หญ้า
![รูปภาพของ sss27962 รูปภาพของ sss27962](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-54138.jpg)
แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน
ภาพถ่ายโดย วรรษา ปลื้มภาณุภัทร ม.6/6 บริเวณสนามหญ้าหน้าห้องการเงิน
ภาพจากgoogle
สถานที่ของแหล่งเรียนรู้ มี4แห่ง
บริเวณด้านข้างป้อมยาม
บริเวณหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ
บริเวณหน้าห้องประชาสัมพันธ์และหน้าห้องการเงิน
หญ้า เป็นพืชล้มลุกหลายชนิด หลายสกุล ในชั้น Liliopsida วงศ์ Poaceae หรือเป็นที่รู้จักกันดีว่าวงศ์ Gramineae เช่น หญ้าคา (Imperata cylindrica Beauv.) หญ้าตีนกา (Eleusine indica Gaertn.) หญ้าแพรก (Cynodon dactylon Pers.) มีพืชชนิดนี้ประมาณ 600 สกุล และมีประมาน 10,000 ชนิด มีการประเมินกันว่าหญ้าเป็นพืชที่ปกคลุมผิวโลกกว่า 20% ของพืชทั้งหมดบนโลก พืชในวงศ์นี้เป็นพืชที่มีความสำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจมนุษย์ รวมไปถึง ใช้เป็นสนามหญ้า, อาหารหลักที่ปลูกทั่วโลก, และไม้ไผ่ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการสร้างในเอเชีย แต่บางชนิดจัดเป็นวัชพืช ปัจจุบัน หญ้าเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในด้านการนำมาใช้ผลิตพลังงานทดแทนพลังงานทดแทนอีกด้วย เช่นหญ้ามิสแคนทัส และ หญ้ามิสแคนทัสช้าง
พืชในวงศ์หญ้าที่เรารู้จักดี เช่น ข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่าง ข้าวโอ้ต ข้าวไรย์ ลูกเดือย หญ้าไรย์ อ้อย ไผ่ ตะไคร้ เป็นต้น
หญ้ามีหลายชนิดเช่น
หญ้าปักกิ่ง หรือ หญ้าเทวดา
ในชื่อภาษาจีนว่า เล้งจือเช่า หรือหญ้าเทวดา เป็นยามีรสจืด เย็น มีสรรพคุณในการยับยั้งโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งในคอ มะเร็งตับ มะเร็งมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว การตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็บพบว่า ลำต้นหญ้าปักกิ่งมีสารกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์ เป็นสารต้านมะเร็งระยะต้น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคภูมิแพ้ โรคความดันและเบาหวาน สามารถใช้รักษาร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ ช่วยลดอาการข้างเคียงจาการฉายแสง ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องฉายแสง
เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยทำวิจัยคุณสมบัติหญ้าปักกิ่ง พบว่า ไม่มีพิษสะสมต่ออวัยวะอื่น และได้สรรพคุณทางเคมีเภสัชว่า สามารถทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรงระยะอ่อน-ปานกลาง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และลำไส้ใหญ่ ซึ่งสารที่แสดงฤทธิ์ คือกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์”
ถิ่นกำเนิดของหญ้าปักกิ่ง
หญ้าปักกิ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้แถบสิบสองปันนา ในตำรายาจีนปรากฏพืชชนิดสกุลเดียวกันนี้ ใช้รักษาอาการเจ็บคอและมะเร็ง มีลักษณะคล้ายกับหญ้ามาเลเซียที่นำมาปูพื้นสนาม แต่หญ้าปักกิ่งจะอวบน้ำกว่า ใบนุ่ม หลังใบมีขนอ่อนๆ โคนต้นทรงกระบอก สีออกขาว ดอกออกเป็นช่อที่ยอดรวมกันเป็นกระจุกแน่น กลีบดอกสีฟ้าหรือสีม่วงอ่อน มีสรรพคุณเสริมภูมิต้านทาน ช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้น
