การดูแลสิ่งแวดล้อมของเราให้รอดพ้นภาวะโลกร้อน

• บริโภคของที่ผลิตในประเทศ เพราะการซื้อสินค้าจากต่างประเทศย่อมต้องสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่ง การกินอาหารท้องถิ่นจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เช่นหันมากินปลาทูแทนปลาแซลมอน หรือเลือกซื้อสินค้าผักผลไม้จากท้องถิ่น เพราะนอกจากราคาถูกและทำให้เงินทองไม่รั่วไหลออกนอกประเทศแล้ว ยังถือเป็นการสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่อีกด้วย
• บริโภคอาหาร และผักผลไม้ จากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เนื่องจากดินตามธรรมชาติสามารถเก็บกักก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศได้มากกว่าดินที่ใช้สารเคมีอย่างมาก
• บริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง เนื่องจากมูลของสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อวัว) มีก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซตัวสำคัญ สาเหตุของภาวะเรือนกระจกและโลกร้อน
• เปลี่ยนหลอดไฟให้เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบประหยัดไฟ ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟธรรมดา 60% เพราะหลอดไฟที่ใช้กันอยู่ทั่วไปเปลี่ยนพลังงานให้เป็นแสงสว่างเพียง 10% เท่านั้น ส่วนพลังงานอีก 90% สูญเสียไปในรูปของความร้อน จะสามารถช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 300 ปอนด์ต่อปี (ซึ่งหากคนอเมริกันทั้งประเทศทำเช่นนี้ก็จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 9 หมื่นล้านปอนด์ - 1 ปอนด์ เท่ากับประมาณ 0.45 กิโลกรัม) อย่าลืมถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งานด้วย
• เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ราว 23-26 องศาเซลเซียส และทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศหรือฝุ่นให้สะอาดอยู่เสมอ อีกทั้งต้องแน่ใจว่าห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศนี้ ไม่มีช่องให้ความเย็นรั่วไหลออกไปได้ ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น คือการออกแบบและสร้างบ้านให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีความร่มรื่น เพื่อลดการพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ
• ลดระดับอุณหภูมิความร้อนของเครื่องทำความร้อนที่ใช้อาบน้ำ ตลอดจนลดปริมาณการใช้เครื่องทำความร้อนทุกชนิด เช่น กาน้ำร้อน เตารีด หม้อหุงข้าวฯลฯ เป็นต้น รวมไปถึงการใช้ราวตากผ้าให้มากขึ้น แทนการใช้เครื่องอบผ้า
• พกขวดน้ำติดตัวไปด้วยระหว่างการเดินทาง ขวดน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิตมหาศาล แถมยังทำให้เกิดขยะล้นโลก และในการกำจัดขยะก็ต้องใช้พลังงานอีกต่างหาก
• หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อเป็นการประหยัดการใช้น้ำมัน ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการโดยสารเครื่องบิน ดังที่รายงานของสถาบันสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศแนะนำว่า ควรใช้บริการรถไฟสำหรับการเดินทางในระยะทางไม่เกิน 640 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเที่ยวบินลงได้ถึง 45% และบรรดานักธุรกิจควรใช้ระบบการประชุมผ่านวิดีโอแทนการให้พนักงานขึ้นเครื่องบินไปร่วมการประชุม
• หันมาใช้จักรยาน และการเดินให้มากขึ้น หรือหันมาการใช้บริการระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนการอาศัยรถคันเดียวกันไปทำงาน ในเส้นทางเดียวกันให้มากยิ่งขึ้น
• พาหนะของคุณไม่ควรบรรทุกของหนักจนเกินไป หมั่นตรวจเช็คลมยาง และดูแลสภาพเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ หากมีโอกาสต้องซื้อรถคันใหม่ ขอให้แน่ใจว่าคุณเลือกซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น เช่น ประหยัดน้ำมัน หรือใช้พลังงานประเภทอื่น (แท้จริงแล้วก็ลดการใช้รถจะดีกว่ามาก)
• ประหยัดการใช้กระดาษ อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษใช้พลังงานมากเป็นอันดับ 4 ทั้งยังก่อมลพิษทางน้ำ เป็นต้นเหตุของการทำลายป่าไม้ซึ่งเป็นตัวดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญด้วย
• หันมาใช้และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์และลม
• สนับสนุนการซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตที่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทที่มีส่วนในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ผลิตที่อยากมีส่วนในการปกป้องโลก และเลิกสนับสนุนสินค้าของบริษัทที่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม