พิเศษ!! สาธิตการปลูกผักกาดขาว โดยฝีมือนักเรียน 

ขั้นตอนการปลูกเมล็ดผักกาดขาว

1.พรวนดินให้เป็นร่องดินสูงจากพื้นดินเดิม 15 ซม.

2.ใช้ปุ๋ยคอก(ขี้วัว)ใส่ให้ทั่วแปลงผักโดยใช้คาดเกลี่ยโดยรอบให้ดินเสมอ  แล้วรดน้ำให้ทั่วแปลงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของดิน

3.โรยเมล็ดผักกาดขาวให้ทั่วแปลง(โดยวิธีการหว่านเมล็ด) 

4.นำฟางมาปิดไว้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เม็ดผักกาดขาวและยังป้องกันแสงแดดไม่ให้ส่องโดนเมล็ดผักกาดขาวโดยตรง เม็ดผักกาดขาวจะได้เกิดความชุ่มชื้นและงอกโดยเร็ว     

5.รดน้ำด้วยฝักบัวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เมล็ดผักกาด ในระยะนี้ยังไม่ควรใช้สายยางรด เพราะอาจจะทำให้เมล็ดออกไปอยู่นอกแปลงผักได้

บันทึกผล   

ครั้งที่ 1  

เม็ดผักกาดขาวโผล่พ้นพื้นดินสูงประมาณ 1 ซม. ขนาดลำต้นเท่าเข็มเย็บผ้า ลำต้นตรงบ้างเอนบ้างขึ้นทั่วทั้งแปลง มีใบเลี้ยงสองใบ เป็นรูปดังนี้

ครั้งที่ 2  

นำฟางที่ปิดเมล็ดผักกาดขาวไว้ออกบ้าง ให้เหลือฟางคลุมแปลงไว้บางๆเนื่องจากต้องการให้เมล็ดผักกาดขาวเจริญเติบโตขึ้นโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง  ถ้ามีฟางปิดอยู่จะทำให้เมล็ดผักกาดขาวเจริญเติบโตช้า  ลำต้นไม่แข็งแรง เป็นรูปดังนี้

ครั้งที่ 3  

เมล็ดผักกาดขาวแตกออกเป็น 4 ใบ ลำต้นสูงประมาณ 2 เซนติเมตรและแข็งแรงขึ้นมาก

 ครั้งที่ 4  

มองด้วยตาเปล่ารู้แล้วว่าเป็นต้นผักกาดขาวเพราะดูตามลักษณะใบออกเป็นรูปร่างผักกาดขาวชัดเจนยิ่งขึ้นมี 6 ใบ (สังเกตลักษณะของต้นผักกาดขาวจะออกใบเป็นคู่คือ 2,4,6)

   ครั้งที่ 5  

   ลำต้นสูงประมาณห้าเซนติเมตร ใบใหญ่มีสามใบ ตรงกลางมีใบเล็กๆหนึ่งใบ ลำต้นแข็งแรงดีมาก

   ครั้งที่ 6  

    ลำต้นสูงประมาณ 9 เซนติเมตร ลำต้นแข็งแรงพร้อมแยกต้นกล้าไปปลูกที่ใหม่

 ครั้งที่ 7  

ทำแปลงผักใหม่ไว้สำหรับแยกต้นกล้าที่เพาะไว้ไปปลูกที่ใหม่เลือกเฉพาะลำต้นที่แข็งแรงที่สุดและมีระยะห่างพอสมควร สาเหตุที่ต้องแยกต้นกล้าไปปลูกที่ใหม่นั้น เพราะถ้าอยู่ในแปลงผักเดิมใช้วิธีหว่านต้นผักกาดขาวจะอยู่ติดกันมาก(แน่น)  ทำให้ต้นผักกาดขาวเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่

ครั้งที่ 8  

ใช้แสลนปิดแปลงผักกาดขาวเพราะว่าลำต้นพึ่งแยกออกมาจากแปลงเดิม ถ้าแสงแดดกระทบเต็มที่ทำให้ลำต้นเหี่ยวและตายได้ในที่สุด

ครั้งที่ 9  

นำแสลนที่ปิดออก เพราะสังเกตจากลักษณะลำต้นไม่เหี่ยวและแข็งแรงดีแล้ว

ครั้งที่ 10  

เก็บผักกาดขาวมารับประทานได้