http://www.novabizz.com/CDC/Garden/Garden_Grass-107.htm
หญ้าแพรก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cynodon dactylon; อังกฤษ: Burmuda Grass หรือชื่ออื่นว่า dūrvā grass, Dubo, Dog's Tooth Grass, Bahama Grass, Devil's Grass, Couch Grass, Indian Doab, Grama, and Scutch Grass) เป็นพื้ชพื้นเมืองในทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และยุโรปใต้ ส่วนชื่อ Burmuda Grass มาจากการที่มันเป็นพืชต่างถิ่นรุกรานในเบอร์มิวดา แต่ไม่ได้เกิดขึ้นที่นั่น ในประเทศไทย ชาวเหนือ เรียกว่า "หญ้าเป็ด" ส่วนชาวกะเหรี่ยง เรียกว่า "หน่อเก่เด"
ลำต้น จะค่อนข้างแบน และจะตั้งตรงหรือโค้งจาก ฐานของลำต้น มีทั้งลำต้นใต้ดิน และลำต้นบนดิน ซึ่งแตกแขนงออก มาแล้วมีรากที่ข้อ
ใบ ค่อนข้างบางใบเรียวแหลม ขอบใบมีขนเล็ก ๆ ใบมีสีเขียงเข้ม เนื้อใบค่อนข้างหยาบ
ดอก ช่อดอกจะเป็นสามเหลี่ยม และมีดอกย่อยอยู่ 4 -5 แขนง
ต้องการแสงแดดเต็มที่ในการเจริญเติบโต จึงจะได้หญ้าที่ดี ถ้าปลูกในที่ร่ม หรือตามชายคาบ้าน ลำต้นจะยาวยืด ใบหญ้าจะบางอ่อนแอ ทนต่การเหยียบย่ำดี หาอาหารเก่ง อาศัยเพียงน้ำค้างก็สามารถเจริญเติบโตได้ และฟื้นตัวเร็ว
การให้ปุ๋ยนั้นไม่จำเป็นมากนัก เพราะสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี ดังนั้นการให้ปุ๋ยในอัตตราต่ำ โดยครั้งหนึ่งทิ้งระยะไปอีก 2 - 3 เดือนก็ได้ มีความทนต่อโรคและแมลงได้ดี
ประโยชน์
ในสภาพแวดล้อมและการดูแลที่เหมาะสม เป็นหญ้าที่มีความสม่ำเสมอ คุณภาพดีพอใช้จึงจะได้หญ้าที่สีเขียวสด ใช้ปลูกเป็นสนามหญ้า ทั่ว ๆ ไป เช่น สนามฟุตบอล รักบี้ ในสวนสาธารณะ ปลูกตามขอบถนน สนามเด็กเล่น ปลูกเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ หรือปลูกในพื้นที่ ที่กว้าง ๆ เพียงเพื่อต้องการปลูกปกคลุมดินป้องกันไม่ให้เกิดการพังทะลายของดินได้
หญ้านี้มีความต้องการดูแลในระดับที่ปานกลางถึงระดับสูง จึงจะได้คุณภาพดี ถึงแม้จะทนต่อความแห้งแล้งและความร้อนได้สูงก็ตาม แต่หญ้านี้จะคุณภาพไม่ดี ถ้าไม่ได้ให้น้ำอย่างเพียงพอ การใช้หญ้าแพรกทำสนามหญ้าต้องระมัดระวังอย่างหนึ่งคือ หญ้านี้จะกลายเป็นวัชพืชที่สำคัญได้ เนื่องจากการเจริญเติบโตเร็ว ทั้งยังมีเมล็ดแพร่พันธุ์ได้อีก และจะเป็นวัชพืชที่เข้าไปในแปลงดอกไม้ ไม้พุ่มเล็ก ๆ แม้กระทั่งตามถนนที่มีรอยแตก หญ้านี้จะแทรกตัวไปขึ้นได้
การขยายพันธุ์
หญ้าแพรกนี้ปลูกได้ในดินทั่ว ๆ ไป ได้ดีพอสมควร มีการตอบสนองต่อปุ๋ยและน้ำดี จะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดก็ได้ หรือแซะต้นหญ้าจาก ริมถนนไปปลูกเป็นจุก ๆ ก็ได้ เพราะไม่มีจำหน่าย
หญ้าขน เป็นหญ้าที่หาได้ง่ายในเมืองไทย ยิ่งตามชานเมืองจะมีค่อนข้างเยอะ ลักษณะใบจะยาวเรียว ถ้านิ้วรูปขอบใบจะรู้สึกไม่เรียบจะฝืดเหมือนมีหนามเล็กๆอยู่ เวลาตัดหญ้าควรจะตัดบริเวณยอดไม่ควรตัดบริเวณโคน เพื่อให้หญ้าสามารถงอกยอดขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งไม่เกิน 2 วัน หญ้าจะแทงยอดขึ้นมาใหม่ ให้เก็บได้อีก ซึ่งหญ้าขนจะขึ้นมากและพบเยอะในฤดูฝน เมื่อผ่านฤดูฝนไปหญ้าจะออกดอก และแห้งไปในฤดูร้อน เพื่อขยายพันธุ์และงอกขึ้นมาใหม่หลังจากเริ่มมีฝน และความชุ่มชื้น
วิธี การเลือกหญ้าขน
ให้เลือกหญ้าที่มีสีเขียวสดค่ะ จะดีกวาหญ้าแห้ง หรือหญ้าที่มีสีเหลือง เพราะจะสดกรอบ และมีสารอาหารมากกว่า
