พระเจ้าล้านช้างไม่ให้นางสร้อยทอง,พระเจ้าเชียงใหม่ชิงนางสร้อยทอง,พระเจ้าเชียงใหม่ให้แสนตรีเพ็ชรยกทัพไปดักทาง,ส่งนางสร้อยทองไปอยุธ
พระเจ้าล้านช้างฟังแล้วก็สงบพระทัยได้ โปรดให้แต่งสาส์นและประทานของและรางวัลแก่ราชฑูต เมื่อเดินทางกลับถึงเชียงใหม่ ก็นำพระราชสาส์นเข้าเฝ้า เมื่อพระเจ้าพิไชยได้รู้ความแล้วก็ทรงพิโรธ สั่งให้ยกทัพไปชิงตัวนางสร้อยทองมา
พระเจ้าเชียงใหม่ชิงนางสร้อยทอง
ฝ่ายพระเจ้าเชียงใหม่นั้นคิดว่าได้ส่งราชสาส์นและบรรณาการไปให้พระเจ้าล้านช้างแล้วไม่เห็นว่าอย่างไร บรรณาการที่ให้ไปก็ส่งคืนมาน่าจะมีลับลมคมใน จึงสั่งให้มหาชาดไปสืบข่าวที่เวียงจันทน์
ฝ่ายมหาปาด เมื่อรับสั่งแล้วก็เดินทางโดยม้าดั้นด้นมาจนถึงแดนเวียงจันทน์ เมื่อผ่านมาทางบ้านพวกละว้าก็รู้ข่าวว่า จะมีชาวอยุธยามาเวียงจันทน์ มหาปาดก็ปลอมตัวโดยแต่งกายคล้ายคนไทย เข้าไปในเวียงจันทน์เที่ยวฟังข่าว ก็รู้ว่าทัพไทยจะขึ้นมารับพระธิดาพระเจ้าล้านช้างไปเป็นมเหสี อีกสิบห้าวันจะออกเดินทางไปอยุธยา จึงรีบเดินทางกลับมายังเชียงใหม่ ทูลเรื่องราวแก่พระเจ้าพิไชย
พระเจ้าพิไชย เมืองเชียงใหม่ได้ฟังก็โกรธมาก สั่งให้จัดทัพห้าแสนคนไปตีเมืองล้านช้าง ฆ่าให้หมดไม่ให้เหลือแม้แต่ต้นหญ้า
พระเจ้าเชียงใหม่ให้แสนตรีเพ็ชรยกทัพไปดักทาง
อุปราชพระยาแมน ทูลว่าล้านช้างนั้นไกลมากกว่าจะเดินทางไปถึง นางสร้อยทองก็คงไปอยุธยาแล้ว หากจะได้นางมาก็ควรยกทัพไปดักกลางทาง พระเจ้าพิไชยเห็นด้วย ก็รับสั่งให้แสนตรีเพ็ชรยกทัพไปล้อมจับตัวนางสร้อยทองมา และอย่าฆ่าฟันไพร่พลของศัตรู
ตรีเพชรกล้าคุมทัพทหารที่เก่งมีวิชาดี อยู่ยงคงกระพันห้าพัน พร้อมอาวุธปืนไฟ หน้าไม้ทวน เดินทัพตัดป่าไปทางภูเวียง และพักทัพดักซุ่มอยู่เชิงเขา
ส่งนางสร้อยทองไปอยุธยา
เมื่อถึงเวลาเดินทางไปอยุธยา พระเจ้าล้านช้างกับพระมเหสีเกสร ก็ให้พี่เลี้ยงสี่คนไปกับนางสร้อยทอง แล้วพระนางเกสรก็จัดแจงแต่งกายนางสร้อยทองอย่างนางกษัตริย์ แล้วส่งนางเดินทางไปอยุธยา