• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:15a245b61231ead4feca12d2ea8d0eb9' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><b><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: red; font-size: 14pt\">อย่างไรถึงเรียกว่า</span></b><b><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: red; font-size: 14pt\"><span>  </span>“<span lang=\"TH\">ประมาท</span>”<o:p></o:p></span></b><b><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: red; font-size: 14pt\"><o:p> </o:p></span></b><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">คำว่า </span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">“<span lang=\"TH\">ประมาท</span>”<span lang=\"TH\"> มีใช้ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา โดยในคดีอาญา <span style=\"background: fuchsia\">ป.อ.มาตรา 59วรรคแรก</span> บัญญัติว่า </span>“<u><span lang=\"TH\">บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา<span>  </span>เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท<span>  </span>ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาทหรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้แจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา</span>”</u><span lang=\"TH\"><span>  </span>แสดงให้เห็นว่าในคดีอาญาแม้ผู้กระทำไม่ได้มีเจตนาก็อาจต้องรับผิดได้หากกระทำโดยประมาทและกฎหมายได้บัญญัติไว้ว่าหากกระทำโดยประมาทก็ต้องรับผิด เช่นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส </span>,<span lang=\"TH\">ความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\">ส่วนในคดีแพ่งเรื่องละเมิดนั้น ในบททั่วไปคือ ป.พ.พ. มาตรา 420 ได้วางหลักไว้เช่นเดียวกับ ป.อ.คือแม้กระทำโดยไม่ได้จงใจ แต่ว่ากระทำโดยประมาท ก็อาจต้องรับผิดในผลของการละเมิดได้ หลักดังกล่าวนี้ใช้ได้กับกรณีที่แพทย์ทำการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยคือแม้แพทย์มีเจตนาดีไม่ได้จงใจกระทำให้ผู้ป่วยเสียหาย แต่หากได้กระทำไปด้วยความประมาทเลินเล่อแพทย์ก็อาจต้องรับผิด จึงเกิดคำถามว่าแล้วศาลใช้หลักเกณฑ์ใดมาตัดสินว่าเป็นการกระทำโดยประมาท ผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อตอบคำถามดังกล่าวดังต่อไปนี้</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"> <o:p></o:p></span></span><b><u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: gray; font-size: 10pt\">หลักเกณฑ์ที่ใช้วินิจฉัยว่าเป็นการกระทำโดยประมาท</span></u></b><b><u><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: gray; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></u></b><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\">ดังได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าการกระทำโดยประมาทมีใช้ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาโดยในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้บัญญัติความหมายของคำว่า </span>“<span lang=\"TH\">ประมาท</span>”<span lang=\"TH\">ไว้ ดังนั้นจึงต้องถือเอาความหมายตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งได้อธิบายความหมายไว้ตาม <span style=\"background: fuchsia\">มาตรา </span></span><span style=\"background: fuchsia\">59<span lang=\"TH\">วรรค</span>4</span> <span lang=\"TH\">ดังนี้ </span><b>“</b></span><u><span lang=\"TH\"><span style=\"color: #000000\">การกระทำโดยประมาท<span>  </span>ได้แก่การกระทำความผิดมิใช่โดยเจตนาแต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่ง</span><b><i><span style=\"color: purple\">บุคคลในภาวะเช่นนั้น</span></i></b><span style=\"color: #000000\">จักต้องมีตาม</span><b><i><span style=\"color: purple\">วิสัย</span></i></b><span style=\"color: #000000\">และ</span><b><i><span style=\"color: purple\">พฤติการณ์</span></i></b><span style=\"color: #000000\"><span>  </span>และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่</span></span><span style=\"color: #000000\">”<span lang=\"TH\"><span>  </span></span></span></u><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\"><span>  </span>ซึ่งขอจำแนกดังนี้</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span>1) <span lang=\"TH\">ต้องไม่ใช่การกระทำโดยเจตนา( ถ้าเป็นคดีแพ่งจะใช้คำว่า ไม่ได้จงใจ)</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span>2) <span lang=\"TH\">ต้องเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่ง<u>บุคคล</u> <u>ในภาวะเช่นนั้น</u>ต้องมีตาม<u>วิสัย</u>และ<u>พฤติการณ์</u></span><span>  </span><span lang=\"TH\">จะเห็นได้ว่าในข้อนี้มีปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา </span>4 <span lang=\"TH\">ข้อคือ</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\"><span>      </span></span>2.1 <u><span lang=\"TH\" style=\"background: aqua\">บุคคล</span></u><span lang=\"TH\"><span>  </span>หมายความว่า ความระมัดระวังของบุคคลที่แตกต่างกันย่อมมีไม่เท่ากัน เช่นจะเอาความระมัดระวังของเด็กไปเปรียบเทียบกับความระมัดระวังของผู้ใหญ่ไม่ได้<span>  </span>หรือ ศัลยแพทย์ก็ควรต้องมีความระมัดระวังในการผ่าตัดมากกว่าแพทย์ทั่วไป<span>  </span>สรุปก็คือว่าการที่จะวัดความระมัดระวังของผู้กระทำจะต้องคำนึงถึง เพศ<span>  </span>อายุ<span>  </span>อาชีพ<span>  </span>ฐานะ ให้เป็นอย่างเดียวกับผู้กระทำด้วย</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\"><span>      </span></span>2.2 <u><span lang=\"TH\" style=\"background: aqua\">ในภาวะเช่นนั้น</span><span lang=\"TH\"> </span></u><span lang=\"TH\">หมายถึง ขณะทำการนั้น เช่นขณะขับรถควรมีความระมัดระวังเพียงใด</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span>      </span>2.3 <u><span lang=\"TH\" style=\"background: aqua\"><span> </span>วิสัย</span></u><span lang=\"TH\"> หมายถึงสภาพภายในตัวผู้กระทำ เช่น วิสัยของเด็ก(ที่ต้องซุกซน) </span>,<span lang=\"TH\"> วิสัยของแพทย์</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">ซึ่งต้องมีการพิจารณาถึง อายุ เพศ การศึกษาอบรม ความจัดเจนแห่งชีวิต ประกอบด้วย</span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\"><span>      </span></span>2.4 <u><span lang=\"TH\" style=\"background: aqua\">พฤติการณ์</span></u><span lang=\"TH\"><span>  </span>หมายถึงสภาพภายนอกของตัวผู้กระทำ เช่นสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ขับรถขณะมืดสนิทก็ย่อมมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่ากับขับรถในเวลากลางวันดังนั้นผู้ขับรถในทางที่มืดสนิทย่อมใช้ความระมัดระวังได้ไม่เท่ากับผู้ที่ขับรถในเวลากลางวันหรือกรณีที่ผู้ป่วยป่วยหนักกลางป่าต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉิน<span>  </span>(เช่น ทหารได้รับบาดเจ็บจากการรบ)แพทย์ก็ย่อมไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้เท่ากับการผ่าตัดในโรงพยาบาลที่อยู่ในเมือง</span><o:p></o:p></span></span><b><u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: