มะเร็งตับ
มะเร็งตับ
- อาการ
- เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก
- อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และมีไข้ต่ำๆ
- ปวด หรือเสียดชายโครงด้านขวา อาจคลำก้อนได้
- ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโตและบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง
- มะเร็งที่มีขนาดเล็ก หรือมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ผู้ป่วยในระยะนี้มักจะไม่มีอาการทางกายที่ชัดเจนมากนัก อาจเรียกว่าไม่มีอาการเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อก้อนมะเร็งโตขึ้นแล้ว อาจส่งผลแสดงอาการต่างๆ ได้เช่น ปวด แน่นท้องบริเวณด้านขวาบน หรือหากเป็นก้อนตรงตับกลีบซ้าย อาจมีอาการบริเวณลิ้นปี่ อาจมีอาการเหม็นเบื่ออาหาร ทานไม่ค่อยได้ ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักลดลงโดยไม่รู้ตัว บางคนอาจมีอาการเกี่ยวการย่อยอาหาร ท้องอืด อาหารไม่ย่อย เพราะเคมีน้ำดีในตับบกพร่อง คนที่ก้อนโตมากขึ้น อาจคลำก้อนได้บริเวณใต้ชายโครงขวา รู้สึกท้องโต แน่นตึง บางคนอาจมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หรือมีน้ำไปที่ช่องท้องที่เรียกว่า ท้องมาน เกิดขึ้นได้หากก้อนลุกลามมาก แต่อาการเหล่านี้บางครั้ง อาจเกิดจากภาวะตับแข็งเฉยๆ โดยที่ยังไม่ได้เป็นมะเร็งก็ได้
- การรักษา
- การผ่าตัด เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่หวังผลในการหายขาดได้ แต่ใช้ได้ ในผู้ป่วยที่ก้อนยังไม่โตมาก และการทำงานของตับยังดีอยู่
- การฉีดยาเคมี และสารอุดตันเข้าเส้นเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยง ก้อนมะเร็งทำให้ก้อนยุบลง
- การฉีดยา เช่น แอลกอฮอล์ เข้าก้อนมะเร็ง โดยผ่านทาง ผิวหนังใช้ในก้อนมะเร็งเล็กๆ ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถผ่าตัดได้
- การใช้ยาเคมี ใช้เพียงเพื่อบรรเทาไม่สามารถหายขาดได้
- การฉายแสง ใช้เพื่อบรรเทาอาการของมะเร็ง
- การใช้วิธีการผสมผสาน
- การป้องกัน
- ไม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อรา ระมัดระวังอาหารที่ตากแห้ง รวมทั้งอาหารที่เตรียมแล้ว เก็บค้างคืน เพราะอาจมีเชื้อราปะปนอยู่
- ไม่รับประทานอาหารซ้ำๆ หรืออาหารที่ใส่ยากันบูด
- ไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ปลาดิบ ก้อยปลา เพราะอาจจะทำให้เป็น โรคพยาธิใบไม้ตับหรืออาหารที่หมัก เช่น ปลาร้า ปลาเจ่า แหนม ฯลฯ เพราะมีสาร ไนโตรซามีน ซึ่งทำให้เป็นโรคมะเร็งตับได้
- ควรรับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุกใหม่ๆ
- ถ้ามีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์
- ควรรับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- ไม่รับเลือดนอกจากกรณีจำเป็น
- ลด งด หรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารอะฟลาทอกซิน เช่น ถั่วลิสงคั่วที่มีสารอะฟลาทอกซิน
- งดการฉีดยาเข้าเส้น งดการเสพยาเสพติดโดยการฉีด
- ไม่ใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น
- ผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เช่น ไวรัสบี และซี ควรดูแลและรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์
แหล่งอ้างอิง:
http://www.bangkokhealth.com/index.php/Gastroenterology/3307--liver-cancer.html