• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:4d3c6f1525682fba6f5f5810f3adc2a0' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n       ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17  มีนักคณิตศาสตร์  2 คน  ได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับวิธีสร้างความรู้เพื่อการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์  <strong>สรุปได้ดังนี้</strong>  \n</p>\n<p>\n1. เรอเนส์  เดส์การ์ตส์  ( Rene  Descartes )  ชาวฝรั่งเศส  และเซอร์  ฟรานซิส เบคอน ( Sir  Francis  Bacon ) ชาวอังกฤษ ได้ร่วมกันเสนอหลักการการใช้เหตุผล  วิธีการทางคณิตศาสตร์  และการค้นคว้าวิจัยมาใช้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแสวงหาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ \n</p>\n<p>\n2. ความคิดของเดส์การ์ตส์  เสนอว่าเรขาคณิตเป็นหลักความจริง  สามารถนำไปใช้สืบค้นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ได้  ซึ่งได้รับความเชื่อถือจากนักวิทยาศาสตร์ในสมัยต่อมาเป็นอย่างมาก \n</p>\n<p>\n3. ความคิดของเบคอน  เสนอแนวทางการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์  โดยใช้  “วิธีการทางวิทยาศาสตร์” เป็นเครื่องมือศึกษา  ทำให้วิทยาศาสตร์ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง<strong> การจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ</strong>\n</p>\n<p>\n1. การเสนอทฤษฏีการศึกษาค้นคว้าด้วย  <strong>“วิธีการทางวิทยาศาสตร์</strong>”  ทำให้เกิดความตื่นตัวของปัญญาชนในยุโรป  มีการจัดตั้งสถาบันทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นในประเทศต่างๆ  หลายแห่ง  ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่  17  เพื่อสนับสนุนงานวิจัย  การประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน  ทำให้วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าตามลำดับ\n</p>\n<p>\n2. ความร่มมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์กับนักประดิษฐ์นำไปสู่การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มากมาย  ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จึงเป็นรากฐานของความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ  จึงมีผู้กล่าวว่า  การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่  17  เป็น<strong>ยุคแห่งอัจฉริยะ  ( The  Age  of  Genius )  </strong>เพราะมีการค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย การค้นพบ \n</p>\n<p>\n      <strong> “กฎแห่งการโน้มถ่วง”  ของนิวตัน</strong>  \n</p>\n<p>\n1. การค้นพบความรู้หรือทฤษฏีใหม่ของ  เซอร์  ไอแซค  นิวตัน  ( Sir  Isaac  Newton )  นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ  ในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่  17  มี  2 ทฤษฏี  คือ  กฎแรงดึงดูดของจักรวาลและกฎแห่งการโน้มถ่วง               \n</p>\n<p>\n 2. ผลการค้นพบทฤษฏีทั้งสองดังกล่าว  ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใดโลกและดาวเคราะห์จึงหมุนรอบดวงอาทิตย์  และดวงจันทร์จึงหมุนรอบโลกได้โดยไม่หลุดจากวงโคจร  และสาเหตุที่ทำให้วัตถุต่าง ๆ ตกจากที่สูงลงสู่พื้นดินโดยไม่หลุดลอยออกไปยังอวกาศ               \n</p>\n<p>\n3. ความรู้ที่พบกลายหลักของวิชากลศาสตร์  ทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงเรื่องราวของเอกภพ  สสาร  พลังงาน  เวลา  และการเคลื่อนตัวของวัตถุบนท้องฟ้า  โดยใช้ความรู้และวิธีการทางคณิตศาสตร์ช่วยค้นพบคำตอบ ผลจากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์  ในคริสต์ศตวรรษที่  17                \n</p>\n<p>\n1.  การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์เป็นสาเหตุผลักดันให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในด้านการผลิตจนกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก               \n</p>\n<p>\n2.  การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ทำให้เกิด “ยุคภูมิธรรม” หรือ “ยุคแห่งการรู้แจ้ง” ทำให้ชาวตะวันตกเชื่อมั่นในเหตุผล ความสามารถ  และภูมิปัญญาของตน  เชื่อมั่นว่าโลกจะก้าวหน้าพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง  มีความมั่นใจว่าจะสามารถแสวงหาความรู้ต่อไปไม่มีวันที่สิ้นสุด  โดยอาศัยเหตุผลและสติปัญญาของตน\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u20131/24827_178139.gif\" height=\"10\" width=\"339\" />\n</div>\n<p>  </p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/50685\" title=\"ปฏิวัติอุตสาหกรรม\"><img border=\"0\" src=\"/files/u20131/back.jpg\" align=\"left\" height=\"72\" width=\"100\" /></a><a href=\"/node/50694\" title=\"แหล่งที่มา\"><img border=\"0\" src=\"/files/u20131/next.jpg\" style=\"width: 105px; height: 72px\" align=\"right\" height=\"63\" width=\"100\" /></a>\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"/node/43102\" title=\"HOME\"><img border=\"0\" src=\"/files/u20131/89.jpg\" height=\"69\" width=\"64\" /></a>\n</div>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n', created = 1726857532, expire = 1726943932, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:4d3c6f1525682fba6f5f5810f3adc2a0' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ปฎิวัติทางวิทยาศาสตร์

       ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17  มีนักคณิตศาสตร์  2 คน  ได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับวิธีสร้างความรู้เพื่อการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์  สรุปได้ดังนี้  

1. เรอเนส์  เดส์การ์ตส์  ( Rene  Descartes )  ชาวฝรั่งเศส  และเซอร์  ฟรานซิส เบคอน ( Sir  Francis  Bacon ) ชาวอังกฤษ ได้ร่วมกันเสนอหลักการการใช้เหตุผล  วิธีการทางคณิตศาสตร์  และการค้นคว้าวิจัยมาใช้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแสวงหาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ 

2. ความคิดของเดส์การ์ตส์  เสนอว่าเรขาคณิตเป็นหลักความจริง  สามารถนำไปใช้สืบค้นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ได้  ซึ่งได้รับความเชื่อถือจากนักวิทยาศาสตร์ในสมัยต่อมาเป็นอย่างมาก 

3. ความคิดของเบคอน  เสนอแนวทางการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์  โดยใช้  “วิธีการทางวิทยาศาสตร์” เป็นเครื่องมือศึกษา  ทำให้วิทยาศาสตร์ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง การจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

1. การเสนอทฤษฏีการศึกษาค้นคว้าด้วย  “วิธีการทางวิทยาศาสตร์”  ทำให้เกิดความตื่นตัวของปัญญาชนในยุโรป  มีการจัดตั้งสถาบันทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นในประเทศต่างๆ  หลายแห่ง  ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่  17  เพื่อสนับสนุนงานวิจัย  การประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน  ทำให้วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าตามลำดับ

2. ความร่มมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์กับนักประดิษฐ์นำไปสู่การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มากมาย  ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จึงเป็นรากฐานของความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ  จึงมีผู้กล่าวว่า  การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่  17  เป็นยุคแห่งอัจฉริยะ  ( The  Age  of  Genius )  เพราะมีการค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย การค้นพบ 

       “กฎแห่งการโน้มถ่วง”  ของนิวตัน  

1. การค้นพบความรู้หรือทฤษฏีใหม่ของ  เซอร์  ไอแซค  นิวตัน  ( Sir  Isaac  Newton )  นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ  ในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่  17  มี  2 ทฤษฏี  คือ  กฎแรงดึงดูดของจักรวาลและกฎแห่งการโน้มถ่วง               

 2. ผลการค้นพบทฤษฏีทั้งสองดังกล่าว  ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใดโลกและดาวเคราะห์จึงหมุนรอบดวงอาทิตย์  และดวงจันทร์จึงหมุนรอบโลกได้โดยไม่หลุดจากวงโคจร  และสาเหตุที่ทำให้วัตถุต่าง ๆ ตกจากที่สูงลงสู่พื้นดินโดยไม่หลุดลอยออกไปยังอวกาศ               

3. ความรู้ที่พบกลายหลักของวิชากลศาสตร์  ทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงเรื่องราวของเอกภพ  สสาร  พลังงาน  เวลา  และการเคลื่อนตัวของวัตถุบนท้องฟ้า  โดยใช้ความรู้และวิธีการทางคณิตศาสตร์ช่วยค้นพบคำตอบ ผลจากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์  ในคริสต์ศตวรรษที่  17                

1.  การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์เป็นสาเหตุผลักดันให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในด้านการผลิตจนกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก               

2.  การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ทำให้เกิด “ยุคภูมิธรรม” หรือ “ยุคแห่งการรู้แจ้ง” ทำให้ชาวตะวันตกเชื่อมั่นในเหตุผล ความสามารถ  และภูมิปัญญาของตน  เชื่อมั่นว่าโลกจะก้าวหน้าพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง  มีความมั่นใจว่าจะสามารถแสวงหาความรู้ต่อไปไม่มีวันที่สิ้นสุด  โดยอาศัยเหตุผลและสติปัญญาของตน

 

 


 

สร้างโดย: 
น.ส.สุธิดา เด่นประภา โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ครูที่ปรึกษา อ.กัญฐินีภรณ์ ประถมด้วง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 478 คน กำลังออนไลน์