gray; font-size: 10pt\">การสมมุติบุคคลขึ้นเปรียบเทียบ</span></u></b><b><u><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: gray; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></u></b><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\">จากหลักเกณฑ์ที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นพื้นฐานให้เราได้ทราบหลักที่ใช้ในการตัดสินว่าการกระทำนั้นเป็น ประมาทหรือไม่<span>  </span>แต่ในทางปฏิบัติจะต้องมีการสมมุติบุคคลขึ้นเพื่อเปรียบเทียบกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา(จำเลย)โดยบุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นมานี้ต้องมีทุกอย่างเช่นเดียวกับจำเลยกล่าวคือ ต้องมีอายุ</span>,<span lang=\"TH\"> ความรู้ความสามารถ</span>,<span lang=\"TH\">ฐานะรวมทั้งมีวิสัยและอยู่ในภาวะและพฤติการณ์เช่นเดียวกับจำเลยแล้วศาลจะดูว่าบุคคลที่สมมุติขึ้นนี้<u>โดยปกติ</u> ( ถือความระมัดระวังในระดับมาตรฐาน ซึ่งในภาษาอังกฤษใช้คำว่า </span>reasonable<span>  </span>man <span lang=\"TH\">) เขาจะมีความระมัดระวังได้มากกว่าจำเลยหรือไม่ถ้าบุคคลที่สมมุติขึ้นไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีกว่าจำเลย ศาลก็จะวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ประมาทแต่ในทางตรงกันข้าม หากบุคคลที่สมมุติขึ้นปกติแล้วควรมีความระมัดระวังมากกว่าจำเลย ศาลก็จะวินิจฉัยว่าจำเลยประมาท เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นขอยกตัวอย่างจากคำพิพากษาฎีกาดังนี้</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; background: aqua; font-size: 10pt\">ฎีกาที่</span></u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; background: aqua; font-size: 10pt\"> 769/2510</span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span>  </span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">“<span lang=\"TH\">จำเลยเป็นหญิงอายุ 28 ปี ขับรถมาคนเดียว ขณะรอสัญญาณไฟเมื่อเวลา 21 นาฬิกา ได้มีคนร้ายเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่และใช้ระเบิดมือขู่ให้ขับรถไป<span>  </span>จำเลยตกใจขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟออกไปชนรถที่แล่นสวนมาโดยไม่ได้เจตนา<span>  </span>ตามพฤติการณ์เช่นนี้ จะว่าการชนเกิดเพราะความประมาทของจำเลยไม่ได้ เพราะบุคคลที่อยู่ในภาวะตกตะลึงกลัวจะให้มีความระมัดระวังเช่นบุคคลปกติหาได้ไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่รถชนกันเช่นนั้น</span>”<o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">คำพิพากษานี้เป็นตัวอย่างในการวินิจฉัยทั้ง 4 คำ คือ <u>บุคคล</u> ซึ่งในที่นี้เป็นผู้หญิงดังนั้นการตกใจก็ต้องมีมากกว่าผู้ชาย<span>  </span>โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนร้ายเข้ามานั่งคู่แล้วมีระเบิดด้วย<span>  </span><u>ในภาวะเช่นนั้น</u>คือเมื่อถูกขู่ด้วยระเบิดก็ต้องตกใจกลัวเป็นธรรมดา <u>วิสัย</u> ของผู้หญิงที่เจอคนร้ายเข้าไปในรถก็ต้องกลัว<span>  </span><u>พฤติการณ์</u> คือเป็นเวลากลางคืนและคนร้ายถือระเบิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องตกใจกลัว จากการพิจารณาปัจจัยทั้งสี่แล้วหากสมมุติบุคคลขึ้นมาเปรียบเทียบกับจำเลยโดยต้องเป็นผู้หญิงและตกอยู่ในสภาพและสถานการณ์เช่นเดียวกับจำเลย ซึ่งคงไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีไปกว่าจำเลย ศาลจึงเห็นได้ว่าการขับรถของจำเลยที่ฝ่าไฟแดงไปชนรถของโจทก์เสียหาย<u>ไม่ใช่การประมาทเลินเล่อ</u></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">ในคดีที่มีการกล่าวหาว่าแพทย์กระทำโดยประมาท ก็ใช้หลักการเดียวกับที่ได้กล่าวข้างต้นในการวินิจฉัยโดยจะมีการสมมุติแพทย์ขึ้นมาอีกคนให้มีวิสัยและอยู่ในภาวะรวมถึงพฤติการณ์เช่นเดียวกับแพทย์ที่ตกเป็นจำเลย</span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">แล้วดูว่าแพทย์ที่สมมุติขึ้นสามารถใช้ความระมัดระวังได้มากหรือน้อยกว่าจำเลย ตัวอย่างเช่น นาย ก เป็นศัลยแพทย์ที่อยู่เวร ในโรงพยาบาล </span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">60 <span lang=\"TH\">เตียง ได้ทำการตรวจ นาย อ่วม ที่ถูกรถยนต์ชน ซึ่งมีอาการช็อค นาย ก วินิจฉัยว่า ผู้ป่วยมีเลือดออกในช่องท้องอย่างมากจำเป็นต้องทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด โดยนาย ก ไม่สามารถ </span>refer<o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">ผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่มีศักยภาพที่ดีกว่าได้เพราะอยู่ห่างกัน ประมาณ </span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">100<span lang=\"TH\"> กม</span>.<span lang=\"TH\"> ขณะทำการผ่าตัดผู้ป่วยตายเพราะเสียเลือดมาก ภรรยาของนายอ่วมจึงฟ้องนาย ก</span>. <span lang=\"TH\">เป็นคดีอาญาในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อึ่นเสียชีวิต<span>  </span>ดังนั้นในการวินิจฉัยว่า นาย ก</span>. <span lang=\"TH\">กระทำการโดยประมาทหรือไม่ ต้องมีการสมมุติคนๆหนึ่งขึ้นมาโดยให้เป็นศัลยแพทย์ที่อยู่ในสภาพเช่นเดียวกับนาย ก</span>. <span lang=\"TH\">(คือต้องอยู่ในรพ</span>.<span lang=\"TH\">ที่มีข้อจำกัดด้านศักยภาพเช่นเดียวกัน)แล้วดูว่าคนที่ถูกสมมุติขึ้นนี้สามารถใช้ความระมัดระวัง(ระดับปกติ)ได้มากหรือน้อยกว่า นาย ก</span>. <span lang=\"TH\">หากเห็นว่าไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีไปกว่านาย ก</span>. <span lang=\"TH\">ก็ถือว่านาย ก</span>.<span lang=\"TH\">ไม่ได้ประมาท<span>   </span></span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"> <span>           </span><span lang=\"TH\">ขอยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวกับคดีฟ้องแพทย์ดังนี้</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; background: aqua; font-size: 10pt\">ฎีกาที่</span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; background: aqua; font-size: 10pt\">7452/2541</span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"> <span lang=\"TH\">จำเลยเป็นแพทย์แจ้งโจทก์ว่ามีเด็กตายในท้อง โจทก์จึงยินยอมให้ขูดมดลูกและทำแท้งแต่เครื่องมือแพทย์ที่เข้าไปขูดมดลูกได้เกี่ยวเอาลำไส้และดึงออกมา จำเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังตามปกติวิสัยของแพทย์ นับเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย ซึ่งต่อมาโจทก์ต้องถูกตัดลำไส้ที่ทะลักออกมาทิ้งไป จำเลยต้องรับผิด</span><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\">หมายเหตุ</span></u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span>  </span>กรณีที่จำเลยประมาท<span>  </span>แม้ว่าตัวผู้เสียหายเองจะมีส่วนประมาทด้วยก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดในความประมาทของจำเลย</span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></span><b><u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: gray; font-size: 10pt\">สรุป</span></u></b><b><u><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: gray; font-size: 10pt\"><o:p></o:p></span></u></b><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\"><span>            </span><span lang=\"TH\">จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า ในการวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญาใช้หลักเกณฑ์เดียวกันโดยจะถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาทต่อเมื่อกระทำโดยไม่ได้มีเจตนา(คดีแพ่งใช้คำว่าไม่ได้จงใจ) แต่ทำโดยไม่ได้ใช้ความระมัดระวังที่ดีพอโดยต้องพิจารณาเรื่องวิสัย ภาวะ พฤติการณ์ ประกอบด้วย โดยจะมีการสมมุติตัวบุคคลขึ้นมาให้อยู่ในภาวะ</span>,<span lang=\"TH\">วิสัย</span>,<span lang=\"TH\">และพฤติการณ์เช่นเดียวกับจำเลยแล้วดูว่าบุคคลที่สมมุติขึ้นมาโดยปกติแล้วเขาใช้ความระมัดระวังได้ดีกว่าจำเลยหรือไม่ หากสามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีกว่า ก็ถือว่าจำเลยประมาท</span><o:p></o:p></span></span> </p>\n<div align=\"center\" class=\"MsoNormal\" style=\"text-align: center; margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><span style=\"color: #000000\">\n<hr width=\"100%\" SIZE=\"2\" align=\"center\" />\n</span></span>\n</div>\n<p><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; font-size: 10pt\"><o:p><span style=\"color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: black; font-size: 10pt\"> <o:p></o:p></span><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000; font-size: small\"> </span></o:p><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000; font-size: small\"> </span></o:p><strong><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 20pt\">วินัยและการรักษาวินัยข้าราชการ</span><span style=\"font-size: 20pt\"><o:p></o:p></span></span></span></strong><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><strong><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></strong></o:p></span><span style=\"color: #000000\"><b><u><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">วินัยข้าราชการ</span></u></b><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"> </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">หมายถึง ข้อกำหนดเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติที่ทางราชการได้เขียนขึ้นไว้ให้ข้าราชการประพฤติและปฏิบัติตาม หากไม่ประพฤติหรือปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามที่กำหนดไว้ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องรักษาวินัยและจรรยาบรรณตามที่บัญญัติไว้ในหมวด </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">5 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ศ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">. 2547<span>  </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ดังนี้</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">1.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">                </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">38)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">2.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">                </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ขยันหมั่นเพียร และดูแลเอาใจใส่รักษาประโยชน์ของทางราชการ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\">ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ราชการของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การปฏิบัติหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชนที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของทางราชการ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของทางราชการ หรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวัง รักษาประโยชน์ของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>  </span>(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">39)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span>3.<span>   </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาการรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้ง ถือว่าเป็นการรานงานเท็จด้วย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">                   </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">40)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span>4. </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี มีความสุภาพเรียบร้อย วางตนให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย อุทิศเวลาให้กับทางราชการอย่างเต็มที่ รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลในการปฏิบัติหน้าที่ราชการระหว่างผู้ร่วมปฏิบัติราชการด้วยกัน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">                   </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การกลั่นแกล้ง การดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ ข่มเหง ผู้ร่วมปฏิบัติราชการ นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือประชาชนอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">41)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"color: #000000\"><span>          </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"color: #000000\"><span>                                                </span>- 2 -<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">5. </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องไม่ทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน การกระทำดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"> (</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">42)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span>6. </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการหรือดำรงตำแหน่งอื่นที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันนั้น ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เว้นแต่เป็นการปฏิบัติราชการหรือได้รับมอบหมายจากอธิการบดี </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">43)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">7. </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใด ๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">          </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">44)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span>8.