Biological diversity
![รูปภาพของ sss27505 รูปภาพของ sss27505](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-31709.jpg)
.............................................
-ผสมพันธุ์กันได้
-มีลูกหลานที่เกิดขึ้น โดยไม่เป็นหมัน
![](/files/u31709/linnaeus-1-sized.jpg)
1. การจัดจําแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ในลําดับขั้นต่าง ๆ (Classification)
2. การตรวจสอบหาชื่อวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องของสิ่งมีชีวิต (Identification)
3. การกําหนดชื่อที่เป็นสากลของหมวดหมู่และชนิดของสิ่งมีชีวิต (Nomenclature)
![](/files/u31709/bio.jpg)
เรียกตามท้องถิ่น
2. ชื่อสามัญ (Common name)
คือชื่อที่เรียกกันทั่วไปในการใช้ชื่ออาจให้ชื่อตามลักษณะรูปร่างของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น ๆ เช่น ต้นแปรงขวด ว่านหางจระเข้ หรืออาจเรียกชื่อตามถิ่นกำเนิด เช่น ผักตบชวา มันฝรั่ง หรืออาจเรียกตามชื่อที่อยู่ เช่น ดาวทะเล ทากบก นอกจากนี้ในแต่ละถิ่นยังเรียกชื่อต่างกันเช่น แมลงปอ ภาคใต้เรียกว่า "แมงพี้" ภาคเหนือเรียก "แมงกะบี้" เป็นต้น
3. ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) เป็นชื่อที่กำหนดขึ้นตามหลักสากลและเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปลินเนียสเป็นผู้ริเริ่มการใช้ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นคนแรก โดยกำหนดให้สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยชื่อ 2 ชื่อ
ชื่อแรกคือ "จีนัส" และชื่อที่ 2 คือ "สปีชีส์" การเรียกชื่อซึ่งประกอบด้วยชื่อ 2 ชื่อ เรียกว่า "การตั้งชื่อแบบทวินาม (binomial nomenclature)" ซึ่งจัดว่าเป็นชื่อวิทยาศาสตร์
.
- ใช้การตั้งตามหลัก Binomial System ของ คาโรลัส ลินเนียส
- (ICZN)Zoological Nomenclature-หลักในการตั้งชื่อสัตว์
- (ICBN)Botanical Nomenclature-หลักในการตั้งชื่อพืช
.
Binomial System แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ
- ส่วนของชื่อสกุล (Genus) - Generic name
- ส่วนของชื่อสปีชีส์ (Species) - Specific name
.
กฏการตั้งชื่อ
1. ชื่อพืชและสัตว์ต้องแยกกันอย่างชัดเจน
2. มีชื่อที่ถูกต้องเพียงชื่อเดียวเท่านั้น
3. เป็นภาษาลาติน (เนื่องจากว่าภาษาลาตินเป็นภาษาที่ตายแล้ว นั่นหมายถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงของคำ ทำให้มีความมั่นคงไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา)
4. การเขียนหรือพิมพ์ชื่อวิทยาศาสตร์ ต้องต่างจากตัวอื่น คือ ตัวเอน, ตัวหนา, ขีดเส้นใต้ เช่น Homo sapiens (คน)
5. จะใช้ชื่อ Genus หรือ species ซ้ำกันไม่ได้
6. ประกอบด้วยคำ 2 คำเสมอ คือ
- ในส่วนคำแรกจะเป็น ชื่อสกุล (Genus) - เป็นตัวพิมพ์ ตัวอักษรแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ เป็นภาษาลาติน
- ในส่วนคำหลังจะเป็น ชื่อสปีชีส์ (Species) - เป็นตัวพิมพ์เล็กหมด เป็นภาษาลาติน เป็นคนเดียวหรือคำผสม
* หมายเหตุ * ในส่วนของชื่อสปีชีส์ ถ้าหากลงท้ายด้วย spp. หมายถึง มีอยู่หลาย species แต่ถ้าหากลงท้ายด้วย sp. หมายถึง มีอยู่ species เดียว
7. ชื่อผู้ตั้ง นำด้วยตัวใหญ่ ไว้ด้านหลัง เช่น Carirosquilla thailandensis Naiyanetr, 1992
Carirosquilla thailandensis คือ Species ของสิ่งมีชีวิต
Carirosquilla คือส่วนของ Genus
thailandensis คือส่วนของ specific epithet
Naiyanetr คือชื่อผู้ตั้ง
1992 คือปีที่ค้นพบ
.
หลักการตั้ง
1. ตั้งตามสถานที่พบ
2. ตั้งเป็นเกียรติให้บุคคลที่นับถือ เช่น Thaiphusa sirikit
3. ตั้งเป็นเกียรติให้คนที่พบ
4. ตั้งตามขนาดตัวอย่าง เช่น Pangasianodon gigas (ปลาบึก) (gigas = ใหญ่)
5. ตั้งตามลักษณะ เช่น Podoptamus rigil (ปู) (rigil = ยาม)
Ex.
Schitosoma mekhongi พยาธิใบไม้เลือดที่พบในแม่น้ำโขง
Plasmodium ovale (Ova = ไข่) เชื้อมาลาเรียที่มีรูปร่างเหมือนไข่
Bulbophyllum siamense กล้วยไม้สิงโตสยาม
Bacillus antracis เชื้อก่อโรคแอนแทร็กซ์
![](/files/u31709/47afcef9bf291.gif)