ISLETS OF LANGERHANS
![รูปภาพของ sss27806 รูปภาพของ sss27806](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-31659.jpg)
...............
![](/files/u31659/Islets_Of_Langerhans_Gland.jpg)
ตับอ่อน (Pancreas) : ตับอ่อนตั้งอยู่ที่ด้านบนซ้ายของช่องท้อง โดยวางตัวจากส่วนโค้งของลำไส้เล็กส่วนดูโอดีนัม (duodenum ) ถึงม้าม (spleen)
และด้านหลังของกระเพาะ (stomach) มีลักษณะค่อนข้างแบน มีความยาวประมาณ 12 – 15 เซนติเมตร ตับอ่อนทำหน้าที่ทั้งเป็นต่อมมีท่อคือการสร้างน้ำย่อยไปที่ลำไส้เล็กและเป็นต่อมไร้ท่อสร้างฮอร์โมนเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนจะรวมกันเป็นกลุ่ม
มีชื่อว่าไอเลตส์ออฟแลงเกอร์ฮานส์ ( Islets of Langerhans ) มีปริมาณ 1 – 3 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อเยื่อตับอ่อนทั้งหมด
จากการศึกษาระดับน้ำตาลในเลือดก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือขณะออกกำลังกายของร่างกายคนปกติพบว่า
* ก่อนรับประทานอาหารระดับน้ำตาลในเลือดจะปกติ( ระดับน้ำตาลในเลือดปกติ 80 - 100 มิลลิกรัม / 100 ลบ.ซม. )
* หลังรับประทานอาหารได้ระยะหนึ่งระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงมากกว่าปกติเนื่องจากมีการย่อยอาหารโดยเฉพาะพวกแป้งให้เป็นน้ำตาล
( ส่วนใหญ่เป็นกลูโคส )จึงถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแต่ในระยะไม่นานระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงสู่ระดับปกติโดยพบว่า
ร่างกายจะนำกลูโคสจากเลือดเปลี่ยนให้เป็นไกลโคเจน ( เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง )เก็บสะสมไว้ในเซลล์ตับและเซลล์กลั่ามเนื้อ
* ขณะออกกำลังกายอย่างหนักระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นกว่าปกติบ้างเนื่องจากร่างกายต้องการใช้น้ำตาลเพื่อสลายให้เกิด
พลังงานร่างกายจึงนำเอา ไกลโคเจน ที่เก็บสะสมไว้ในเซลล์ตับและเซลล์กลั่ามเนื้อเปลี่ยนให้เป็นกลูโคสเพิ่มเข้าสู่กระแสเลือด
อย่างรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อหยุดออกกำลังกายระดับน้ำตาลในเลือดจะถูกปรับให้อยู่ในระดับปกติเช่นเดิม
การค้นคว้าของนักวืทยาศาสตร์
* พอล แลงเกอร์ฮานส์ (พ.ศ. 2411) : พบกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะแตกต่างจากเซลล์อื่นๆในตับอ่อนกลุ่มเซลล์นี้กระจายอยู่เป็นหย่อมๆ
จึงตั้งชื่อให้กลุ่มเซลล์นี้ว่าไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ ( Islete of Langerhans )
* โยฮันน์ วอน เมอริช และ ออสการ์ มินคอฟสกิ (พ.ศ.2432) : ถ้าตัดตับอ่อนของสุนัขออกทำให้มีผลต่อการย่อยอาหารประเภทไขมันและมีมดขึ้นที่ปัสสาวะ
* เฟรเดอริก จี แบนติง และ ชาร์ล เฮอร์บราต เบสต์ (พ.ศ. 2463 ) :พบว่าไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ผลิตอินซูลินออกมาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและ
เป็นผู้สกัดอินซูลินได้ ทำให้ได้รับรางวัลโนเบลในปี พ.ศ. 2466
ฮอร์โมนที่สร้างจากไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์
1. ฮอร์โมนอินซูลิน ( Insulin )
แหล่งสร้าง : จากเบต้าเซลล์ ( beta cell ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่รอบนอกของกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ ( ดูภาพด้านบน )
อวัยวะเป้าหมาย : ตับ , กล้ามเนื้อ
หน้าที่ : ลดระดับน้ำตาลในเลือด ( ระดับน้ำตาลในเลือดปกติ 80 - 100 มิลลิกรัม / 100 ลบ.ซม. ) โดย
* เพิ่มการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ตับ
* กระตุ้นให้เซลล์ตับและเซลล์กล้ามเนื้อเปลี่ยนกลูโคสให้เป็นไกลโคเจน ( โมเลกุลของคาร์โบไฮเดรตที่สร้างจากกลูโคส )
เก็บสะสมไว้ภายในเซลล์
ความผิดปกติ : ทำให้เกิดโรคเบาหวาน( diabetes mellitus)โรคนี้เกิดจากตับอ่อนสร้าง ฮอร์โมนอินซูลิน(lnsulin) ได้น้อย
หรือไม่ได้เลยทำให้เซลล์้ตับและเซลล์กล้ามเนื้อไม่สามารถเปลี่ยนกลูโคสในเลือดให้เป็นไกลโคเจนเก็บสะสมไว้ภายในเซลล์ได้จึงเกิด
การสะสมของน้ำตาลในเลือดเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดมีมากเกินปกติก็จะถูกไตขับออกมาในปัสสาวะ