<span>  </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ต้องปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษากำหนด</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span><span>     </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ในการกำหนดจรรยาบรรณตามวรรคหนึ่ง ให้สภาสถาบันอุดมศึกษารับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาประกอบด้วย </span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span><span>    </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">จรรยาบรรณที่กำหนดขึ้น จะกำหนดว่าการประพฤติผิดจรรยาบรรณในเรื่องใดเป็นความผิดวินัยหรือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงด้วยก็ได้ </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">45)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span>9. </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดประพฤติผิดจรรยาบรรณที่เป็นความผิดวินัยหรือผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าการประพฤติผิดจรรยาบรรณนั้นไม่เป็นความผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตักเตือน สั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดหรือทำทัณฑ์บน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">          </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือน ดำเนินการให้ถูกต้องหรือฝ่าฝืนทัณฑ์บน ให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">               </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">หลักเกณฑ์และวิธีการในการตักเตือน การมีคำสั่ง หรือการทำทัณฑ์บนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามข้อบังคับที่สภาสถาบันอุดมศึกษากำหนด</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">46)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span>10. </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ผู้บังคับบัญชาผู้ใดเมื่อปรากฎว่ามีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดกระทำผิดวินัยละเลยไม่ดำเนินการทางวินัยตามหมวด </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">6 (</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การดำเนินการทางวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">) </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>          </span><span>   </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ผู้บังคับบัญชาผู้ใดกลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชาในการกล่าวหาหรือดำเนินการทางวินัย ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้นกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มาตรา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">47)<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><b><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"color: #000000\">- 3 -<o:p></o:p></span></span></span></b><b><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span></b><span style=\"color: #000000\"><b><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">โทษทางวินัยมี </span></b><b><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">5 </span></span></b><b><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">สถาน คือ</span></b><b><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></b></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">1.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ภาคทัณฑ์</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">2.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ตัดเงินเดือน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">3.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ลดขั้นเงินเดือน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">4.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ปลดออก</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">5.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ไล่ออก</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-size: 20pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"font-size: 20pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span> </p>\n<h1 align=\"center\" style=\"text-align: center; margin: 0cm 0cm 0pt 36pt\"><strong><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 20pt\">วินัยและการรักษาวินัยของพนักงานมหาวิทยาลัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span></span></strong></h1>\n<p><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">      </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้ในประกาศ ก</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">บ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่องวินัย และการรักษาวินัย ของพนักงานมหาวิทยาลัย ประกาศ<span>  </span>ณ วันที่ </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">29 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มีนาคม<span>  </span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">2543 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัย ต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติทางวินัยที่กำหนดไว้ ผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย จึงต้องได้รับโทษทางวินัย </span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">1.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">2.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span><span><span style=\"font-size: large\">      </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\">ห้ามมิให้อาศัยหรือยินยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span>     </span><span lang=\"TH\">การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่และถือเป็นความผิดวินัย</span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">3.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่หน่วยงาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">4.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของหน่วยงานและต้องไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\">การประมาทเลินเล่อในหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">5.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบของหน่วยงานและนโยบายของมหาวิทยาลัยโดยไม่ให้เสียหายแก่หน่วยงาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Cordia New\">-</span><span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">          </span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Cordia New\">4 –<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Cordia New; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\">การปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงาน หรือนโยบายของมหาวิทยาลัยอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">6.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องรักษาความลับของหน่วยงาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: Cordia New\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\">การเปิดเผยความลับของหน่วยงาน อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">7.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">     </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของหน่วยงาน โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามคำสั่งนั้นจะทำให้เสียหายแก่หน่วยงาน หรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของหน่วยงาน จะ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">เสนอความเห็นเป็นหนังสือทันที เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งนั้นก็ได้ และเมื่อได้เสนอความเห็นแล้ว ถ้าผู้บังคับบัญชายืนยันให้ปฏิบัติตามคำสั่งเดิม ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติตาม</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">    </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของหน่วยงาน อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงานถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">8.