คราวหนึ่ง    เทพอาเรสเกิดมีความรักกะนางเวสตัลพรหมจารี (หญิงสาวพรหมจารี  ที่เป็นสาวกของเทวีเฮสตา เทวีแห่งเตาไฟ มีหน้าที่คอยดูแลไฟศักดิ์สิทธิ์ในวิหาร  และมีกฎข้อห้ามว่า  เมื่อยังเป็นเวสตัลพรหนจารีอยู่จะมีสามีไม่ได้)   ชื่อริอาซิลเวีย (บางตำนานว่าชื่อ อีเลีย)

             นางริอาซิลเวีย   เป็นธิดาของท้าวนิวไมเทอร์ เจ้าเกาะอัลบาท้าวนิวไมเทอร์นั้นถูกน้องชาย ชื่อ อัมมิวเลียส ชิงราชบัลลังก์     เทพอาเรสลักลอบได้เสียกะนางรีอาซิลเวีย จนนางตั้งครรภ์   แต่ชะตากรรมของนางน่าเศร้ามากเพราะ  พอนางคลอดบุตรชายฝาแฝดออกมาก็ต้องรับโทษถูกฝังทั้งเป็นตามกฎข้อปฏิบัติของเวสตัลพรหมจารี  หลังจากที่นางริอาซิลเวียถูกฝังตายแล้ว   บุตรชายทั้งสองของนางซึ่งชื่อ   โรมิวลัสกับรีมัส    ก็ถูกท้าวอัมมิวเลียสจับลอยแพไปในแม่น้ำไทเบอร์

            นับว่าโชคยังช่วยด้วยแพน้อยถูกคลื่นซัดขึ้นบนตลิ่งแห่งหนึ่งโดยปลอดภัย     แล้วบังเอิญมีแม่สุนัขป่าตัวหนึ่งมาพบเด็กทั้งสองเข้า และคาบไปเลี้ยงดูอย่างลูก  โรมิวลัสกับรีมัสอยู่ในการเลี้ยงดูของแม่สุนัขป่าจนโตขึ้นมาหน่อย ก็มีชายเลี้ยงแกะเข้ามาพบเข้า   ชายเลี้ยงแกะนำเด็กทั้งสองกลับบ้านไปให้ภรรยาของเขา   แล้วสองสามี ภรรยาก็ช่วยกันเลี้ยงดูโรมิวลัสกะรีมีสจนเติบโตเป็นหนุ่ม   พอโตเป็นหนุ่มแล้วโรมิวลัสกะรีมัสก็ตั้งตนเป็นหัวหน้าคนเลี้ยงแกะซ่องสุมกำลังพลขับไล่ท้าวอัมมิวเลียสออกจากบัลลังก์และสถาปนาท้าวนิวไมเทอร์ผู้เป็นตาขึ้นครองราชย์ดังเดิม

            ต่อมาทั้งสองได้หารือกันจะสร้างเมืองขึ้นใหม่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำที่พวกเขาเคยอยู่ตอนเป็นเด็ก   แต่ในระหว่างสร้างเมืองสองพี่น้องเกิดมีความเห็นไม่ลงรอยกันจนโรมิวลัสบันดาลโทสะฆ่ารีมัสตาย แล้วโรมิวลัสก็สร้างเมืองต่อไป  จนกระทั่งสร้างเสร็จสรรพและให้ชื่อเมืองที่สร้างขึ้นว่า  โรม  ตามชื่อของตน   ซึ่งเชื่อกันว่าเพราะเหตุดังกล่าวนี้ เทพอาเรสจึงเป็นห่วงเป็นใยกรุงโรมนี้เป็นพิเศษ เช่น

            ครั้งหนึ่ง  เกิดกาฬโรคระบาดในกรุงโรม     เทพอาเรสก็ส่งโล่ประจำประจำพระหัตถ์ลงจากสวรรค์มาอันหนึ่งมาคุ้มครองกรุงโรม     ให้พ้นจากภัยพิบัติซึ่งชาวโรมพอได้รับพระราชทานโล่จากสวรรค์มาอันหนึ่ง   ก็เกิดความกังวลว่าจะมีมือ (ไม่) ดีมาแอบขโมยไป   จึงสร้างโล่เลียนแบบขึ้นมาอีก 11 อัน  รวมกะของจริงก็   1  โหลพอดี    แล้วตั้งโล่ทั้งของจริงของปลอมทั้ง 12 อัน เรียงรายอยู่ในวิหารแห่งมาร์ส ซึ่งมีแต่เจ้าอาวาสของวิหารองค์เดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าอันไหนเป็นของจิง  

            และ เทพเอเรสทรงมีความสัมพันธ์กับน้องสาวที่เป็นเทวีแห่งความแตกแยกอีรีส (Eris) ของกรีก หรือ ดิสคอร์เดีย (Discordia) ของโรมัน จนมีโอรสด้วยกัน 2 องค์ คือ      ไดมอส (Deimos) แปลว่าความกลัว และ โฟบอส (Phobos) แปลว่าความหวาดสยอง แต่เทวีแห่งความแตกแยกอีรีสก็ยังมีโอรสอีกองค์หนึ่งที่เกิดจากมหาเทพซีอุส  ชื่อ เอตี (Ate) แปลว่า ความบัลดาลโทสะ  ซึ่งหมายความว่า เทวีอีริสนี้นอกจากจะได้กับพี่ชายคือเทพอาเรสแล้วยังได้กับพ่อของตนเองคือมหาเทพซีอุสอีกด้วย