ทำให้ปัสสาวะหวาน หรือมีมดขึ้นได้ จึงเรียกว่าเบาหวาน
อาการของผู้ป่วยที่เี่ป็นเบาหวาน
* มักจะมีอาการปัสสาวะบ่อยและมาก เนื่องจากน้ำตาลที่ออกมาทางไตจะดึงเอาน้ำออกมาด้วย จึงทำให้มีปัสสาวะมากกว่าปกติ เมื่อ
ถ่ายปัสสาวะมาก ก็ทำให้รู้สึกกระหายน้ำ ต้องคอยดื่มน้ำบ่อย ๆ
* ผู้ป่วยไม่สามารถนำน้ำตาลมาเผาผลาญเป็นพลังงาน จึงหันมาเผาผลาญกล้ามเนื้อและไขมันแทนทำให้ความเป็นกรดในเลือดสูง
กลไกการหายใจผิดปกติ ร่างกายผ่ายผอม ไม่มีไขมัน กล้ามเนื้อฝ่อลีบ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง
* การมีน้ำตาลคั่งอยู่ในอวัยวะต่างๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆเกิดความผิดปกติ และนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนมากมาย เช่น โรคตาต้อหิน
โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคไต โรดหัวใจ โรคความดันเลือดสูง เป็นต้น
* ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ทำให้เป็นโรคความดันโลหิต สูง, อัมพาต, โรคหัวใจขาด
เลือด ถ้าหลอดเลือดที่เท้าตีบแข็ง เลือดไปเลี้ยงเท้า ไม่พออาจทำให้เท้าเย็น เป็นตะคริวหรือ ปวดขณะเดิน
มาก ๆ หรืออาจทำให้ เป็นแผลหายยากหรือเท้าเน่า ( ซึ่งอาจเกิดร่วมกับการติดเชื้อ )
* เป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น วัณโรคปอด, กระเพาะปัสสาวะอับเสบ ,
กรวยไตอักเสบ, กลาก , โรคเชื้อรา , ช่องคลอดอักเสบ (ตกขาวและคันในช่องคลอด ) , เป็นฝี หรือ
พุพองบ่อย,เท้าเป็นแผล ซึ่งอาจลุกลามจนเท้าเน่า (อาจต้องตัดนิ้วหรือตัดขา)
2. ฮอร์โมนกลูคากอน ( Glucagon )
แหล่งสร้าง : จากแอลฟาเซลล์( alpha cell ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ส่วนในและเป็นเซลล์ส่วนใหญ่ของกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ ( ดูภาพด้านบน )
อวัยวะเป้าหมาย : ตับ , กล้ามเนื้อ
หน้าที่ : เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
* กระตุ้นให้เซลล์ตับและเซลล์กล้ามเนื้อเปลี่ยนไกลโคเจนให้เป็นกลูโคสปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด
* เพิ่มการสังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิโนและกรดไขมัน
การรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด
.......การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือด จะเป็นสัญญาณยับยั้งหรือกระตุ้นการหลั่งอินซูลินและกลูคากอนจากไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์
และผลจากการทำงานของฮอร์โมนทั้งสองจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในสภาวะปกติเสมอ ( ดูภาพด้านล่าง )
ภาพแสดงการทำงานของอินซูลินและกลูคากอนในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
ชนิดของโรคเบาหวาน
เบาหวานมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
* เบาหวานชนิดที่ 1 : เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ซึ่งพบร้อยละ 10 เบาหวานชนิดนี้ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลินทุกวัน
ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
* เบาหวานชนิดที่ 2 : เบาหวานชนิดนี้เกิดจากร่างกายสร้างอินซูลินได้ปกติแต่อินซูลินออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมายไม่ได้เนื่องจาก
ตัวรับอินซูลินผิดปกติ อินซูลินจึงทำงานได้น้อย คือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน พบถึงร้อยละ 90 ของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและพบในทุกเพศ
ทุกวัยแต่มักพบในผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีที่มีรูปร่างอ้วน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดนี้การรักษา ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงต้องใช้ยาที่ลดภาวะดื้อต่ออินซูลินและในบางครั้งจำเป็น ต้องให้อินซูลินร่วมด้วย เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ มักพบเกิดขึ้นร่วมกับภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
หมายเหตุ : เบาหวานเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้