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติงานโดยมิให้เป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็นผู้สั่งให้กระทำหรือได้รับอนุญาตเป็นพิเศษเป็นครั้งคราว</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">9.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา การรายงานโดยปกปิด ข้อความซึ่งควรต้องแจ้งถือว่าเป็นการรายงานเท็จด้วย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">                          </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">10.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">           </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องถือและปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของหน่วยงาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">11.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">           </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องอุทิศเวลาของตนให้แก่หน่วยงานจะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่มิได้</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงานหรือละทิ้งหน้าที่ติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าเจ็ดวันโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span>-<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">         </span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\">5 –<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">12.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">           </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องสุภาพเรียบร้อย รักษาความสามัคคีและไม่กระทำการอย่างใดที่เป็นการกลั่นแกล้งกันและต้องช่วยเหลือกันในการปฏิบัติงานระหว่างผู้ร่วมปฏิบัติงาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">13.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">           </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องต้อนรับ ให้ความสะดวก ให้ความเป็นธรรมและให้การบริการแก่ผู้มาติดต่องานเกี่ยวกับหน้าที่ของตนโดยไม่ชักช้าและด้วยความสุภาพเรียบร้อย ห้ามมิให้ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่หรือข่มเหงผู้มาติดต่องาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้มาติดต่องาน ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">14.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">           </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องไม่กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาผลประโยชน์อันอาจทำให้เสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ของตน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">15.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\"> </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">16.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">           </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานมหาวิทยาลัยต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใด ๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">                       </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือให้รับโทษที่หนักกว่าจำคุก</span><span lang=\"TH\" style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"> </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ถือเป็นความผิดวินัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">                   </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การดำเนินการทางวินัยแก่พนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งมีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ให้สอบสวนเพื่อให้ได้ความจริงและยุติธรรมโดยไม่ชักช้า</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">                   </span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานระดับคณะ สถาบัน สำนัก พิจารณาเห็นว่า กรณีการกระทำผิดวินัยของพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ใดจำเป็นจะต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อทราบมูลแห่งความผิดก่อนที่จะพิจารณาดำเนินการต่อไป ก็ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนได้</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><strong><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Cordia New\',\'sans-serif\'\">โทษผิดวินัย มี </span><span style=\"font-family: \'Cordia New\',\'sans-serif\'\">3 <span lang=\"TH\">ระดับ ได้แก่</span><o:p></o:p></span></span></span></strong><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">1.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ภาคทัณฑ์</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">2.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ตัดค่าจ้าง</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span><span style=\"font-family: Times New Roman\">3.<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">    </span></span></span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ปลดออก</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">หัวหน้าหน่วยงาน</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">(</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">ในระดับคณะคือคณบดี</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">)</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มีอำนาจการลงโทษพนักงานมหาวิทยาลัย ในระดับภาคทัณฑ์ และตัดค่าจ้างได้ไม่เกินร้อยละ </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">5 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มีกำหนด </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">3 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">เดือน เมื่อได้ลงโทษแล้วให้รายงาน ก</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">บ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มหาวิทยาลัยพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเวลา </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">15 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">วัน นับแต่วันที่ได้มีคำสั่งลงโทษ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt\"><span>-<span style=\"font: 7pt \'Times New Roman\'\">         </span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\">6 –<o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p><span style=\"font-family: Times New Roman; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">การลงโทษเกินกว่าที่กำหนดให้เป็นอำนาจของ ก</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">บ</span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">.