ระกา2

  

ชวด 
ชวด2 
ชวด3 
ชวด4 
ชวด5 
ฉลู 
ฉลู2 
ฉลู3 
ฉลู4 
ขาล 
ขาล2 
ขาล3 
ขาล4 
ขาล5 
เถาะ 
เถาะ2 
เถาะ3 
เถาะ4 
เถาะ5 
มะโรง 
มะโรง2 
มะโรง3 
มะโรง4 
มะเส็ง 
มะเส็ง2 
มะเส็ง3 
มะเส็ง4 
มะเมีย 
มะเมีย2 
มะเมีย3 
มะเมีย4 
มะเมีย5 
มะแม 
มะแม2 
มะแม3 
วอก 
วอก2 
วอก3 
วอก4 
ระกา 
ระกา2 
ระกา3 
ระกา4 
ระกา5 
จอ 
จอ2 
จอ3 
กุน 
กุน2 

 

 

                 เทพยดารักษาเมืองละโว้ได้กินเครื่องพลีแล้วจำต้องกระทำตามความประสงค์ จำแลงกายเป็นจระเข้ใหญ่ว่ายน้ำไปตามลำน้ำพิงค์ ครั้นมาถึงใกล้นครหริภุญไชยแล้ว จึงแปลงเพศเป็นพราหมณ์เที่ยวตามหาไก่ขาว ถือไม้เท้าขึ้นไปบนต้นย่างทราย เมื่อพบไก่ขาวก็ตีไก่ด้วยไม้เท้า ไก่ขาวถึงแก่ความตาย แล้วพราหมณ์ก็หนีกลับเมืองละโว้ไป

                 ธรรมเนียมของจีนมีของสำคัญอยู่ ๓ สิ่ง คือ หญิงสาว ไก่ขาว และไม้เท้าผีสิง ผู้หญิงมีไว้ทำไมไม่จำเป็นต้องบอก ไก่ขาวนั้นมีไว้เพื่อบอกเวลา ไม้เท้านั้นมีไว้สำหรับกันผีปีศาจหรือภยันตรายต่างๆ เวลาบิดาตายผู้เป็นลูกต้องถือไม้เท้านัน เขาว่าวิญญาณของบิดาจะสิงอยู่ในไม้เท้านั้นคอยช่วยเหลือป้องกันภัยได้

                 นอกจากไก่ขาวแล้ว จีนยังนับถือไก่แดง ชาวจีนนับถือไก่แดงว่าอาจป้องกันไฟได้ ดังนั้น ในวันขึ้นปีใหม่จึงเขียนรูปไก่แดงปิดไว้เหนือประตูบ้าน เชื่อกันว่าไก่เป็นสัตว์ที่อยู่ในดวงอาทิตย์ และเป็นเครื่องหมายของดวงอาทิตย์ ไก่จึงขันเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แต่ถ้าไก่ตัวเมียขันแสดงว่าผู้หญิงจะเป็นใหญ่

                 การที่ภูตผีปีศาจต้องจากไปตอนพระอาทิตย์ขึ้นนั้น ก็เพราะไก่ขันขับไล่ บางทีก็จะเขียนรูปไก่ขาววางไว้บนหีบศพขระที่นำไปฝัง เพื่อเป็นการขับไล่ปีศ่จตามถนน บ่าวสาวที่แต่งงานกันจะกินน้ำตาลทรายขาวที่ทำเป็นรูปไก่ขาวในพิธีแต่งงาน

                 พวกที่เอาไก่มาเลี้ยงในบ้านคือพวกจีน จีนเลี้ยงไก่มาแต่ก่อนคริสต์ศักราชถึง ๑,๔๐๐ ปีแต่รู้จักการเอามาตีกันเมื่อ ๕๐๐ ปี ในอินเดียเลี้ยงไก่ภายหลังจีน ๔๐๐ ปี คือเริ่มรู้จักไก่ชนเมื่อเผ่าอารยันแผ่อิทธิพลเข้าไปถึงลุ่มแม่น้ำคงคา ส่วนไทยรู้จักไก่พอๆกับจีนเพราะคลุกคลีกันมาแต่สมัยดึกดำบรรพ์

                 ไก่ที่ขึ้นชื่อของจีนคือ ไก่ไหหลำเป็นไก่ชั้นดี การกินไก่ของชาวไหหลำแตกต่างกับชาวแต้จิ๋ว ชาวไหหลำนิยมสับไก่ชิ้นโตๆ ทำให้ได้เนื้อมาก ส่วนชาวแต้จิ๋วนิยมสับเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ ไก่ตะเภาที่เราเลี้ยงกันได้พันธุ์มาจากเมืองจีนคือสมัยโบราณจีนเข้ามาค้าขายในไทยก็เอาไก่เลี้ยงใส่กรงมาด้วยเพื่อจะได้เป็นอาหารระหว่างทาง พวกชาวบ้านเห็นไก่สวย จึงขอซื้อไว้เลี้ยงเลยตั้งชื่อว่าไก่ตะเภาคือเอามาจากเรือตะเภาหรือสำเภา

                  พระเจ้าแผ่นดินจีนที่นิยมเลี้ยงไก่ไว้ชนคือพระเจ้าเหียนจงแห่งราชวงศ์ถัง ให้สร้างโรงไก่ขึ้นที่นครเตียงอานเก็บพวกลูกทหาร ๕๐๐ คนมาเลี้ยงดูไก่ ทำให้ขุนนางและชาวบ้านเลี้ยงไก่มากขึ้น

 

 

จัดทำโดย
นางสาวทิพย์สุดา อมรวิทยาชาญ
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
Copyright(c) 2006 Ms.Tipsuda Amonwittayachan. All rights reserved.

จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2549

thaigoodview.com Version 13.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail: webmaster@thaigoodview.com