|
|
|
การที่แขกนิยมงู เพราะในศาสนาของเขานับถืองู พวกนับถืองูมีมาก่อนสมัยพุทธกาล เรียกกันว่าศาสนาปฤศหรือปฤศวิ พวกนี้นับถือบูชาดินและงู พวกที่เคารพนับถืองูนี้คือ พวกกราวิเกียร์ ต่อมากลายเป็นทมิฬ ความคิดเห็นของพวกกราวิเกียร์นั้นนับถือแผ่นดินภูเขาเป็นสิ่งประเสริฐกว่าสิ่งทั้งปวง เพราะเป็นบิดามารดาของสรรพสิ่งทั้งหลาย ชาวตะวันตกเรียกมังกรว่า Nake ซึ่งเข้ากับคำว่า Snake ที่แปลว่างู และคำว่า Nake ก็ออกมาจากคำว่า Naga คือ นาคของอินเดีย การเคารพงูนับถือนาคนี้ ในอินเดียปัจจุบันก็ยังมีผู้นับถือกันอยู่ มีพิธีสมโภชกับอย่างสนุกสนาน พิธีบูชางูจะทำกันในระหว่างเดือนกรกฎาคม ในวันนาคปัญจมีเขาห้ามไถนา เพราะเกรงว่าจะไถไปถูกงู มีเรื่องเล่าว่า มีชาวนาคนหนึ่งกำลังไถนาอยู่ ผาลไถได้ขุดลงไปในรูงู ซึ่งมีลูกงูอยู่ ลูกงูเหล่านั้นตาย เมื่อแม่งูกลับมารู้ว่าลูกตายและพบรอยเลือดที่ผาลไถก็รู้ว่าชาวนาเป็นคนฆ่าลูก จึงตามไปฆ่าชาวนาและคนที่บ้านจนหมด เมื่อทราบว่ายังเหลือลูกสาวของชาวนาอยู่อีกหนึ่งคน แม่งูจึงตามไปที่บ้าน ขณะนั้นลูกสาวชาวนากำลังบูชาพญาเศษนาคอยู่ แม่งูเลื้อยเข้าไปในกองจันทร์ซึ่งอยู่ตรงรูปพญาเศษนาคและดื่มน้ำนมที่ตั้งสังเวยไว้ เมื่อแม่งูกินน้ำนมแล้วความโกรธเบาบางลง จึงออกไปปรากฏตัวตรงหน้าลูกสาวชาวนาแล้วถามว่า หล่อนเป็นลูกสาวของใคร เมื่อลูกสาวของชาวนาเล่าให้ฟัง แม่งูก็สารภาพว่าตนได้ฆ่าพ่อแม่พี่น้องของเธอหมดแล้ว แต่แก้ไขได้ ให้เอาน้ำทิพย์ไปหยอดในปากก็จะฟื้น ลูกสาวชาวนาเอาน้ำทิพย์ไปหยอดในปากพ่อแม่ตามที่งูแนะนำ คนเหล่านั้นก็ฟื้นขึ้นมา ด้วยเหตุนี้วันนาคปัญจมีจึงห้ามไถนา การบูชางูนอกจากชาวเวียงจันทน์ ชาวอินเดียแล้วก็ยังมีพวกพม่าหรือชาวพุกามในสมัยโบราณอีกด้วย ตามตำนานกล่าวว่า ในเมืองพุกามมีนักบวชผู้หนึ่งเรียกว่าพวกอรี พวกนี้ไว้ผมยาวและเล็บยาวสวมเสื้อสีน้ำเงินแก่ ชอบบูชานาค พวกมอญบางถิ่นเขาก็นับถือผีงูเหมือนกัน มอญพวกนี้เขาไม่ทำร้ายงู ตามความเชื่อของคนมอญ เมื่อมีงูมาขดที่ก้นกระด้งของเด็กเกิดใหม่ แต่ไม่ทำร้ายอะไร ขดแล้วก็เลื้อยหายไป เขาว่าเป็นงูที่มาดูแลรักษาให้ความคุ้มครอง เมื่อพระเจ้าตากสินยังเป็นเด็กชายสิน เมื่อยังแบเบาะอยู่นั้น มีงูมาขดรอบๆกระด้ง ตามตำราจีนว่าไม่ดี เรื่องงูนี้แปลกบางพวกก็ชอบ บางพวกก็เกลียด อย่างพวกยางขาว เกลียดงูมาก ไม่ยอมกินเนื้องู ถ้าผู้ใดรับประทานเนื้องู เขาจะไม่ให้เข้าบ้าน ถือว่าผิดผี เวลาเดินทางไปล่าสัตว์หรือหาอาหาร ถ้าไปพบงูเข้าเขาจะหันหลังกลับทันที ถือว่าเป็นการอับโชค พวกอียิปต์ ในยุคต้นๆนับถืองู และถือว่างูเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ชาวอียิปต์จึงให้ความอารักขาและเลี้ยงงูไว้ในวิหาร ชาวอียิปต์ถือว่า โลกคือไข่ของงูใหญ่มหึมาตัวหนึ่ง ชาวอียิปต์ถือว่าเมฆและความมืดมนนั้นเป็นชื่องูอาเปปิ งูตัวนี้เป็นศัตรูกับพระอาทิตย์ ทั้งสองต่อสู้กัน ถ้าราชนะก็เป็นกลางวัน ถ้าเกิดสุริยคราสขึ้น ชาวอียิปต์ก็เข้าใจว่าพระอาทิตย์ถูกงูอาเปปิกลืนเข้าไป (ไทยว่าเป็นราหูอม และราหูของอินเดียหรือไทยมีหางเป็นนาคดูชอบกลมาก) และเวลาที่จะให้งูอาเปปคายออกก็ต้องอาศัยอำนาจของจอมเทพอามอนราคอยปราบ รูปภาพของฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจะเห็นว่าเขาทำที่ประดับเศียรเป็นรูปงู เป็นเครื่องหมายของความมีอำนาจ
|
จัดทำโดย
นางสาวทิพย์สุดา
อมรวิทยาชาญ
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
Copyright(c) 2006 Ms.Tipsuda
Amonwittayachan. All rights reserved.
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2549
thaigoodview.com Version 13.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา
e-mail:
webmaster@thaigoodview.com