชวร  สมเด็จย่าจึงทรงเฝ้าดูแลพระอาการ
เมื่อหายประชวรแล้วก็ได้ตามเสด็จยังสกอตแลนด์
เพื่อสมเด็จพระบรมราชชนกได้ทรงศึกษาวิชาแพทย์ที่เมืองเอดินเบอระ
แต่เนื่องจากอากาศหนาวมาก  ทำให้ทรงประชวรจึงต้องทรงเลิกเรียน
ระหว่างนั้นสมเด็จย่าได้ประสูติพระราชธิดาพระองค์แรก  เมื่อวันที่
6 พฤษภาคม  พ.ศ. 2466
ที่กรุงลอนดอน  ประเทศอังกฤษ
พระราชธิดาได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า
หม่อมเจ้ากัลยาณีวัฒนา มหิดล”  เนื่องจากสมเด็จย่า  ในขณะนั้นยังคงเป็นหม่อมสังวาลย์  มหิดล
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว   รัชกาลที่
7
จึงทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ใน พ.ศ. 2470
และใน พ.ศ. 2478  ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ทรงได้รับการเฉลิมพระยศเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
และทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา  กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  เมื่อ พ.ศ.
2538
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

 

  
 
 
<     1     2     3     4     5     >     >> 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 555 คน กำลังออนไลน์