.II. ฝ่ายอักษะล่มสลาย ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ชัย .II.
ทหารโซเวียตโบกธงค้อนเคียวเหนืออาคารรัฐสภาไรช์สทักของเยอรมนี ภายหลังจากที่อาคารถูกยึด
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/1/17/Soviet_flag_on_the_Reichstag_roof.jpg
ทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพสหรัฐอเมริกาได้รุกเข้าสู่ฟิลิปปินส์ หลังจากได้ชัยในเกาะเลเตเมื่อปลายปี ค.ศ. 1944 จากนั้นก็ยกพลขึ้นบกที่ลูซอน ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1945 และที่เกาะมินดาเนา ในเดือนมีนาคม ขณะที่กองทัพผสมอังกฤษและจีนสามารถเอาชนะกองทัพญี่ปุ่นได้ในพม่าตอนเหนือ ตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม จากนั้นก็รุกถึงกรุงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม
กองทัพอเมริกันยังคงมุ่งหน้าเข้าสู่ญี่ปุ่น สามารถยึดเกาะอิโวะจิมะได้ในเดือนมีนาคม และเกาะโอกินาวาในเดือนมิถุนายน ใน ขณะที่เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ทำลายเมืองต่าง ๆ ของญี่ป่น และเรือดำน้ำอเมริกันก็เข้าปิดล้อมเกาะญี่ปุ่น ตัดขาดการนำเข้าจากภายนอก
วันที่ 11 กรกฎาคม เหล่าผู้นำของฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้าประชุมกันที่เมืองพอตสดัม ประเทศเยอรมนี ได้ข้อสรุปว่าที่ประชุมให้การรับรองเกี่ยวกับข้อตกลงต่าง ๆ กับเยอรมนีก่อนหน้านี้ และย้ำถึงความจำเป็นของญี่ปุ่นที่จะต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำกล่าวที่ว่า "อีกทางเลือกหนึ่งของญี่ปุ่นก็คือหายนะเหลือแสน" ("the alternative for Japan is prompt and utter destruction") ภายหลังจากการประชุมนี้ สหราชอาณาจักรได้มีการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 1945 และคลีเมนต์ แอตลีย์ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรแทน วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีคนเดิม
เมื่อญี่ปุ่นได้ปฏิเสธข้อเสนอที่พอตสดัม สหรัฐอเมริกาจึงตัดสินใจ ทิ้งระเบิดปรมาณูทั้งสองลูกบนแผ่นดินญี่ปุ่น ที่เมืองฮิโรชิมา และเมืองนางาซากิ ในตอนต้นเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945 ในช่วงระหว่างการทิ้งระเบิดปรมาณูทั้งสองลูก ด้านสหภาพโซเวียตก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น และโจมตีแมนจูเรียของญี่ปุ่น ตามข้อตกลงยอลตา ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1945 หลังจากนั้นในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 ญี่ปุ่นได้เซ็นสัญญาในเอกสารยอมจำนนอย่างเป็นทางการ และเป็นจุดจบของสงครามด้วยเช่นกัน
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2