บวบยัดไส้กุ้งนึ่ง  

  วันนี้มานำเสนอเมนู บวบเหลี่ยม
มีคุณค่าทางอาหารมากๆ เลย  คน
ที่ชอบนิ่มๆ อาจจะใช้เวลาในการ
ผัดซักหน่อย สำหรับคนที่ไม่ชอบ
ทานผัดบวบ แนะนำมาผัดแบบนิ่ม
จะได้รสชาดหน่อยจ้า เวลาที่เรา
รับประ ทานเข้าไปจะได้น้ำฉ่ำๆ จากการเคี้ยวเนื้อบวบเชียวนะค่ะ
ที่นี่เรามาลองดูวิธีการทำกันค่ะ

...รายละเอียด


น้ำกระเจี๊ยบ

ล้างกระเจี๊ยบให้สะอาด เด็ดเฉพาะ
กลีบเลี้ยง ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่กลีบ
เลี้ยง กระเจี๊ยบต้มจนเดือด ประมาณ 30-40 นาที

...รายละเอียด


หน้านี้มีทั้งหมด ลิงค์

ลักษณะทั่วไป

   คงเคยได้ยินคำเรียกทองชนิดหนึ่งว่า ทองดอกบวบ ทองที่ว่านี้มีสีเย็นตา มากกว่าทองคำบริสุทธิ์ ในสมัยโบ ราณมีการใช้ทองดอกบวบ ในงานศิลปะประเภทต่างๆ เช่น ใช้หุ้มองค์พระพุทธรูปหุ้มยอดเจดีย์จนถึง เครื่องประ ดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ทองที่เป็นสีนวบนั้นก็เพราะเป็นทอง ผสมหรือ เทียบได้กับทอง 16 เค 16 ส่วนใน 24 ส่วน บวบไม่ค่อยขึ้นเองเหมือนตำลึง หากอยากรับประทาน คงต้องปลูก ต้องทำซุ้ม หรือค้างไว้ให้ยึด เกาะปลูกง่าย และกินง่าย ไม่ว่าเป็นบวบชนิดไหน หากอยากให้เด็ก ที่มักเกลียดชังผักสีเขียว ทั้งหลายเปลี่ยนใจมาเหลียวแล บ้างละก็บวบก็เป็นผักตัวอย่างชนิดหนึ่ง ที่น่าสนใจมาก เพราะไม่ขม หรือขมน้อยไม่ว่าจะเอามาทำอะไรกินก็อร่อย ยิ่งบวบในต้นฤดูฝนจะมีรสหวานนิดๆ แค่เอามาผัดใส่ไข่ ให้สุกนุ่มอะไรๆ ก็ชิดซ้ายเลยเชียว ง่ายกว่าวนั้นก็ลวกจิ้ม น้ำพริกกินง่ายสบายท้องเข้าช่วงอา กาศเปลี่ยนเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนหรือเดี๋ยวฝนเดี๋ยวหนาว แกงเลียงใส่บวบช่วยให้ ร่างกายอบอุ่น และปรับตัวสู้กับอากาศแปรปรวนได้ดี

การปลูกและดูแล

    ความแตกต่างระหว่างบวบด้วยกัน คือ บวบหอม ผลจะมีลักษณะ
กลมรี มีลายที่ผิวมีบางคนว่ารสอร่อยกว่าบวบเหลี่ยม ส่วนบวบ เหลี่ยม ผลมีลักษณะหลายเหลี่ยมผิวไม่มีลาย และเปลือกแข็งแรง กว่าส่วนบวบงู ผลจะเรียว ยาว เหมือนงู ผิวมีลายและสีเขียวเข้ม แต่ เรื่องสีสันนี้บางทีก็เอาแน่เอานอนอะไรนักไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวด ล้อม ดินและภูมิอากาศในการปลูกด้วยเหมือนกัน
    บวบพันธุ์ที่นิยมปลูกในเมืองไทยนั้น มักเป็นพันธุ์พื้นเมืองปลูกง่าย
และเป็นพืชที่ทนทานต่อ โรค แม้เมื่อต้นยังเล็กอาจมีแมลงมากัด กินบ้างแต่ก็น้อย อาจใช้สารสกัดจากสะเดาพ่นบ้างก็ได้ และเมื่อโต สักหน่อย ก็เป็นพืชที่แมลงเมินไม่สนใจจะลงกินให้เสียเวลา ดังนั้น บวบจึงเป็นพืชที่อาจเรียกได้ว่าปลอดสารพิษ เพราะแม้แต่เกษตรกร ที่ปลูกเพื่อขายเป็นไร่ๆ ก็มักไม่ใช้ยาฆ่าแมลงกับบวบ แล้วหากจะ ปลูกกินเองก็ยิ่งไม่ต้องใช้ ปลูกสบาย ๆ คอยให้ปุ๋ยบ้างก็พอ

