ไข้ทัยฟอยด์
ไข้ทัยฟอยด์
- อาการ
อาการไข้สูงลอย ปวดศรีษะและหนาวสั่นเป็นอยู่หลายวันอาการระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร ท้องอืดมาก ปวดท้องหลายวันจึงจะถ่ายลักษณะอุจจาระจะเหลว มีกลิ่นเหม็น ม้ามโต ชีพจรเต้นช้าเมื่อเทียบกับอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นจากไข้ อาจเกิดภาวะช็อค หรือภาวะเลือดแข็งตัวกระจายไปทั่วร่างกาย บางรายอาจมีเลือดออกในลำไส้หรือลำไส้ทะลุได้
ในระยะท้ายของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาจะพบว่า ผู้ป่วยมีอาการไข้ ไม่มีเหงื่อออก ชีพจรช้า ซึม ความไวของประสาทรับเสียงลดลง และอาจมีต่อมน้ำลายหน้าและหูอักเสบ ส่วนไข้พาราทัยฟอยด์ มีอาการคล้ายกับไข้ทัยฟอยด์ แต่อาการน้อยกว่า อัตราป่วยตายก็ต่ำกว่ามาก
- การรักษา
- กรณีอาการไม่รุนแรง ผู้ใหญ่ใช้ cotrimoxazole 160/800 มก.วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน เด็กใช้ cotrimoxazole 10 มก.
(trimetroprim) วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน - กรณีอาการรุนแรง ผู้ใหญ๋ใช้ ciprofloxacin 500 มก.วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน เด็กใช้ Ciprofloxacin 10-20 มก.
วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน หากพบเชื้อที่ดื้อยาดังกล่าวจึงพิจารณาใช้ ceftrixone หรือ ofloxacin - ปัจจุบันเชื้อ S. typhi มีการดื้อต่อยาที่กำหนดไว้ในการรักษาเพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้ป่วยในแถบเอเซีย
มีการรายงานสายพันธุ์ที่มีความไวต่อยาลดน้อยลงเมื่อเชื้ออยู่ในร่างกาย - ไม่ควรดูอาการว่า ไข้ลงเร็วหรือช้าว่าเป็นการตอบสนองต่อยาหรือไม่ เพราะไข้จะลงช้า แต่ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายขึ้น
- การป้องกัน
- ให้สุขศึกษาแก่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการเกี่ยวกับอาหารและผู้ดูแลผู้ป่วยและเด็กใน
เรื่องสุขนิสัยในการรักษาความสะอาด เน้นความสำคัญของการล้างมือ จัดให้มีอ่างล้างมือ - จัดให้มีการสุขาภิบาล ในเรื่องการกำจัดอุจจาระ และการป้องกันแมลงวัน ในกรณีที่ไม่มีส้วมควรกำจัดอุจจาระด้วยการฝัง
และที่ฝังจะต้องห่างจากแหล่งน้ำดื่ม - จัดทำให้แหล่งน้ำสะอาดและใส่คลอรีน รวมทั้งการไหลย้อนกลับของระบบน้ำทิ้งซึ่งอาจปนเปื้อนกับแหล่งน้ำสะอาด
สำหรับการป้องกันส่วนบุคคลหรือในชุมชนย่อยนั้น น้ำดื่มน้ำใช้ควรได้รับการต้มหรือใส่คลอรีน - การควบคุมแมลงวัน โดยใช้มุ้งลวด พ่นยาฆ่าแมลงหรือใช้กับดัก ควบคุมการขยายพันธุ์ด้วยการเก็บและทำลายขยะโดยวิธีที่เหมาะสม