ปีฉลูภาษาเขมรเขียน ฉลูว อ่านว่า โฉลว ทางภาคเหนือของไทยเรียกว่า ปีเป้า หรือ เปิ้งงัว (งัวก็คือวัว) ในกลุ่มประเทศที่ใช้สิบสองนักษัตร จะใช้รูปวัวเป็นสัญลักษณ์แทนปีฉลูเหมือนกันหมดมีแปลกออกไปเฉพาะญวนที่ใช้ควายแทนวัว
คำว่า “วัว” เป็นภาษาไทยโบราณ มีหลักฐานอยู่ในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงว่า “เพื่อนจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย” แต่คนเก่าๆนิยมเรียกวัวว่า “งัว” ภายหลังจึงได้นำคำว่า “โค” ในภาษามคธมาใช้เพิ่มขึ้นอีกคำหนึ่ง ตามหลักฐานที่กล่าวมานี้แสดงว่าในสมัยสุโขทัยมีการซื้อขายวัวกันเป็นธรรมดา และมีการจารึกบนฐานพระอิศวร เมืองกำแพงเพชร ตอนหนึ่งว่า “อนึ่ง แต่ก่อนยอมขายวัวไปแก่ละว้า อันจะขายให้ดุจก่อนนั้น ก็ห้ามมิให้ขาย” เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมจึงไม่ให้ขายแก่ละว้าซึ่งน่าจะเป็นลูกค้าสำคัญ แต่มีข้อความอีกตอนหนึ่งว่า “เจ้าพระญาศรีธรรมาโศกราชประดิษฐานพระอิศวรเป็นเจ้านี้ไว้ให้ครองสัตว์สี่ตีนในเมืองกำแพงเพชร” ทำให้คิดว่าพวกละว้าอาจจะซื้อไปฆ่าก็เป็นได้ และพระอิศวรคงไม่โปรดจึงห้าม
ในหนังสือนารายณ์สิบปาง ฉบับคุณหญิงเลื่อนฤทธิ์กล่าวว่าเดิมทีวัวเป็นสัตว์สวรรค์ พระอุมาใช้เทียมรถ คราวหนึ่งพระอิศวรชวนพระอุมาลงเที่ยวเมืองมนุษย์ โดยทรงพาหนะต่างๆกัน พระอิศวรทรงพระคาวีอุศุภราช พระอุมาทรงรถเทียมด้วยโคสองตัว ชื่อ กะวิน และ นิลเมฆา พระขันธกุมารเป็นสารถีใช้เชือกผูกเขาโคคอยบังคับ พระนารายณ์ทรงครุฑนำเสด็จไปข้างหน้า ถัดมาก็เป็นพระมาตุลีขี่เสือ และพระไพสพ ทรงมหิงส์ คือ ควาย
|