   บวบต้องการแสงแดดมาก ชอบดินที่เป็นกรดพอประมาณปลูกได้ทุกฤดูกาล แต่หน้าฝนจะดีที่สุด เพราะอากาศมีความชุ่ม ชื้นขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
   การปลูกบวบแบบพอสังเขปมีดังนี้ หยอดเมล็ดพันธุ์ลงในหลุมซึ่งควรลึกประมาณ 2 – 4 เซนติเมตร หลุมละ 4 – 5 เมล็ด กลบดิน รดน้ำให้ชุ่มคลุมด้วยฟางเพื่อรักษาความชื้นรดน้ำสม่ำ เสมอทุกวัน ประมาณ 10 -15 วัน ต้นบวบน้อยก็จะค่อยๆ งอก ขึ้นมา เมื่อบวบน้อยของเราอายุสักราว 10 – 15 วันต้นก็จะโตพอที่เตรียมเลื้อยเหมือนเผ่าพันธุ์บวบที่เลื้อยกันมานานแสน นานระยะนี้จึงควรเตรียมค้างไว้ให้เลื้อยได้แล้วหรือหากปลูกบวบเป็นพืชสวนครัวก็อาจปล่อยให้เลื้อยไปบน รั้วก็ได้ หากแปลง
ปลูกไม่มีพื้นที่มากพอที่จะทำค้าง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นพืชที่อดทน แทนทั้งฝน ทนทั้งแล้งแต่บวบก็ชอบความชุ่มชื้นอย่า ปล่อยให้บวบต้องกระหายน้ำเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจส่งผลต่อการผลิดอกออกผล เช่นไม่ติดผลหรือผลเล็กมีข้อแนะนำว่าควร รดน้ำบวบที่โคนต้นไม่ควรฉีดพ่น เพราะอาจทำให้มีราที่ใบ หลังจากบวบน้อยกลายเป็นบวบใหญ่ให้ผลลูกแรกก็จะเก็บผลผลิต
ต่อไปได้อีกเป็นเดือนถึง สองเดือน จากนั้นเถาก็จะโรยราไป

ประโยชน์ของบวบ

   ในบวบเหลี่ยมมีทั้งแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญคือ ฟอสฟอรัส แคล เซียมและวิตามินซี บวบเหลี่ยมผลและเถานำมาเข้าตำ รับยาแก้ลม บำรุงหัวใจใบต้มเป็นยาขับปัสสาวะใบนำมาตำพอก แก้พิษสัตว์ กัด ต่อยผลบวบมีวิตามินหลายชนิด บำรุงร่างกายแก้ร้อนใน
    ดอกบวบนับเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงามน่า มองมากทีเดียวมีสี เหลืองนวลเย็นตามักบานในช่วงเย็นๆ เย็นย่ำถ้าอากาศ ดีคุณจะลอง เปลี่ยนจากการชมดอกไม้ประดับในสวนหน้าบ้าน มาเป็นเดินชมดอก บวบตามค้างหรือซุ้มบางที่คุณอาจเกิดความรู้สึกใหม่ เป็นความภาค ภูมิใจที่ได้ปลูกผักที่มีทั้งดอกสวย ปลอด สารพิษ เปี่ยมประโยชน์ ไว้ รับประทานเอง

ถิ่นกำเนิด
    บวบเป็นพืชเถาเลื้อย ตระกูลเดียวกับแตง จึงมีรสหวานเย็น เป็นพืชอายุสั้น มีมือเกาะสำหรับพยุงลำต้นดอกตัวผู้ และดอก ตัวเมียแยกกันอยู่ในเถาเดียวกัน เดิม เป็นวัชพืช หรือพืชที่งอกเองอยู่ตามป่า ตามการศึกษาพบว่ามีถิ่นกำเนิดในอินเดีย

ส่วนที่ใช้
ใบ ดอก ผล เปลือกผล ขั้วผล เมล็ด เถา น้ำจากจากเถา และราก ใช้เป็นยา

สรรพคุณ
    เมล็ดบวบเหลี่ยมที่มีรสขม จะมีฤทธิ์เป็นยาถ่าย และมีฤทธิ์ทำให้อาเจียน ท้องเสีย และ ทำให้ท้องเสียอย่างรุนแรง เนื่องจากมีสาร elaterin ที่ทำให้ถ่าย ส่วนรากก็มีฤทธิ์ทำให้ถ่ายได้ เช่นกันสำหรับสารพวกซาโปนิน ( saponins)ในเมล็ด ก็มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นหัวใจกบ คล้ายกับดิยิตัลลิส ( digitalis) ซึ่งสามารถ ย่อยเม็ดเลือดแดงของสุนัขและเป็นพิษต่อปลามาก