เทคนิคการจำเรื่องยากๆ ด้วย Mind Map 

หลักภาษาก็จำได้ไม่หมด สังคมเนื้อหาก็ย้าวยาว วิทยาศาสตร์หลักการก็หลากหลาย แล้วแบบนี้จะจำเนื้อหาอย่างไรให้หมดได้เนี่ย ปัญหาเรื่องนี้จะเล็กลงไป ถ้าใช้เทคนิคที่เรารู้จักกันอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์กับ “เทคนิคท่องจำเรื่องยากๆ ด้วย Mind Map”

     Mind Map ในภาษาไทยเรียกว่า ผังมโนภาพ หรือ แผนที่ความคิด เป็นเทคนิคการจดบันทึกที่พัฒนาขึ้นโดยชาวอังกฤษชื่อ Tony Buzan โดยการใช้คำสั้นๆ เส้น สี และภาพ มาเชื่อมโยงกันจากคำสำคัญคำเดียว ซึ่งเจ้าประโยชน์หลักๆ ของเทคนิค Mind Map ที่พี่เกียรติขอนำเสนอนี้ คือ “สามารถช่วยให้ท่องจำวิชาที่มีเนื้อหายาวๆ อย่างเนื้อหาประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่หลักการยากๆ ของวิทยาศาสตร์ได้อย่างง่ายดาย”

ดังตัวอย่าง 

  เงินถุงแดง เป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับจากการค้าสำเภา คือ นำสินค้าบรรทุกเรือสำเภาไปส่งขายที่ประเทศจีน เมื่อวิกฤติ ร.ศ. 112 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไทยต้องชดเชยเงินค่าปฏิกรรมสงครามแก่ฝรั่งเศส เงินส่วนใหญ่มาจากเงินถุงแดงนี้

จะได้เเบบนี้

ที่มาของภาพ http://image.dek-d.com/contentimg/kiat/255405.jpg 

การใช้ Mind Map นี้ มีวิธีการเขียนให้ได้ผลดีด้วยนะคะ ว่าแล้วมาเริ่มกันเลย 

1. เริ่มวาดรูปหรือคำสำคัญของเรื่องกลางหน้ากระดาษ ควรวางกระดาษแนวนอน และใช้กระดาษไม่มีเส้น ไม่ควรใส่กรอบให้คำหรือรูปศูนย์กลางนี้ เพราะกรอบจะเป็นตัวสกัดกั้นการคิดที่ลื่นไหล อย่าเป็นคนติดกรอบว่างั้น

  2. แตกความคิดออกโดยวาดเป็นกิ่งก้านต่างๆรอบทิศทาง แต่ละกิ่งต้องเขียนคำสั้นๆที่มีความสัมพันธ์กับคำหรือภาพศูนย์กลาง

  3. กิ่งที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลาง จะหนากว่ากิ่งที่อยู่รอบนอก โดยใช้สีสันต่างๆ ช่วยในการตกแต่ง กิ่งเดียวกันควรใช้สีเดียวกัน เพื่อการจดจำอย่างเป็นหมวดหมู่ การใช้สีสันต่างๆ และวาดภาพประกอบสวยๆ ใส่ไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้น้องๆ สนุกกับการทำ Mind Map มากขึ้นอีกด้วยค่ะ

      ที่สามารถท่องจำเรื่องยาวๆ ยากๆ นี้ได้ก็เพราะ เราได้คิดเอง และเขียนเองตามสไตล์ตนเอง เจ้าสมองของเราก็จะรับข้อมูลและเก็บเป็นความจำระยะยาวในรูปแบบภาพแผนผังหรือคำสำคัญ และจำได้ง่ายกว่าพยายามท่องจำประโยคยาวๆ ที่มักเกิดปัญหาว่าจะลืมหรือเก็บใจความของประโยคมาได้ไม่ครบถ้วน

     นอกจากนี้ยังมีประโยชน์แถมฟรีแบบดีเลิศ คือ ความจำดีขึ้น เพราะ สมองได้เรียนรู้การจำอย่างเป็นระบบ เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มความสามารถในการคิดวิเคราะห์และเชื่อมโยงอีกด้วย ที่สำคัญใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน ไม่จำกัดเฉพาะกับการเรียน และใช้ได้กันตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงานเลย

      อย่าลืมว่า Mind Map เป็นการเขียนคำเชื่อมต่อๆ กันไป ถ้าคิดว่าเขียนผิดที่ ผิดประเด็นก็แค่ขีดฆ่าแล้วย้ายที่ใหม่ให้คำนั้นก็พอ เพราะ Mind Map ไม่มีผิดหรือถูก มีแค่สวยกับไม่สวยตามที่เราพอใจเท่านั้น

      บางคนอาจเบื่อหน่ายกับการทำ Mind Map แล้ว เพราะอาจถูกครูบังคับทำบ้าง ทำไปโดยไม่รู้ประโยชน์บ้าง แต่ถ้าเราลองตั้งใจทำสักหน่อย เจ้า Mind Map นอกจากจะช่วยทำให้เราจำเรื่องยากๆ ได้แล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังได้ศึกษาและรับรองแล้วว่า การจดบันทึกแบบ Mind Map จะทำให้เซลล์สมองแต่ละเซลล์ของเรา เกิดการทำงานเชื่อมโยงกันไปมา เป็นการกระตุ้นให้สมองเกิดการคิดอย่างรวดเร็วมากขึ้น ช่วยพัฒนาสมองให้แล่นฉิวด้วยนะคะ 

  How to Make a Mind Map