ตาราง 1.5
แสดงผลต่างระหว่างพลังงานของเส้นสเปกตรัมของไฮโดรเจน
เส้นสเปกตรัม
|
ความยาวคลื่น
(nm) |
พลังงาน
(kJ) |
ผลต่างระหว่างพลังงาน
ของเส้นสเปกตรัมที่อยู่ถัดกัน
(kJ) |
สีม่วง
สีน้ำเงิน
สีน้ำทะเล
สีแดง |
410
434
486
656 |
|
|
จากข้อมูลในตาราง
1.5 แสดงว่า
ความแตกต่างระหว่างพลังงานของแต่ละระดับที่อยู่ถัดกันจะไม่เท่ากัน
และความแตกต่างจะมีค่าน้อยลงเมื่อระดับพลังงานสูงขึ้น
จากข้อมูลนี้พอสรุปได้ว่า
1.
เมื่ออิเล็กตรอนได้รับพลังงานในปริมาณที่เหมาะสม
อิเล็กตรอนจะขึ้นไปอยู่ในระดับ พลังงานที่สูงกว่าระดับพลังงานเดิม
แต่จะไปอยู่ระดับใดย่อมขึ้นกับปริมาณพลังงานที่ได้รับ
การที่อิเล็กตรอนขึ้นไปอยู่ในระดับพลังงานสูงขึ้นทำให้อะตอมไม่เสถียร
อิเล็กตรอนจึงกลับมาอยู่ในระดับพลังงานที่ต่ำกว่า
ในการเปลี่ยนตำแหน่งอิเล็กตรอนจะคายพลังงานออกมา
2.
การเปลี่ยนระดับพลังงานของอิเล็กตรอน
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนระหว่างระดับพลังงานที่อยู่ติดกัน
แต่อาจมีการเปลี่ยนข้ามขั้นได้ อย่างไรก็ตามอิเล็กตรอนไม่สามารถรับพลังงานแล้วขึ้นไปอยู่ระหว่างระดับพลังงานได้
3.
ระดับพลังงานต่ำอยู่ห่างกันมากกว่าระดับพลังงานสูง
ระดับพลังงานยิ่งสูงขึ้นจะอยู่ชิดกันมากขึ้น
จากความรู้เรื่องสเปกตรัม
นีลส์ โบร์ พ.ศ.
2428 – 2505 (ค.ศ.
1885 – 1962 ) นักวิทยาศาสตร์ ชาวเดนมาร์ก
จึงสร้างแบบจำลองอะตอมขึ้นใหม่
โดยปรับปรุงแบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
เพื่อให้เห็นลักษณะของอิเล็กตรอนที่อยู่รอบนิวเคลียส
แบบจำลองเป็นระดับพลังงานที่มีค่าพลังงานเฉพาะคล้ายๆ
กับวงจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
และเรียกอิเล็กตรอนชั้นที่อยู่ใกล้นิวเคลียสที่สุดและมีพลังงานต่ำที่สุดว่าชั้น
K และชั้นถัด ๆ ไปเป็น L M N ……
ตามลำดับ ดังรูป
แต่ในปัจจุบันเรียกระดับพลังงานที่อยู่ใกล้นิวเคลียสที่สุดว่า
ระดับพลังงาน n = 1
และเรียกระดับพลังงานที่อยู่ถัดไปเป็น n = 2 n = 3
ตามลำดับ ซึ่งตรงกับชั้น K L M …..
ในแบบจำลองอะตอมของโบร์
แบบจำลองอะตอมของโบร์ใช้ได้ดีกับอะตอมขนาดเล็กที่มีอิเล็กตรอนเดียว
เช่นไฮโดรเจนแต่ไม่สามารถใช้อธิบาย อะตอมที่มีหลายๆ
อิเล็กตรอนได้
นักวิทยาศาสตร์จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมและเสนอแบบจำลองอะตอมใหม่ๆ
ขึ้น
รูป แบบจำลองอะตอมของโบร์
|