วิธีเก็บรักษาหญ้า บางคนก็เอาไปแช่ตู้เย็นค่ะ บางคนก็เอามาทำเป็นหญ้าแห้ง ซึ่งถ้าเราเลี้ยงกระต่ายแล้วมีหญ้าเหลือ ก็สามารถจะทำเป็นหญ้าแห้ง เก็บไว้ได้นานค่ะ โดยการเอาหญ้าไปตากให้แห้งสนิท แล้วอาจจะตัดเป็นท่อนๆเก็บเอาไว้ ซึ่งช่วงเวลาหน้าฝนนี้จะเหมาะมากค่ะ กับการทำหญ้าแห้ง เพราะหน้าฝนจะมีหญ้าเยอะ ถ้าเราไม่ได้ทำเก็บเอาไว้ พอถึงหน้าหนาว หรือหน้าร้อน ต้นหญ้าจะแห้งตาย หาหญ้าได้ยาก
http://www.dld.go.th/nutrition/Nutrition_Knowlage/ARTICLE/Pro6.htm
หญ้ารูซี่
มีชื่อเรียกคองโก เคนเนดี้รูซี่ และรูซี่ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอัฟริกาแถบประเทศคองโค นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย ปลูกในประเทศครั้งแรกที่มวกเหล็กเมื่อปี 2511 โดยฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ก (ปัจจุบันคือ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย) สถานีอาหารสัตว์ปากช่องปลูกขยายพันธุ์และทดสอบพันธุ์ ต่อมาศูนย์ส่งเสริมการขยายพันธุ์สัตว์ของ กปร. กลาง นำเข้าจากไอเวอรีโคส หญ้ารูซี่เป็นหญ้าที่มีอายุหลายปี เจริญเติบโตเร็ว แตกกอดี ใบอ่อนนุ่มสัตว์ชอบกิน ลักษณะลำต้นกึ่งตั้งกึ่งเลื้อยมีรากตามข้อ ขยายพันธุ์ได้ด้วยเมล็ดและลำต้น เนื่องจากติดเมล็ดได้ดี มีความงอกสูงนิยมขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด จัดเป็นพืชวันสั้น เจริญเติบโตได้ดีในดินหลายชนิด ทั้งดินอุดมสมบูรณ์ในที่ดอนน้ำไม่ขัง และในดินที่มีธาตุอาหารค่อนข้างต่ำ ชอบอากาศในเขตร้อนที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 1,100 มิลิเมตรต่อปี ไม่ทนต่อสภาพน้ำขัง หญ้ารูซี่ตอบสนองต่อปุ๋ยได้ดี กล่าวคือให้ผลผลิต 2584 กิโลกรัมต่อไร่เมื่อใส่ปุ๋ยสูตร 12 – 24 – 12 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ ถ้าปลูกในดินทรายชุดโคราชได้ผลผลิต 3,400 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อใส่ปุ๋ยยูเรีย 140 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี มีปริมาณโปรตีนประมาณ 8.2 เปอร์เซ็นต์
บูรณาการ
น่าสนใจ !!! อ่านเพลิน
เจ๋งจริงฮ๊า
เนื้อหาจัดเต็มจ้าาา
ดีอะ มีเเยกวิชาด้วย
ART ตัวแม่ ^^
ชอบแบนเนอร์ แนวดี
เนื้อหาเยอะมากกกกกกก![Laughing Laughing](/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-laughing.gif)
เนื้อหาแน่นอ่า :))
ตรวจครั้งที่ 2 ใม่มีการปรับปรุงเพิ่มเติม
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
ผ่านมา 20 วัน ไม่แก้ไขอะไรเลยนะจ้ะ
1. น่าจะทำเป็นป้ายแบนเนอร์ชื่อเรื่อง
2. รูปภาพที่ถ่ายมาน่าจะมีการตกแต่งให้ดูดี
3. ควรบอกสถานที่อยู่ของแหล่งเรียนรู้ และจำนวนแหล่งเรียนรู้ที่นำเสนอว่ามีกี่แห่ง
4. ควรมีข้อคิดเห็นจากสมาชิกของชาวสตรีศรีสุริโยทัย
5. ใช้ Google Map บอกที่ตั้งของแหล่งเรียนรู้
6. ควรสรุปเนื้อหาทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ความยาวประมาณ 5 บรรทัด
7. ควรบูรณาการเข้ากับสาระวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชาที่กำลังเรียนอยู่ให้ได้
8. ใช้คำสั่ง <!--pagebreak--> เพื่อแบ่งหน้าให้เหมาะสมด้วย
จึงขอมอบนกแก้วไปเลี้ยงก่อนนะ
แหล่งที่มาของภาพ http://img.kapook.com/image/pet/indian-parrot.jpg
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน