การหมุนเวียนเลือดของปลา
..............
ระบบหมุนเวียนโลหิต
ในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังทุกชนิดมีระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิดและมีหัวใจ
ตั้งแต่ 2 ห้อง คือ พวกปลา หัวใจ 3 ห้อง ในพวกกบ หรือสัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก
หัวใจ 4 ห้องไม่สมบูรณ์ หรือ 3 ห้อง ได้แก่ พวกสัตว์เลื้อยคลาน จนถึงพวกนก
และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีหัวใจ 4 ห้องสมบูรณ์
การหมุนเวียนเลือดในร่างกาย แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ
1.การหมุนเวียนของเลือดผ่านปอด
เป็นการไหลเวียนของเลือดจากเอเตรียมขวาลงสู่เวนตริเคิลขวาของหัวใจแล้วส่งไป
ยังปอดเพื่อปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ และรับ ออกซิเจน กลายเป็นเลือดที่มี
ออกซิเจน สูง (Oxygenated blood)
เลือดออกจากปอดทางเส้นเลือดพัลโมนารีเวนเพื่อส่งเข้าสู่เอเตรียมซ้าย
2.การหมุนเวียนของเลือดผ่านส่วนต่างๆของร่างกาย
เป็นการไหลเวียนของเลือดจากเอเตรียมซ้ายลงสู่เวนตริเคิลซ้ายแล้วเลือดส่ง
เข้าอาร์เทอรี่ซึ่งจะนำเลือดที่มี ออกซิเจน
สูงและอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วเลือดจะไหลกลับเข้าสู่ระบบเวน
เพื่อส่งกลับเข้าสู่หัวใจเอเตรียมขวา
การหมุนเวียนของเลือดทั้ง 2 วงจรนี้
จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันแบบอนุกรมและมีหัวใจเปรียบเสมือนศูนย์กลางโยงระหว่าง
การหมุนเวียนเลือดภายในร่างกาย
จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันแบบอนุกรมและมีหัวใจเปรียบเสมือนศูนย์กลางโยงระหว่าง
การหมุนเวียนเลือดภายในร่างกาย
บางคนอาจแบ่งให้มีอีกระบบ คือ Portal system
เป็นระบบของเส้นเลือดเวนที่รับเลือดเสียจากเส้นเลือดฝอยแล้วรวมเป็นเส้น
เลือดใหญ่ และแตกเป็นเส้นเลือดฝอยอีกครั้งหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
- hetatic portal system เกิดจากเส้นเลือดฝอยรับเลือดมาจากทางเดินอาหาร
เช่น กระเพาะ ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ แล้วรวมเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่มีชื่อว่า
hetatic portal vein จากนั้นจึงแตกเป็นเส้นเลือดฝอยเข้าตับ
เพื่อสกัดสารพิษจากอาหาร และสร้างยูเรีย
ระบบหมุนเวียนเลือด เลือด ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นของเหลว มี 55% โดยปริมาตร เรียกว่า น้ำเลือดหรือพลาสมา
(Plasma) ประกอบด้วยน้ำประมาณ 91% นอกนั้นเป็นสารอื่นๆ ได้แก่
สารอาหารต่างๆ เอนไซม์ และแก๊ส น้ำเลือดจะทำหน้าที่ ลำเลียงอาหารไปยังเซลล์
และนำของเสียรวมทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์ ไปยังอวัยวะขับถ่าย
เพื่อกำจัดออกนอกร่างกาย นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ วิลเลียม ฮาร์วีย์
เป็นผู้ที่พบการค้นพบการหมุนเวียนของเลือด และอธิบายว่า
เลือดมีการไหลไปในทิศทางเดียวกัน
2. ส่วนที่เป็นของแข็ง มี 45% โดยปริมาตร ได้แก่
- เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red blood cell) รูปร่างค่อนข้างกลมแบน ตรงกลางบุ๋ม
ไม่มีนิวเคลียส มีรงควัตถุสีแดง เรียกว่า ฮีโมโกลบิน (Haemoglobin)
ทำหน้าที่ลำเลียงก๊าซออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
แหล่งที่สร้างเม็ดเลือดแดง คือ ไขกระดูก มีอายุอยู่ประมาณ 110 - 120 วัน
หลังจากนั้นจะถูกส่งไปทำลายที่ตับและม้าม
- เซลล์เม็ดเลือดขาว (White blood cell) รูปร่างกลม
มีขนาดใหญ่กว่าเซลล์เม็ดเลือดแดง แต่มีจำนวนน้อยกว่า ไม่มีสี มีนิวเคลียส
แหล่งที่สร้างเม็ดเลือดขาว คือ ม้าม ไขกระดูก และต่อมน้ำเหลือง ทำหน้าที่
ทำลายเชื้อโรค มีอายุประมาณ 7 - 14 วัน
- เกล็ดเลือดหรือแผ่นเลือด (ฺBlood platelet) ไม่ใช่เซลล์
แต่เป็นชิ้นส่วนของเซลล์ มีรูปร่างกลม ไม่มีสี ไม่มีนิวเคลียส มีอายุประมาณ
4 วัน ทำหน้าที่ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
เส้นเลือด
เส้นเลือด แบ่งเป็น 3 ระบบ คือ
1. ระบบอาร์เทอรี่ (Artery) คือ ระบบของเส้นเลือด
ที่มีทิศทางออกจากหัวใจไปปอดและส่วนต่างๆของร่างกาย เลือดที่บรรจุอยู่ภายใน
เป็นเลือดที่มีออกซิเจนสูง มักเรียกว่า เส้นเลือดแดง
ที่มีทิศทางออกจากหัวใจไปปอดและส่วนต่างๆของร่างกาย เลือดที่บรรจุอยู่ภายใน
เป็นเลือดที่มีออกซิเจนสูง มักเรียกว่า เส้นเลือดแดง
2. ระบบเวน (Vein) คือ ระบบเส้นเลือด ที่มีทิศทางออกจากปอด
และส่วนต่างๆของร่างกาย เข้าสู่หัวใจ เลือดที่บรรจุอยู่ภายใน
เป็นเลือดที่มีออกซิเจนต่ำ มักเรียกว่า เส้นเลือดดำ
3. ระบบเส้นเลือดฝอย จะอยู่ระหว่างระบบอาร์เทอรี่ และระบบเวน
จะติดต่อเชื่อมโยงกัน เส้นเลือดฝอย ซึ่งแทรกอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย
เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนอาหาร ก๊าซ สารต่างๆ
และของเสียระหว่างเลือดกับเซลล์ของร่างกาย
และส่วนต่างๆของร่างกาย เข้าสู่หัวใจ เลือดที่บรรจุอยู่ภายใน
เป็นเลือดที่มีออกซิเจนต่ำ มักเรียกว่า เส้นเลือดดำ
3. ระบบเส้นเลือดฝอย จะอยู่ระหว่างระบบอาร์เทอรี่ และระบบเวน
จะติดต่อเชื่อมโยงกัน เส้นเลือดฝอย ซึ่งแทรกอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย
เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนอาหาร ก๊าซ สารต่างๆ
และของเสียระหว่างเลือดกับเซลล์ของร่างกาย
ปอด (lung)
พบในสัตว์มีกระดูกสันหลังที่อยู่บนบกทั่วไป
อากาศจากภายนอกจะผ่านเข้าทางรูจมูก ผ่านหลอดลมเข้าสู่ปอด ภายในปอด
อากาศจะเข้าไปยังถุงลมเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไป รอบๆ ถุงลงเหล่านี้
มีเส้นเลือดฝอยมาล้อมรอบ
ในเม็ดเลือดแดงมีฮีโมโกลบินซึ่งเป็นรงควัตถุที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
(respiratory pigment)
ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากถุงลมที่แพร่ผ่านเข้าไปในกระแสเลือดไปยังเซลล์
ทั่วร่างกาย
เพื่อช่วยในการสร้างพลังงานและในการนี้จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นของ
เสียออกนอกเซลล์และนอกร่างกาย (ดูรายละเอียดของการแลก
เปลี่ยนแก๊สโดยใช้ปอดในหัวข้อต่อไป)
การไหลเวียนเลือดในปลา
ปลามีหัวใจ 2 ห้องโดยเลือดจะ
ปั๊มออกทาง เวนทริเคิล ไปยังเส้นเลือด
ฝอยบริเวณเหงือกเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซ
เลือดที่ฟอกแล้วจะออกไปตามระบบเส้นเลือดแดง
ไปยังเส้นเลือดฝอยเลี้ยงส่วนต่าง ๆของร่างกาย
ก่อนที่จะไหลกลับไปตามเส้นเลือดดำเข้าสู่เอเตรียมของหัวใจ
ปั๊มออกทาง เวนทริเคิล ไปยังเส้นเลือด
ฝอยบริเวณเหงือกเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซ
เลือดที่ฟอกแล้วจะออกไปตามระบบเส้นเลือดแดง
ไปยังเส้นเลือดฝอยเลี้ยงส่วนต่าง ๆของร่างกาย
ก่อนที่จะไหลกลับไปตามเส้นเลือดดำเข้าสู่เอเตรียมของหัวใจ