</span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">มหาวิทยาลัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><strong><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Cordia New\',\'sans-serif\'\">การอุทธรณ์</span><span style=\"font-family: \'Cordia New\',\'sans-serif\'\"><o:p></o:p></span></span></span></strong><span style=\"color: #000000\"><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">พนักงานสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งลงโทษได้ ภายใน </span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"font-family: Times New Roman\">30 </span></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 16pt\">วัน โดยให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ประจำมหาวิทยาลัย</span><span style=\"font-size: 16pt\"><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>                   </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: 16pt\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Times New Roman\"><span>                                                   </span>………………………<o:p></o:p></span></span></span></p>\n', created = 1719382529, expire = 1719468929, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:15a245b61231ead4feca12d2ea8d0eb9' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

การประมาท !

รูปภาพของ pnp34378

อย่างไรถึงเรียกว่า  ประมาท คำว่า ประมาท มีใช้ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา โดยในคดีอาญา ป.อ.มาตรา 59วรรคแรก บัญญัติว่า บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา  เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท  ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาทหรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้แจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา  แสดงให้เห็นว่าในคดีอาญาแม้ผู้กระทำไม่ได้มีเจตนาก็อาจต้องรับผิดได้หากกระทำโดยประมาทและกฎหมายได้บัญญัติไว้ว่าหากกระทำโดยประมาทก็ต้องรับผิด เช่นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ,ความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท            ส่วนในคดีแพ่งเรื่องละเมิดนั้น ในบททั่วไปคือ ป.พ.พ. มาตรา 420 ได้วางหลักไว้เช่นเดียวกับ ป.อ.คือแม้กระทำโดยไม่ได้จงใจ แต่ว่ากระทำโดยประมาท ก็อาจต้องรับผิดในผลของการละเมิดได้ หลักดังกล่าวนี้ใช้ได้กับกรณีที่แพทย์ทำการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยคือแม้แพทย์มีเจตนาดีไม่ได้จงใจกระทำให้ผู้ป่วยเสียหาย แต่หากได้กระทำไปด้วยความประมาทเลินเล่อแพทย์ก็อาจต้องรับผิด จึงเกิดคำถามว่าแล้วศาลใช้หลักเกณฑ์ใดมาตัดสินว่าเป็นการกระทำโดยประมาท ผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อตอบคำถามดังกล่าวดังต่อไปนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้วินิจฉัยว่าเป็นการกระทำโดยประมาท            ดังได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าการกระทำโดยประมาทมีใช้ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาโดยในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้บัญญัติความหมายของคำว่า ประมาทไว้ ดังนั้นจึงต้องถือเอาความหมายตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งได้อธิบายความหมายไว้ตาม มาตรา 59วรรค4 ดังนี้ การกระทำโดยประมาท  ได้แก่การกระทำความผิดมิใช่โดยเจตนาแต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์  และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่    ซึ่งขอจำแนกดังนี้            1) ต้องไม่ใช่การกระทำโดยเจตนา( ถ้าเป็นคดีแพ่งจะใช้คำว่า ไม่ได้จงใจ)            2) ต้องเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคล ในภาวะเช่นนั้นต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์  จะเห็นได้ว่าในข้อนี้มีปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา 4 ข้อคือ                  2.1 บุคคล  หมายความว่า ความระมัดระวังของบุคคลที่แตกต่างกันย่อมมีไม่เท่ากัน เช่นจะเอาความระมัดระวังของเด็กไปเปรียบเทียบกับความระมัดระวังของผู้ใหญ่ไม่ได้  หรือ ศัลยแพทย์ก็ควรต้องมีความระมัดระวังในการผ่าตัดมากกว่าแพทย์ทั่วไป  สรุปก็คือว่าการที่จะวัดความระมัดระวังของผู้กระทำจะต้องคำนึงถึง เพศ  อายุ  อาชีพ  ฐานะ ให้เป็นอย่างเดียวกับผู้กระทำด้วย                  2.2 ในภาวะเช่นนั้น หมายถึง ขณะทำการนั้น เช่นขณะขับรถควรมีความระมัดระวังเพียงใด                  2.3  วิสัย หมายถึงสภาพภายในตัวผู้กระทำ เช่น วิสัยของเด็ก(ที่ต้องซุกซน) , วิสัยของแพทย์ซึ่งต้องมีการพิจารณาถึง อายุ เพศ การศึกษาอบรม ความจัดเจนแห่งชีวิต ประกอบด้วย                  2.4 พฤติการณ์  หมายถึงสภาพภายนอกของตัวผู้กระทำ เช่นสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ขับรถขณะมืดสนิทก็ย่อมมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่ากับขับรถในเวลากลางวันดังนั้นผู้ขับรถในทางที่มืดสนิทย่อมใช้ความระมัดระวังได้ไม่เท่ากับผู้ที่ขับรถในเวลากลางวันหรือกรณีที่ผู้ป่วยป่วยหนักกลางป่าต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉิน  (เช่น ทหารได้รับบาดเจ็บจากการรบ)แพทย์ก็ย่อมไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้เท่ากับการผ่าตัดในโรงพยาบาลที่อยู่ในเมืองการสมมุติบุคคลขึ้นเปรียบเทียบ            จากหลักเกณฑ์ที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นพื้นฐานให้เราได้ทราบหลักที่ใช้ในการตัดสินว่าการกระทำนั้นเป็น ประมาทหรือไม่  แต่ในทางปฏิบัติจะต้องมีการสมมุติบุคคลขึ้นเพื่อเปรียบเทียบกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา(จำเลย)โดยบุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นมานี้ต้องมีทุกอย่างเช่นเดียวกับจำเลยกล่าวคือ ต้องมีอายุ, ความรู้ความสามารถ,ฐานะรวมทั้งมีวิสัยและอยู่ในภาวะและพฤติการณ์เช่นเดียวกับจำเลยแล้วศาลจะดูว่าบุคคลที่สมมุติขึ้นนี้โดยปกติ ( ถือความระมัดระวังในระดับมาตรฐาน ซึ่งในภาษาอังกฤษใช้คำว่า reasonable  man ) เขาจะมีความระมัดระวังได้มากกว่าจำเลยหรือไม่ถ้าบุคคลที่สมมุติขึ้นไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีกว่าจำเลย ศาลก็จะวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ประมาทแต่ในทางตรงกันข้าม หากบุคคลที่สมมุติขึ้นปกติแล้วควรมีความระมัดระวังมากกว่าจำเลย ศาลก็จะวินิจฉัยว่าจำเลยประมาท เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นขอยกตัวอย่างจากคำพิพากษาฎีกาดังนี้ฎีกาที่ 769/2510  จำเลยเป็นหญิงอายุ 28 ปี ขับรถมาคนเดียว ขณะรอสัญญาณไฟเมื่อเวลา 21 นาฬิกา ได้มีคนร้ายเปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่และใช้ระเบิดมือขู่ให้ขับรถไป  จำเลยตกใจขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟออกไปชนรถที่แล่นสวนมาโดยไม่ได้เจตนา  ตามพฤติการณ์เช่นนี้ จะว่าการชนเกิดเพราะความประมาทของจำเลยไม่ได้ เพราะบุคคลที่อยู่ในภาวะตกตะลึงกลัวจะให้มีความระมัดระวังเช่นบุคคลปกติหาได้ไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิด จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่รถชนกันเช่นนั้นคำพิพากษานี้เป็นตัวอย่างในการวินิจฉัยทั้ง 4 คำ คือ บุคคล ซึ่งในที่นี้เป็นผู้หญิงดังนั้นการตกใจก็ต้องมีมากกว่าผู้ชาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนร้ายเข้ามานั่งคู่แล้วมีระเบิดด้วย  ในภาวะเช่นนั้นคือเมื่อถูกขู่ด้วยระเบิดก็ต้องตกใจกลัวเป็นธรรมดา วิสัย ของผู้หญิงที่เจอคนร้ายเข้าไปในรถก็ต้องกลัว  พฤติการณ์ คือเป็นเวลากลางคืนและคนร้ายถือระเบิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องตกใจกลัว จากการพิจารณาปัจจัยทั้งสี่แล้วหากสมมุติบุคคลขึ้นมาเปรียบเทียบกับจำเลยโดยต้องเป็นผู้หญิงและตกอยู่ในสภาพและสถานการณ์เช่นเดียวกับจำเลย ซึ่งคงไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีไปกว่าจำเลย ศาลจึงเห็นได้ว่าการขับรถของจำเลยที่ฝ่าไฟแดงไปชนรถของโจทก์เสียหายไม่ใช่การประมาทเลินเล่อในคดีที่มีการกล่าวหาว่าแพทย์กระทำโดยประมาท ก็ใช้หลักการเดียวกับที่ได้กล่าวข้างต้นในการวินิจฉัยโดยจะมีการสมมุติแพทย์ขึ้นมาอีกคนให้มีวิสัยและอยู่ในภาวะรวมถึงพฤติการณ์เช่นเดียวกับแพทย์ที่ตกเป็นจำเลยแล้วดูว่าแพทย์ที่สมมุติขึ้นสามารถใช้ความระมัดระวังได้มากหรือน้อยกว่าจำเลย ตัวอย่างเช่น นาย ก เป็นศัลยแพทย์ที่อยู่เวร ในโรงพยาบาล 60 เตียง ได้ทำการตรวจ นาย อ่วม ที่ถูกรถยนต์ชน ซึ่งมีอาการช็อค นาย ก วินิจฉัยว่า ผู้ป่วยมีเลือดออกในช่องท้องอย่างมากจำเป็นต้องทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด โดยนาย ก ไม่สามารถ referผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่มีศักยภาพที่ดีกว่าได้เพราะอยู่ห่างกัน ประมาณ 100 กม. ขณะทำการผ่าตัดผู้ป่วยตายเพราะเสียเลือดมาก ภรรยาของนายอ่วมจึงฟ้องนาย ก. เป็นคดีอาญาในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อึ่นเสียชีวิต  ดังนั้นในการวินิจฉัยว่า นาย ก. กระทำการโดยประมาทหรือไม่ ต้องมีการสมมุติคนๆหนึ่งขึ้นมาโดยให้เป็นศัลยแพทย์ที่อยู่ในสภาพเช่นเดียวกับนาย ก. (คือต้องอยู่ในรพ.ที่มีข้อจำกัดด้านศักยภาพเช่นเดียวกัน)แล้วดูว่าคนที่ถูกสมมุติขึ้นนี้สามารถใช้ความระมัดระวัง(ระดับปกติ)ได้มากหรือน้อยกว่า นาย ก. หากเห็นว่าไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีไปกว่านาย ก. ก็ถือว่านาย ก.ไม่ได้ประมาท               ขอยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวกับคดีฟ้องแพทย์ดังนี้ฎีกาที่7452/2541 จำเลยเป็นแพทย์แจ้งโจทก์ว่ามีเด็กตายในท้อง โจทก์จึงยินยอมให้ขูดมดลูกและทำแท้งแต่เครื่องมือแพทย์ที่เข้าไปขูดมดลูกได้เกี่ยวเอาลำไส้และดึงออกมา จำเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังตามปกติวิสัยของแพทย์ นับเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย ซึ่งต่อมาโจทก์ต้องถูกตัดลำไส้ที่ทะลักออกมาทิ้งไป จำเลยต้องรับผิดหมายเหตุ  กรณีที่จำเลยประมาท  แม้ว่าตัวผู้เสียหายเองจะมีส่วนประมาทด้วยก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดในความประมาทของจำเลยสรุป            จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า ในการวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญาใช้หลักเกณฑ์เดียวกันโดยจะถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาทต่อเมื่อกระทำโดยไม่ได้มีเจตนา(คดีแพ่งใช้คำว่าไม่ได้จงใจ) แต่ทำโดยไม่ได้ใช้ความระมัดระวังที่ดีพอโดยต้องพิจารณาเรื่องวิสัย ภาวะ พฤติการณ์ ประกอบด้วย โดยจะมีการสมมุติตัวบุคคลขึ้นมาให้อยู่ในภาวะ,วิสัย,และพฤติการณ์เช่นเดียวกับจำเลยแล้วดูว่าบุคคลที่สมมุติขึ้นมาโดยปกติแล้วเขาใช้ความระมัดระวังได้ดีกว่าจำเลยหรือไม่ หากสามารถใช้ความระมัดระวังได้ดีกว่า ก็ถือว่าจำเลยประมาท


    วินัยและการรักษาวินัยข้าราชการ วินัยข้าราชการ หมายถึง ข้อกำหนดเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติที่ทางราชการได้เขียนขึ้นไว้ให้ข้าราชการประพฤติและปฏิบัติตาม หากไม่ประพฤติหรือปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามที่กำหนดไว้ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องรักษาวินัยและจรรยาบรรณตามที่บัญญัติไว้ในหมวด 5 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.. 2547  ดังนี้1.                ต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ (มาตรา 38)2.                ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ขยันหมั่นเพียร และดูแลเอาใจใส่รักษาประโยชน์ของทางราชการห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ราชการของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่นการปฏิบัติหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชนที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของทางราชการการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของทางราชการ หรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวัง รักษาประโยชน์ของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง  (มาตรา 39)          3.   ต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาการรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้ง ถือว่าเป็นการรานงานเท็จด้วย                   การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง (มาตรา 40)          4. ต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี มีความสุภาพเรียบร้อย วางตนให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย อุทิศเวลาให้กับทางราชการอย่างเต็มที่ รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลในการปฏิบัติหน้าที่ราชการระหว่างผู้ร่วมปฏิบัติราชการด้วยกัน                   การกลั่นแกล้ง การดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ ข่มเหง ผู้ร่วมปฏิบัติราชการ นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือประชาชนอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง (มาตรา 41)                                                           - 2 -5. ต้องไม่ทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน การกระทำดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัย (มาตรา 42)          6. ต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการหรือดำรงตำแหน่งอื่นที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันนั้น ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เว้นแต่เป็นการปฏิบัติราชการหรือได้รับมอบหมายจากอธิการบดี (มาตรา 43)7. ต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใด ๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว          การกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง (มาตรา 44)          8.  ต้องปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษากำหนด               ในการกำหนดจรรยาบรรณตามวรรคหนึ่ง ให้สภาสถาบันอุดมศึกษารับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาประกอบด้วย               จรรยาบรรณที่กำหนดขึ้น จะกำหนดว่าการประพฤติผิดจรรยาบรรณในเรื่องใดเป็นความผิดวินัยหรือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงด้วยก็ได้ (มาตรา 45)          9. ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดประพฤติผิดจรรยาบรรณที่เป็นความผิดวินัยหรือผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าการประพฤติผิดจรรยาบรรณนั้นไม่เป็นความผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตักเตือน สั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดหรือทำทัณฑ์บน          ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือน ดำเนินการให้ถูกต้องหรือฝ่าฝืนทัณฑ์บน ให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัย               หลักเกณฑ์และวิธีการในการตักเตือน การมีคำสั่ง หรือการทำทัณฑ์บนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามข้อบังคับที่สภาสถาบันอุดมศึกษากำหนด(มาตรา 46)          10. ผู้บังคับบัญชาผู้ใดเมื่อปรากฎว่ามีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดกระทำผิดวินัยละเลยไม่ดำเนินการทางวินัยตามหมวด 6 (การดำเนินการทางวินัย) ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย             ผู้บังคับบัญชาผู้ใดกลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชาในการกล่าวหาหรือดำเนินการทางวินัย ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้นกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง (มาตรา 47) - 3 - โทษทางวินัยมี 5 สถาน คือ1.    ภาคทัณฑ์2.    ตัดเงินเดือน3.    ลดขั้นเงินเดือน4.    ปลดออก5.    ไล่ออก  

วินัยและการรักษาวินัยของพนักงานมหาวิทยาลัย

       พนักงานมหาวิทยาลัยต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้ในประกาศ ก..มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่องวินัย และการรักษาวินัย ของพนักงานมหาวิทยาลัย ประกาศ  ณ วันที่ 29 มีนาคม  2543 พนักงานมหาวิทยาลัย ต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติทางวินัยที่กำหนดไว้ ผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย จึงต้องได้รับโทษทางวินัย 1.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ2.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม      ห้ามมิให้อาศัยหรือยินยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่ของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น     การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่และถือเป็นความผิดวินัย3.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่หน่วยงาน4.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของหน่วยงานและต้องไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่การประมาทเลินเล่อในหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย5.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบของหน่วยงานและนโยบายของมหาวิทยาลัยโดยไม่ให้เสียหายแก่หน่วยงาน-          4 – การปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงาน หรือนโยบายของมหาวิทยาลัยอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย6.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องรักษาความลับของหน่วยงานการเปิดเผยความลับของหน่วยงาน อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย7.     พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของหน่วยงาน โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามคำสั่งนั้นจะทำให้เสียหายแก่หน่วยงาน หรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของหน่วยงาน จะเสนอความเห็นเป็นหนังสือทันที เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งนั้นก็ได้ และเมื่อได้เสนอความเห็นแล้ว ถ้าผู้บังคับบัญชายืนยันให้ปฏิบัติตามคำสั่งเดิม ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติตาม    การขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของหน่วยงาน อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงานถือเป็นความผิดวินัย8.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติงานโดยมิให้เป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปเป็นผู้สั่งให้กระทำหรือได้รับอนุญาตเป็นพิเศษเป็นครั้งคราว9.    พนักงานมหาวิทยาลัยต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา การรายงานโดยปกปิด ข้อความซึ่งควรต้องแจ้งถือว่าเป็นการรายงานเท็จด้วย                          การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย10.           พนักงานมหาวิทยาลัยต้องถือและปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมของหน่วยงาน11.           พนักงานมหาวิทยาลัยต้องอุทิศเวลาของตนให้แก่หน่วยงานจะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่มิได้การละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงานหรือละทิ้งหน้าที่ติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าเจ็ดวันโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงาน ถือเป็นความผิดวินัย -         5 – 12.           พนักงานมหาวิทยาลัยต้องสุภาพเรียบร้อย รักษาความสามัคคีและไม่กระทำการอย่างใดที่เป็นการกลั่นแกล้งกันและต้องช่วยเหลือกันในการปฏิบัติงานระหว่างผู้ร่วมปฏิบัติงาน13.           พนักงานมหาวิทยาลัยต้องต้อนรับ ให้ความสะดวก ให้ความเป็นธรรมและให้การบริการแก่ผู้มาติดต่องานเกี่ยวกับหน้าที่ของตนโดยไม่ชักช้าและด้วยความสุภาพเรียบร้อย ห้ามมิให้ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่หรือข่มเหงผู้มาติดต่องานการดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้มาติดต่องาน ถือเป็นความผิดวินัย14.           พนักงานมหาวิทยาลัยต้องไม่กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาผลประโยชน์อันอาจทำให้เสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ของตน15. พนักงานมหาวิทยาลัยต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่16.           พนักงานมหาวิทยาลัยต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใด ๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว                       การกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือให้รับโทษที่หนักกว่าจำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ถือเป็นความผิดวินัย                   การดำเนินการทางวินัยแก่พนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งมีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ให้สอบสวนเพื่อให้ได้ความจริงและยุติธรรมโดยไม่ชักช้า                   ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานระดับคณะ สถาบัน สำนัก พิจารณาเห็นว่า กรณีการกระทำผิดวินัยของพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ใดจำเป็นจะต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อทราบมูลแห่งความผิดก่อนที่จะพิจารณาดำเนินการต่อไป ก็ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนได้โทษผิดวินัย มี 3 ระดับ ได้แก่1.    ภาคทัณฑ์2.    ตัดค่าจ้าง3.    ปลดออกหัวหน้าหน่วยงาน(ในระดับคณะคือคณบดี)มีอำนาจการลงโทษพนักงานมหาวิทยาลัย ในระดับภาคทัณฑ์ และตัดค่าจ้างได้ไม่เกินร้อยละ 5 มีกำหนด 3 เดือน เมื่อได้ลงโทษแล้วให้รายงาน ก..มหาวิทยาลัยพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้มีคำสั่งลงโทษ-         6 – การลงโทษเกินกว่าที่กำหนดให้เป็นอำนาจของ ก..มหาวิทยาลัยการอุทธรณ์พนักงานสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งลงโทษได้ ภายใน 30 วัน โดยให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ประจำมหาวิทยาลัย                                                                      ………………………

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 499 คน กำลังออนไลน์